บ้านตะโกราย

ตามปกติเวลาไปอยุธยา แทบทุกรายมักจะแวะเลี้ยงฉลองกันตามร้านกุ้งเผา นั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักอย่างมีความสุข แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีร้านอาหารไทยพื้นบ้านอยู่เจ้าหนึ่ง ไม่เข้าข่ายร้านแบบนั้นเลย ที่ตั้งก็ไม่ได้อยู่ริมน้ำ ไม่มีวิวสวย ๆ ให้มอง ตัวร้านตกแต่งอย่างธรรมดาบ้าน ๆ อีกทั้งกุ้งเผาก็ไม่ได้ถือว่าเป็นเมนูหลักประจำร้าน เชื่อหรือไม่ว่า ร้านนี้เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามที่ซ่อนตัวอยู่ เป็นร้านที่ผู้หลักผู้ใหญ่ หน่วยงานราชการต่าง ๆ มักจะพาแขกบ้านแขกเมืองผู้มาเยือนไปเลี้ยงดูปูเสื่อ คงอยากรู้กันแล้วใช่ไหมจ๊ะ ขอเฉลยเลยว่าคือร้านบ้านตะโกราย บ้านตะโกรายซ่อนตัวอยู่ริมถนนสายเอเชียหมายเลข 32 ขาออก เลยทางเลี้ยวเข้าตัวเมืองอยุธยาไปไม่กี่ร้อยเมตร สังเกตทางซ้ายให้ดี จะมีทางลูกรังลำลองให้เลี้ยวเข้าไป มีป้ายบ้านตะโกรายติดอยู่ตรงต้นไม้ โดยร้านจะตั้งอยู่หน้าโรจนะคอนโด-พลาซ่าด้านซ้ายมือ(ถ้าหันหน้าเข้าคอนโด) หน้าตาร้านเป็นเรือนหน้าจั่วสูงใหญ่ชั้นเดียวเปิดโล่ง ด้านซ้ายมือมีห้องปรับอากาศ ดูสะอาดสอ้าน การตกแต่งเป็นแบบบ้าน ๆ แต่เน้นที่ฝีมือการปรุงอาหารจริง ๆ

คุณสมนึก ไทรพิพัฒน์พานิช เจ้าของร้านเป็นคนโคราช และเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน หรือเรียกกันติดปากว่าเทคโนโคราช ซึ่งแต่ก่อนมีต้นตะโกขึ้นอยู่เต็มไปหมด จึงนิยมเรียกศิษย์เก่าที่นี่ว่า ลูกตะโกราย ภรรยาของคุณสมนึกคือแม่ครัวเอกประจำร้าน เคยทำอาหารมาก่อนอยู่แล้ว โดยทำกับน้องสาวอีก 1 คน แรกเริ่มเดิมทีเปิดร้านที่ในบ้าน ตรงหมู่บ้านกรุงศรีซิตี้ หลังโลตัส ทำไปทำมา 3 ปี ลูกค้าหลั่งไหลมากันมาก จึงย้ายมาเปิดร้านตรงนี้ได้ 7-8 ปีแล้ว เห็นไหมครับว่าถ้ามีฝีมือเสียอย่าง ย้ายไปที่ไหน ผู้คนก็จะตามไปอุดหนุนอยู่ดี อย่างที่บอกไปแขกของร้านมีทั้งคนกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียงที่ดั้นด้นกันมา ตลอดจนผู้ว่าฯ ผู้การ ผู้ใหญ่ ผู้คนในอยุธยาเอง เพื่อมาลิ้มลองเมนูซิกเนเจอร์เด็ด ๆ 4 อย่าง ก็คือคะน้าปลาเค็ม แสร้งว่ากุ้ง ผัดกระดูกอ่อนใบยี่หร่า และสายบัวผัดกุ้ง คะน้าปลาเค็ม(150 บาท)เด็ดไม่เหมือนใคร ผัดคะน้าไฟแรง ๆ กรอบ ๆ แล้วเอาปลาเค็มทอดกับหมูสับชิ้นเล็ก ๆ มารวนเข้าด้วยกัน คลุกกับกระเทียมกรอบ ๆ แล้วราดหน้าผัดคะน้าอีกที ปลาเค็มหมูสับแห้งๆร่วนๆเอามาคลุกข้าวกิน อร่อยเหาะจริง ๆ นอกจากร้านบ้านตะโกราย ก็เคยเห็นคะน้าปลาเค็มแบบนี้ที่ร้านนิรมิต วิเศษชัยชาญ อ่างทองอีกเจ้าหนึ่งเท่านั้น อาหารจานเด็ดเผ็ดจนเหงื่อซึมคือผัดกระดูกอ่อนใบยี่หร่า(150 บาท) กระดูกหมูอ่อนสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผัดกับพริกแกงสูตรประจำร้าน ใส่ผงยี่หร่าและผงลูกผักชี แกล้มด้วยกระเทียมโทนดองกับใบยี่หร่าสดเผ็ดร้อนซาบซ่านดี

แสร้งว่ากุ้ง(250 บาท)รสจัด ๆ หอม ๆ เปรี้ยวเค็มอมหวานกับเผ็ดนิด ๆ ใส่กุ้งแม่น้ำตัวเล็ก ๆ ย่าง และขิงซอย ตะไคร้ ต้นหอม ผักชี หอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำตาลและน้ำปลา เอามาคลุกข้าวสวยร้อน ๆ แกล้มด้วยแตงกวากับขมิ้นขาว อร่อยจนเห็นสวรรค์รำไร สายบัวผัดกุ้ง(150 บาท) ก็อร่อยหอม ใส่กุ้งมันแก้วสีส้ม ๆ ตัวเล็ก ๆ ปรุงด้วยซีอิ๊วขาว และมีทีเด็ดเคล็ดลับคือใส่ปลาหมึกหยองจืดแห้ง ๆ ชิ้นแบน ๆ เล็ก ๆ เพื่อเพิ่มรสชาติความหอมอีกด้วย นอกนั้นก็มีเมนูพื้นบ้านอื่น ๆ อีกเพียบ ทั้งทอดมันปลากราย(250 บาท)ตีเองจนเนื้อเหนียวหนึบ ใส่พริกแกงตัวเดียวกับกระดูกอ่อนผัดใบยี่หร่า แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย(250 บาท)รสเข้มข้น ให้ถามว่าวันนี้มีปลาแม่น้ำอะไรบ้าง เราสั่งปลาค้าวทอดราดน้ำปลา(350 บาท) ปรุงน้ำปลารสอมหวาน และฉู่ฉี่ปลาค้าว(300 บาท) ใช้พริกแกงตัวเดียวกัน