การแจ้งเตือน ()
  11/12/2019

เอ๊ดดี้ส์ โฮมเม้ด (Eddie’s Homemade)

กระแสเชนเค้กและขนมหวานชื่อดังทั้งในระดับประเทศและระดับโลกกำลังมาแรง ต่างดาหน้ามาเปิดและขยายสาขาทั่วไทย ในขณะเดียวกันก็มีผู้โหยหาของกินโฮมเมดที่ทำในบ้านจริง ๆ โดยเจ้าของบ้านผู้มีอารมณ์ศิลปินอย่างคุณพีระพงษ์ ตันติเวสส หรือคุณเอ๊ด ครูสอนโยคะผู้มีใจรักในการทำเค้กแห่งเอ๊ดดี้ส์ โฮมเม้ด (Eddie’s Homemade)
เอ๊ดดี้ส์ โฮมเม้ด (Eddie’s Homemade)

คุณเอ๊ดมีชื่อในวงครอบครัวและเพื่อนฝูงมาช้านาน เพราะเจ้าตัวชอบทำเค้กให้คนรอบตัวได้ชิมอยู่เสมอ แต่ไม่เคยยอมทำขาย อาศัยว่าหลานอยากกินเค้กอะไรหรือตัวเองหาเค้กอร่อยถูกปากไม่ได้ก็เลยต้องทำเอง แต่ว่าไม่ได้ร่ำเรียนด้านทำขนมในสถาบันชื่อดังจากยุโรปเหมือนกับเชฟขนมตามร้านดัง ๆ อาศัยใจรัก หมั่นไปเรียนทำขนมที่ศูนย์ฝึกอาชีพ กทม. และฝึกทำ ปรับสูตรจนเชี่ยวชาญ กว่าจะมั่นใจว่าทำขายได้ก็เสียแป้งไปหลายกระสอบอยู่

thumbnail

แรกทีเดียวคุณเอ๊ดทำเค้กไปแจกในหมู่ญาติพี่น้องและเพื่อน ๆ ทำได้ดีจนเพื่อน ๆ ชอบมาก สั่งไปแจกต่อ ก็เลยยุให้ลองทำขายคนทั่วไปที่ชื่นชอบในเค้กโฮมเมดด้วย โดยเพิ่งมีโลโก้เอ๊ดดี้ส์เมื่อ พ.ศ. 2560 เอง แต่ไม่มีหน้าร้านเพราะไม่อยากยุ่งวุ่นวาย และไม่ได้ทำเค้กทุกวันเพราะอยากมีเวลาไปให้สิ่งอื่น ๆ ในชีวิตบ้าง อย่างการสอนโยคะให้กลุ่มเพื่อนและการวาดภาพสีน้ำที่วาดได้สวยอย่างไม่น่าเชื่อว่าไปเรียนมาจากศูนย์ฝึกอาชีพอีกเช่นกัน แสดงว่าฝีมือไม่ได้อยู่ที่ชื่อสถาบัน แต่ความมุ่งมั่นนั้นสำคัญยิ่งกว่า

เค้กโฮมเมดทำเสร็จใหม่ ๆ ออกจากเตาจากบ้านอยู่ที่ในซอยหมู่บ้านศานตินิเวศ หรือซอยลาดพร้าว 115 ให้มาตามถนนลาดพร้าวขาออก จนมาถึงเชิงสะพานลอยยกระดับ (ฝั่งตรงข้ามขวามือคือห้างแม็คโคร ลาดพร้าว) ไม่ต้องขึ้นสะพาน แต่ให้ชิดซ้ายแล้วเลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 115 ตรงเข้าซอยมา ผ่านป้อมยามแล้วตรงมาเรื่อย ๆ เพียง 500 เมตรนับจากปากซอย ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแยกซอยแรก เรียกว่าแยก 7 บ้านคุณเอ๊ดอยู่หลังที่ 3 ทางขวามือถัดจากที่ดินว่างเปล่า บ้านเลขที่ 205 เป็นบ้านเดี่ยวสีขาว หลังคาสีเทา รั้วสีขาว ประตูเข้าบ้านโปร่ง ๆ สีเทาเข้ม ไปรับเค้กได้ที่นี่ที่เดียวเท่านั้น

คุณเอ๊ดทำเค้กจากเตาโฮมเมดธรรมดา ๆ ที่เริ่มจากเตาอบเล็ก ๆ จนพัฒนามาใช้เตาอบแบบมืออาชีพ ตัวเด่นที่หลายคนได้ชิมคำแรกถึงกับโหยหารสชาติที่คุ้นเคยในวัยเยาว์คือเค้กมะตูมหน้าครีมชีส ลูกผสมไทยปนฝรั่ง ความอร่อยอยู่ที่ความชุ่มฉ่ำของเนื้อเค้กเนยที่ใส่เนยจืดไม่ยั้ง ต่างจากเจ้าอื่นที่เป็นเนื้อน้ำมัน อีกทั้งความหอมของเนื้อมะตูมที่แสนจะนุ่มและฉ่ำมาก เคี้ยวได้เป็นชิ้น ๆ คุณเอ๊ดซื้อมาจากเจ้าประจำที่อยู่ทางไปบ้านเกิดที่ลพบุรี ซึ่งเป็นแหล่งทำมะตูมเชื่อมโดยเฉพาะ แต่ก่อนมะตูมเชื่อมเจ้านี้จะหมดฤดูกาลช่วงเดือนกรกฎาคมถึงปลายเดือนมีนาคม คุณเอ๊ดแก้ปัญหาไปซื้อมะตูมเชื่อมมาตุนไว้หลายสิบกิโลกรัม รับรองว่าลูกค้าได้กินเค้กมะตูมตลอดปี

thumbnail

เค้กเจ้านี้อบนานครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็ทิ้งไว้ให้เย็นตัว แล้วโปะหน้าด้วยทีเด็ดอีกอย่างคือครีมชีสที่ปรุงรสเพิ่มแล้ว มีรสเปรี้ยวนิด ๆ เค็มนิด ๆ หอมมันจริง ๆ ซึ่งจะโปะหน้าหนาเกือบนิ้วเลยทีเดียว เวลากินให้ตักเนื้อเค้กผสมกับครีมชีสในคำเดียว ช่างเข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย

จุดเด่นอยู่ที่เนื้อเค้กฉ่ำแต่ไม่เละและไม่แน่นเกินไป ใครอยากกินเค้กเนื้อแน่น ๆ ให้กินทันที แต่ทางที่ดีควรแช่ตู้เย็นไว้ 1 วันแล้วค่อยกิน ด้วยความที่อยากให้ทุกคนได้กินเค้กมะตูมในสภาพที่อร่อยที่สุด พอทำเค้กเสร็จคุณเอ๊ดเลยยังไม่ส่งให้ลูกค้า แต่จะเอาไปแช่ตู้เย็นก่อนให้เนื้อเค้กเข้าที่ วันรุ่งขึ้นค่อยส่ง

thumbnail

คุณเอ๊ดบอกว่าการทำเค้กเป็นงานละเอียด คนทำต้องรู้จักสิ่งที่ทำให้ดีเสียก่อน ทั้งอุปกรณ์ วัตถุดิบ เทคนิค คุณสมบัติของเค้กแต่ละอย่าง แม้แต่อุณหภูมิภายนอกของฤดูกาลนั้น ๆ แล้วพลิกแพลงสูตรให้ได้ความอร่อยในแบบที่ตัวเองพึงพอใจ

อีกทั้งยังมีนิวยอร์กชีสเค้กแบบเพลน ๆ บ้าน ๆ ไม่มีท็อปปิ้ง เนื้อฟู ๆ นิด ๆ ไม่ใส่ครีมชีสหนักเกินไป เน้นสูตรกลาง ๆ กินแล้วไม่อ้วน (มากเท่าไหร่) แม้เป็นเค้กที่หากินได้ทั่วไป แต่ที่อร่อยจริง ๆ หาได้ไม่ง่าย สูตรนี้หลานคุณเอ๊ดได้ชิมแล้วลงความเห็นว่าเหมือนนิวยอร์กชีสเค้กที่เคยกินที่นิวยอร์กจริง ๆ

เค้กทุกชนิดคุณเอ๊ดทำเพราะความชอบของหลาน ยกเว้นบลูเบอร์รีพาย ที่คุณเอ๊ดชอบและอยากทำเอง เพราะเจ้าอร่อยที่เคยกินในร้านอาหารญี่ปุ่นเลิกกิจการไป ด้วยความที่ตามหารสชาติโปรดจากที่ไหนไม่ได้จึงต้องลุกขึ้นมาปรับสูตรเอง เลยได้บลูเบอร์รีพายฐานล่างกรุด้วยคุกกี้ ซึ่งครีมชีสจะมีรสเปรี้ยวกว่า เป็นคนละสูตรกับของเค้กมะตูม

คุณเอ๊ดจะรับออร์เดอร์มารวมกัน ใครอยากกินเค้กก้อนเดียวก็สั่งได้ เดี๋ยวคุณเอ๊ดจัดคิวให้เอง แต่วันหนึ่ง ๆ จะทำเค้กไม่ถึง 20 ก้อน เหตุผลไม่ซับซ้อน แค่อยากทำเค้กให้เสร็จก่อนหนึ่งทุ่มจะได้กินข้าวเย็น ครูโยคะคนนี้ถือหลักว่าต้องฟังร่างกายและทำทุกอย่างให้พอดี ไม่โหมทำหนักเกินกำลังจนชีวิตด้านอื่น ๆ เสียสมดุล

เค้กโฮมเมดเจ้านี้จึงมาจากหัวใจของศิลปินผู้มีใจรักในการทำขนมจริง ๆ ที่ไม่ได้หวังกำรี้กำไรอะไรมากมาย แค่เห็นคนมีความสุขกับการกินก็ดีใจแล้ว