โกสินทร์

ถ้าจะให้จัดอันดับเจ้าเป็ดพะโล้ในกรุงเทพฯที่ชื่นชอบมากที่สุด ตำแหน่งนี้คงจะต้องยกให้ร้านเป็ดพะโล้โกสินทร์แห่งย่านเสนานิคมเป็นแน่

โกสินทร์คนเดิมคือผู้ทำเป็ดพะโล้รสชาติดีคงเส้นคงวาไม่เปลี่ยนแปลงมาตลอด 37 ปี มีพื้นเพเป็นคนอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ขึ้นมาเมืองกรุงทำเป็ดพะโล้ ใส่รถเข็นขายเริ่มแรกในปี 2525 นับเป็นความบังเอิญที่คุณชายถนัดศรีกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เหลือบไปเห็นเป็ดพะโล้โกสินทร์น่ากิน จึงสั่งไปลองชิมบ้าง เพียงคำแรกที่ได้ลิ้มลองก็รู้สึกประทับใจ คุณชายถนัดศรีจึงเขียนแนะนำเป็ดพะโล้เจ้านี้ ได้ตรารับรองความอร่อยตั้งแต่ปีแรกที่ทำขาย

ผมโชคดีได้ลิ้มลองเป็ดพะโล้โกสินทร์ครั้งแรก เมื่อผู้พันเป้งแห่งร้านสนั่นข้าวต้มปลา (หรือสนั่นอาหารทะเล) ซื้อเป็ดพะโล้มาเป็นกับข้าวเสริมที่ร้าน เนื่องจากช่วงนั้นพ่อแวะเวียนไปที่ร้านสนั่นแทบทุกเย็น ราวกับเป็นห้องกินข้าวที่สองของบ้านเรา คงกลัวพ่อจะเบื่อ จึงเอาเป็ดมาเสริมเปลี่ยนรสเปลี่ยนชาติบ้าง และแล้วก็เช่นเดียวกัน ผมก็ชื่นชอบมากจนต้องบอกต่อ

ตอนนี้โกสินทร์มีร้านรวงเป็นของตนเอง โดยยังใช้รถเข็นคันเดิมจอดอยู่หน้าร้าน แถมยังมีลูกชายมาร่วมด้วยช่วยทำอีกคน ตัวร้านตั้งอยู่อยู่ในตึกแถว 1คูหาเล็ก ๆ ริมถนนเสนานิคม 1 (ผมเรียกติดปากว่าซอยเสนานิคม) ทางไปร้านจากถนนพหลโยธินขาออก พอเลยแยกรัชโยธินที่มีโรงหนังเมเจอร์อยู่ทางซ้าย ห้ามขึ้นสะพานลอยถัดไป ให้วิ่งพื้นราบแล้วไปเลี้ยวขวาที่สามแยกเสนานิคม เข้าถนนเสนานิคม 1 ตรงไปเรื่อย ๆ จนถึงสี่แยกไฟแดงวังหิน ตรงเข้าไปอีกประมาณ 700 เมตร พอเลยปากซอยเสนานิคม 1 ซอย 23 จะเห็นรถเข็นเป็ดพะโล้อยู่หน้าตึกแถวฝั่งซ้าย จุดสังเกตฝั่งตรงข้ามด้านขวามีร้านหนังสือใหญ่ ๆ ชื่อรัตนาภรณ์ และมีซอยใหญ่ชื่อเสนานิคม 1 ซอย 40 หรือคือซอยช.อมรพันธุ์9 (ซอย1) ซึ่งหน้ารถเข็นมีป้ายเชลล์ชวนชิมเป็ดพะโล้โกสินทร์เห็นได้ชัดเจน

ถ้ามาช่วงนอกเวลาเร่งด่วนจนถึงบ่าย 3 โมง สามารถจอดรถริมถนนได้ โดยสลับฝั่งตามวันคู่วันคี่ โปรดดูให้ดีจอดให้ถูกฝั่งนะจ๊ะ

ทุก ๆ วันโกสินทร์จะตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้า ทำความสะอาดเป็ดที่รับมาจากเจ้าประจำโดยถอนขนละเอียดออกให้หมด เป็ดที่ใช้จะขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กหนักประมาณ 2.5 กิโลกรัม นำมาต้มกับน้ำพะโล้ที่ซื้อเครื่องปรุงจากเยาวราชมาผสมเอง โดยกะระยะเวลาการต้มด้วยความชำนาญ ถ้าเป็นเป็ดอ่อนก็ใช้เวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมง ถ้าเป็ดมีอายุก็เพิ่มเวลาต้มเป็นเกินชั่วโมง พอเป็ดพะโล้ได้ที่ก็พร้อมขายในช่วง 10 โมงเช้าของทุกวัน

ขอบอกว่ามาร้านโกสินทร์อย่าชะล่าใจ เพราะบางครั้งช่วงต้นเดือนเพียงแค่ตอนเที่ยงก็ขายหมดแล้ว ถ้าเป็นช่วงปลายเดือนอาจจะขายไปจนถึง 5 โมงเย็น ทางที่ดีควรมาตั้งแต่ตอนสาย 10 โมงกว่าเลย เนื่องจากว่าโกสินทร์ต้มเป็ดคนเดียว ทำแบบพอเพียงหมดแล้วหมดเลยทุกวัน ไม่ขยายใหญ่โต เดี๋ยวจะคุมคุณภาพไม่ได้

นี่คือสาเหตุที่ว่าเป็ดพะโล้โกสินทร์อร่อยคงเส้นคงวา น้ำพะโล้รสชาติเข้มข้นถึงใจ เอามาคลุกข้าวอย่างเดียวก็อร่อยแล้ว อีกทั้งเนื้อเป็ดนุ่มมีรสชาติเข้าเนื้อ หนังหอม ไม่เหนียวหรือมีกลิ่นสาบใด ๆ แม้แต่น้อย จิ้มกับน้ำจิ้มพริกตำสีเขียว ๆ ที่ใช้น้ำส้มสายชูของดี มีครบทุกรสแซ่บอร่อย

คนชอบกินเป็ด พอเริ่มชิมคำแรกแล้วขอบอกว่าจะหยุดไม่ได้ จึงขอแนะว่าให้สั่งเป็ดพะโล้มาเป็นจาน ๆ เลย แล้วสั่งข้าวเปล่ามาต่างหากอีกจาน ที่เห็นในรูปคือจานละ 120 บาท ผมกินคนเดียวกำลังดี ถ้ามาหลายคนให้สั่งจานใหญ่ 220 บาทไปเลย นอกจากเป็ดพะโล้แล้ว ให้สั่งเครื่องในเป็ดมาด้วยอีก 1 จาน มีทั้งกึ๋น ตับและหัวใจ เลือดเป็ดพะโล้ ก็สดเป็นก้อนอร่อยเช่นกัน นอกจากนี้เขายังมีชิ้นส่วนเป็ดอื่น ๆ อีก ซึ่งสามารถสั่งเป็นถุง ๆ ได้ มีปีกเป็ด และของดีคือลิ้นเป็ดพะโล้ ใครชอบแทะก็มีคอเป็ดด้วย จะเห็นได้ว่าครบเครื่องเรื่องเป็ดจริง ๆ

นอกจากข้าวหน้าเป็ดพะโล้แล้ว เดี๋ยวนี้น้องทรงฤทธิ์ ลูกชายโกสินทร์ยังตั้งรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ อยู่ข้าง ๆ กับพ่อเลย สูตรสำเร็จของผมคือต้องสั่งเกาเหลาเป็ดพะโล้ มากินคู่กันด้วย หรือจะกินเป็นก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ก็ได้ มีให้เลือกทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ และบะหมี่ ซึ่งควรสั่งเส้นบะหมี่ลวกมากินคู่กับเป็ดพะโล้สับด้วย เข้ากันดีมาก ๆ ใครติดใจอยากซื้อเป็ดพะโล้ทั้งตัวก็คิดตัวละ 440 บาท

โกสินทร์ขายเป็ดพะโล้ทุกวัน โดยจะหยุดไม่แน่นอนเดือนละ 2 วัน ช่วงกลางเดือนและปลายเดือน ทางที่ดีให้โทรมาสอบถามก่อนที่ 0-2561-0709 หรือ 08-9071-1999 หรือ 08-3139-2060 ขอบอกว่าเป็ดพะโล้เจ้านี้ถือเป็นที่สุดของที่สุดจริง ๆ