สมัยตอนเป็นเด็ก ยังจำได้ว่าพ่อชอบพาไปกินข้าวต้มเป็ดที่ย่านสำราญราษฎร์แถวเทศบาลอันเป็นชื่อเดิมของกทม.ในตอนนี้เป็นประจำ
ขอแนะนำของกินอร่อยยามราตรีที่เดี๋ยวนี้หากินได้ยาก ไม่ค่อยมีคนทำกันแล้ว นั่นก็คือข้าวต้มเป็ด สมัยตอนเป็นเด็ก ยังจำได้ว่าพ่อชอบพาไปกินข้าวต้มเป็ดที่ย่านสำราญราษฎร์แถวเทศบาลอันเป็นชื่อเดิมของกทม.ในตอนนี้เป็นประจำ
ในย่านนี้มีข้าวต้มเป็ดอยู่เจ้าหนึ่งชื่อว่า ชวนชิม ขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อนับได้เกือบ 60 ปี ตัวร้านยังอยู่ที่เดิมหาง่าย ริมถนนดินสอ ข้างศาลาว่าการกทม.หลังเก่า ใกล้กับร้านมนต์นมสด
ที่จอดรถแถวนี้หายากหน่อย หน้าร้านกว่าจะจอดได้ก็หลังสี่ทุ่มไปแล้ว หรือที่ถนนมหรรณพข้าง ๆ ก็ต้องหลัง 2 ทุ่ม ขอแนะนำให้รีบไปช่วงก่อน 6 โมงเย็น แล้วไปจอดที่โรงแรมศรีกรุงเทพ ด้านข้างกทม. ฝั่งถ.ศิริพงษ์ จอดได้ประมาณ 10 กว่าคัน คิดค่าจอดชั่วโมงละ 30 บาท แล้วเดินทะลุหน้าตึกกทม. ข้ามมาฝั่งถนนดินสออีกที
ปัจจุบันนี้เฮียนพ นพรัตน์ ศศิสัจจา รุ่นที่ 2 ในวัย 70 กว่าปียังดูแลร้านอยู่เช่นเดิม โดยรับช่วงต่อจากพ่อมาตั้งแต่ปี 2536 ช่วงกลางวันร้านนี้จะขายเปาะเปี๊ยะสดกับก๋วยเตี๋ยวหมู พอ 5 โมงเย็นเป็นเวลาเปลี่ยนกะ มาขายข้าวต้มเป็ด โดยพร้อมขายหลัง 6 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงเที่ยงคืน จากเฮียนพก็เปลี่ยนเป็นคุณกอล์ฟ ภรรยาของเฮียนพแทน
คุณชายถนัดศรีเคยเล่าให้ฟังว่า ข้าวต้มเป็ดในอดีตนี้คือข้าวต้มเครื่อง ที่ปรุงเป็ดใส่หม้อน้ำซุปแยกไว้ต่างหาก พอจะกินก็ตักเอามาผสมกันกับข้าวต้ม เติมกระเทียมเจียว โรยใบขึ้นฉ่าย เหยาะพริกไทยเยอะ ๆ แต่ก่อนนั้นตามแม่น้ำลำคลองมีเจ้าข้าวต้มเป็ดพายเรือขายให้คลาคล่ำ นอกจากเป็ดยังมีข้าวต้มปลา โดยมากมักจะขายปลาช่อนหั่นเป็นชิ้น ๆ ปรุงสุกแล้วใส่หม้อไว้ต่างหากเช่นกัน
จากนั้นข้าวต้มเป็ดก็ยกพลขึ้นบก มีเครื่องปรุงใส่หม้อแยกไว้เช่นเดิม ที่ร้านชวนชิมก็ยังต้มข้าวใส่ใบเตยในหม้อดินเหมือนแต่ก่อนจึงหอมหวนชวนกินยิ่งนัก ส่วนน้ำซุปเป็ดใส่ทั้งเนื้อหน้าอกเป็ดติดหนัง เครื่องในและเลือดเป็ด ที่เฮียนพจะต้องเคี่ยวจนเนื้อนุ่มใช้เวลาครึ่งชั่วโมงจนน้ำงวด แล้วค่อยเติมน้ำลงไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุง อาทิ ซีอิ๊วขาว น้ำปลา และใส่น้ำตาลลงไปด้วยนิดหน่อย นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคราอื่น ๆ อีกเพียบทั้งไส้เป็ด ปีกเป็ด เครื่องในเป็ด กระเพาะหมู หมูสับ ใส่หม้อแยกไว้เต็มหน้าร้าน นอกจากนี้ยังมีเนื้อปลาเก๋า และกุ้ง ให้เลือกอีกด้วย
เมื่อลูกค้าสั่งข้าวต้ม ก็จะตักเครื่องพร้อมน้ำซุปในหม้อต่าง ๆ มาผสมกันกับข้าวต้ม(ยกเว้นกุ้งที่ต้องลวกก่อน) ใส่ตั้งฉ่าย ขึ้นฉ่าย ต้นหอม โรยพริกไทย ใส่น้ำมันกระเทียมเจียว เท่านี้ก็จะได้ข้าวต้มเครื่องกลิ่นหอมฉุย สนนราคาถ้าเป็นข้าวต้มเป็ด(ใส่เนื้อเป็ดผสมกับเครื่องในเป็ด) หรือข้าวต้มกระเพาะหมู หมูสับชามละ 50 บาท ส่วนข้าวต้มปลาเก๋าและข้าวต้มกุ้ง คิดชามละ 60 บาท
ขอแนะนำข้าวต้มรวมมิตรชามละ 60 บาท ใส่ทั้งเนื้อเป็ด กระเพาะหมู หมูสับ เลือดเป็ดและเครื่องในเป็ด อร่อยครบเครื่องกันไปเลย น้ำซุปหอมหวาน เครื่องเครามีรสชาติเข้าเนื้อในตัว
เอาเป็นว่าอยากใส่อะไรให้บอกคุณกอล์ฟได้เลย เครื่องในเป็ดไม่มีความคาวแม้แต่น้อยนิด หัวใจเป็ดหอมมัน เลือดเป็ดสดมากเคี้ยวดังกึ๊ด ๆ และเด็ดที่สุดคือไส้เป็ดซึ่งเป็นไส้แก้วกรอบ ๆ อร่อย กระเพาะหมูก็นุ่มอร่อยชิ้นโตเต็มคำ หมูสับหอมพริกไทย จะกินกึ๋นและตับเป็ดก็มีให้เลือกทั้งนั้น
ให้สั่งไส้เป็ดกรอบ ๆ และกระเพาะหมูนุ่ม ๆ มาต่างหากอย่างละจาน(80-100 บาท)จิ้มด้วยน้ำส้มพริกตำอร่อยเหาะ หรือจะสั่งเกาเหลา(80-100 บาท) มากินกับข้าวสวยแทนก็ได้
ที่นี่ไม่ได้มีแค่ข้าวต้มเป็ดอย่างเดียว มีของอร่อยอีกอย่างที่ควรสั่งมาด้วย นั่นก็คือหอยแครงลวก(100 บาท)สดหวาน ลวกมาสุกกำลังดีมีเลือดเล็กน้อย แนะนำว่าให้จิ้มกับน้ำจิ้มหวานใส่ถั่วลิสงผสมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด เอา 2 ถ้วยผสมกันเลย เข้ากันดีมาก นอกจากนี้ยังมีจับฉ่าย(60 บาท)นุ่มหอมปรุงรสออกหวานหน่อย
ถ้าผ่านมาช่วงกลางวัน ให้แวะลองชิมเปาะเปี๊ยะสด(40 บาท)น้ำราดหวานกลมกล่อมกำลังดี ไส้ครบเครื่องทั้ง กุนเชียง เต้าหูพะโล้ แตงกวา เฉพาะเปาะเปี๊ยะสดนี้ไม่ได้มีทุกวัน โดยจะหยุดช่วงวันศุกร์-เสาร์อาทิตย์
อยากย้อนอดีตลิ้มลองเมนูดั้งเดิมที่หากินยากในยุคนี้ มาได้ทุกวันตอนค่ำตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน หยุดทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือนโทรสอบถามได้ที่ 0-2224-1137 และ 08-1833-6565
18:00–24:00 น. ทุกวัน หยุด ทุกวันจันทร์ที่ 2 ของเดือน
188 ถนนดินสอ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพฯ 10200
ริมถนนดินสอ ข้างศาลาว่าการกทม.หลังเก่า ใกล้กับร้านมนต์นมสด