วิเศษไก่ย่าง

บุกมาถึงถิ่นเจ้าตำนานภัตตาคารจีนไหหลำที่ย่านบางโพ คุณชายถนัดศรีเคยเล่าให้ฟังว่าชาวจีนไหหลำในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เข้ามาประกอบอาชีพเป็นกุ๊ก ลูกมือของเชฟฝรั่งที่เข้ามารับราชการในห้องเครื่องวังหลวงและวังเจ้านายชั้นสูง ซึ่งในภายหลังได้ออกมาเปิดร้านอาหารสไตล์กุ๊กช็อป ขายซีเต๊ก ซีตู (สเต๊ก สตู) สลัดเนื้อสัน พอร์กช็อป (ซี่โครงหมูอบถั่วลันเตา) กระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ

ร้านกุ๊กช็อปไหหลำเด็ด ๆ ที่บิดาของผมพาไปชิมตั้งแต่ยังเล็กมีมากมายหลายเจ้า แต่มีอยู่หนึ่งร้านที่ไม่ได้แค่พาไปชิมอย่างเดียว แต่ยังโทร.ไปสั่งแล้วเอากลับมากินที่บ้านจนบัดนี้นับครั้งไม่ถ้วน ร้านนี้มีชื่อว่าวิเศษไก่ย่าง

วิเศษไก่ย่างตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์สาย 1 ตรงสี่แยกบางโพ ปีหน้านี้จะมีอายุครบ 65 ปีแล้ว โด่งดังเรื่องไก่ย่างและอาหารสไตล์กุ๊กช็อป ตลอดจนอาหารไทยและอาหารอีสาน ซึ่งผมคุ้นเคยกับพี่เปิ้ลหรือคุณพิชิต ทายาทของวิเศษไก่ย่างเป็นอันมาก

ตัวภัตตาคารเป็นตึกใหญ่สไตล์โบราณ จุคนได้ 2 ชั้น ราว 40 โต๊ะจีน ปรับปรุงใหม่ติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทั่วทุกห้อง มีห้องจัดเลี้ยง ห้องส่วนตัวหลายห้อง

แน่นอนอาหารที่วิเศษเลิศเลอสมชื่อร้านก็คือไก่ย่างนั่นเอง มีให้เลือกทั้งไก่ไทยหรือไก่บ้าน และไก่เนื้อหรือไก่ฟาร์ม ไก่ไทยนั้นตัวใหญ่เบ้อเริ่มขนาด 1.1 กิโลกรัม ย่างแล้วได้ประมาณ 9 ขีด เต็มจานเปลขนาดใหญ่ ครึ่งตัวคิดจานละ 150 บาท ทั้งตัวคิด 295 บาท เขาใช้ไก่ตะนาวศรีพันธุ์ดีขึ้นชื่อ มาทั้งทีขอให้ลองชิมไก่ไทย เพราะเนื้อสัมผัสของไก่ที่ฝรั่งเรียกว่า Texture นั้นหนึบ ๆ ปนนุ่ม แต่ไม่เหนียวจนต้องใช้ฟันทึ้ง ส่วนไก่เนื้อหรือไก่ฟาร์มนั้นเนื้อนุ่ม ตัวเล็กกว่า สนนราคาย่อมเยากว่าที่คิด 90-180 บาท

ทีเด็ดไม่มีใครเหมือนอยู่ที่น้ำจิ้มไก่ เป็นน้ำจิ้มที่มีกลิ่นรสหอมเอามาก ๆ เคล็ดลับมาจากการใช้น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวเหนียวในส่วนผสม ต่างจากน้ำส้มสายชูกลั่นที่จะมีแต่ความเปรี้ยว ใครติดใจอยากซื้อกลับบ้านก็มีขายด้วย ขวดละ 35 บาท เก็บไว้ในตู้เย็นได้เป็นปี

นอกจากไก่ย่างแล้วยังมีไก่ทอด ซึ่งแปลกกว่าที่อื่นเพราะถ้าสั่งไก่ทอดจะได้ไก่ย่างแล้วนำไปทอดอีกที สั่งแล้วจะได้อย่างนี้ อยากให้ลองชิม อร่อยกว่าไก่ทอดทั่ว ๆ ไปอีก

ไก่ย่างให้กินคู่กับส้มตำปูม้า ทำจากปูม้าสดมาดองกับน้ำปลาและกระเทียม และแช่แข็งไว้ในตู้เย็น เนื้อสดหวานมีรสมีชาติ

เมนูที่คู่กับร้าน มาทีไรต้องสั่งคือมัจฉาหม้อไฟ ประกอบด้วยอาหารทะเลสด ๆ มีเนื้อปลากะพง กุ้ง และปลาหมึก นำไปลวกในหม้อไฟใส่น้ำซุปไก่ปรุงด้วยตะไคร้ ข่า และเกี้ยมบ๊วย ให้ปรุงด้วยน้ำจิ้มรสเผ็ดหอมสีเขียว ๆ ใส่น้ำส้มสายชู ไม่ใช่มะนาว

อาหารไหหลำสไตล์กุ๊กช็อปที่ต้องสั่งอยู่เสมอ ได้แก่ สตูลิ้นวัว ปรุงด้วยมะเขือเทศเข้มข้นหรือ Tomato Paste ใส่มันฝรั่ง แครอท และถั่วลันเตาเยอะ ๆ กินหมดในพริบตา

อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือผัดจับฉ่ายไหหลำ อย่าไปสับสนกับต้มจับฉ่ายนะ ผัดจับฉ่ายเป็นผัดสารพัดสิ่ง มีฟองเต้าหู้ ปลาหมึกแช่ กุ้งแห้ง เห็ดหูหนู ดอกไม้จีน เนื้อหมู ผัดรวมกันแล้วใส่น้ำซุป เติมวุ้นเส้น เคี่ยวจนให้น้ำงวดซึมเข้าไปทุกอณู

อาหารไทย ๆ รสจัดจ้านมีให้เลือกเพียบ ขอแนะนำปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด ผัดกับกะทิและเครื่องแกงนิตยา เครื่องแกงร้านโปรดของครอบครัวผม อีกทั้งมีทอดมันปลากรายแท้ชิ้นหนึบเหนียว และกบผัดกะเพรา กบตัวโต ๆ เนื้อเยอะแทะมัน

เชิญไปชิมได้ทุกวันไม่มีวันหยุด ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม มีบริการนำรถไปจอดให้ด้วย ควรไปกันเป็นหมู่คณะจะได้สั่งอาหารชิมหลาย ๆ อย่าง แย่งกันกินสนุกสนานนะจ๊ะ