หอยแครงลวกเจ๊ภา

ทำเลที่ตั้งร้านเจ๊ภานั้นอยู่ห่างจากวงเวียนใหญ่แค่ประมาณ 150 เมตร อยู่ตรงปากซอยลาดหญ้า 1 (ซอยสารภี 2) ถ้านำรถมาให้ขึ้นไปจอดบนห้าง Platform วงเวียนใหญ่ (หรือเซ็นทรัลและโรบินสันลาดหญ้าเดิม) ซึ่งตั้งอยู่ก่อนถึงปากซอย จอดได้ฟรี 3 ชั่วโมง เดินออกจากห้างเลี้ยวซ้ายไม่กี่ก้าวก็ถึงรถเข็นเจ๊ภาที่มีหอยแครงเป็นกองพะเนินเทินทึก และคนมุงหนาตาตั้งแต่ยังไม่ทันตั้งร้านเสร็จดี

เจ๊ภาจะเข็นรถออกมาตั้งริมทางตอนบ่าย 4 โมงของวันอังคารไปจนถึงวันอาทิตย์ โดยหยุดทุกวันจันทร์ ทุกวันพระใหญ่ ได้แก่ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา วันออกพรรษา และวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันหยุดประจำปี) ราชการหยุดวันไหน ทางร้านก็หยุดวันนั้นเช่นกัน เช่น วันหยุดปีใหม่ วันหยุดสงกรานต์ วันพ่อและวันแม่ เป็นต้น แต่ในวันทำการ ทางร้านจะขายไปถึง 3 ทุ่มโดยประมาณ

เนื่องจากร้านเจ๊ภาได้รับความนิยมเป็นอย่างมากถึงขนาดมีแฟนคลับมายืนรอเข้าแถวตั้งแต่เปิดร้าน แนะนำว่าควรรีบไปเร็ว ๆ แต่อย่าเผลอไปนั่งโต๊ะที่ตั้งด้านในหน้าตึกแถว เก้าอี้สีชมพู เพราะนั่นเป็นของอีกร้าน (ร้านปูอบหม้อดินเจ้าแรกนับจากปากซอย ส่วนร้านเจ๊ภาเป็นร้านที่ 2 มีป้ายชื่อร้านสีแดงติดอยู่หน้ารถเข็น) เขาไม่ส่งอาหารให้กันด้วย ส่วนโต๊ะของเจ๊ภาจะอยู่ริมถนน มีไม่กี่โต๊ะ และสามารถนั่งตรงเคาน์เตอร์หน้ารถเข็นที่ทำเป็นขอบยื่นออกมาได้อีก 4 คน ส่วนใครมาช้าก็ยืนรอคิวเป็นแถวเป็นแนว มีทั้งพวกที่ซื้อกลับและรอกินที่ร้าน ซึ่งเขาจะมีการจดคิวไว้ด้วย ไม่มีการแซงคิวกัน

มาร้านนี้สั่งไม่ยุ่งยากเพราะมีเมนูเดียวคือหอยแครงลวกเท่านั้น สิ่งที่ดึงดูดใจแฟนคลับนักชิมหอยทั้งหลายให้มารวมตัวกันอยู่ ณ ที่นี้ก็เป็นเพราะความสด กรอบ เด้งของหอยแครงลวกเจ๊ภา ที่สามารถพูดได้เลยว่าอร่อยที่สุดในประเทศไทยเท่าที่เคยกินมาทีเดียว เจ๊ภาบอกว่ารับหอยแครงมาจากเจ้าประจำที่เพชรบุรี นำมาล้างแล้วผึ่งไว้ให้หอยคายดินออกมา แต่ถ้าแช่น้ำหอยจะไม่อ้าปาก เจ๊ภาใช้วิธีนี้มาตั้งแต่ขายหอยแครงลวกจานละ 10 บาท

นอกจากเจ๊ภาแล้วยังมีจอย ลูกสาว และตูมตาม หลานชาย ทำหน้าที่ลวกหอย เวลาสั่งหอยแครงลวกสามารถบอกได้ว่าจะเอาแบบสุกปกติ หรือแบบสุกน้อยมีเลือดซิบ ๆ หวานสด การลวกหอยไม่มีใครบอกได้ว่าต้องลวกแบบไหนกี่นาที แม้แต่เจ๊ภาซึ่งบอกว่าใช้ประสบการณ์กะเอา ผมแนะนำให้ลองชิมทั้ง 2 แบบ (ซึ่งผมชอบแบบมีเลือดมากกว่า) สนนราคาจานละ 80 บาท สั่งใส่ถุงกลับบ้านคิด 100 บาท

ทีเด็ดอีกอย่างของร้านก็คือน้ำจิ้มหอยแครง ถ้าเลือกน้ำจิ้มปกติ ที่ร้านจะปรุงจากน้ำจิ้มซีฟู้ดผสมกับน้ำตาลทรายขาวเคี่ยวและถั่วลิสงป่น โรยหน้าด้วยผักชี มีรสชาติครบเปรี้ยว หวาน เผ็ด หรือถ้าไม่ชอบหวานก็สั่งเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ดเฉย ๆ ซึ่งหอมกลิ่นพริกขี้หนูสดกับพริกจินดาผสมกัน และสูตรนี้จะใส่น้ำส้มสายชูผสมกับน้ำมะนาวแท้ในอัตราส่วน 1 ต่อ 4 โดยประมาณเพื่อให้มีความเปรี้ยวยิ่งขึ้น หรือถ้าสั่งน้ำจิ้มเผ็ดน้อย ที่ร้านก็จะผสมน้ำจิ้มซีฟู้ดน้อย ๆ เน้นแต่น้ำตาลเคี่ยว จึงมีรสหวานกว่า ถ้าสั่งหอยแครงลวกใส่ถุงกลับบ้าน หากไม่ระบุว่าเอาน้ำจิ้มอะไรทางร้านจะจัดน้ำจิ้มสามรส ถ้าซื้อน้ำจิ้มเพิ่มคิดราคาถุงละ 20 บาท

ผมไปยืนดูน้องตูมตามลวกหอยในหม้อ พอสุกได้ที่ก็ใช้ฝาเบียร์เปิดฝาหอยให้ทุกตัว ตัวไหนมีโคลนก็จะป้ายออกให้ ถึงไม่เจอโคลนในหอยให้เสียอารมณ์สักตัวเลย

อุปกรณ์การกินแต่ละโต๊ะจะมีจานเล็กพร้อมส้อม อีกทั้งถังสเตนเลสเล็ก ๆ สำหรับใส่น้ำล้างมือ และผ้าขาวบางสำหรับไว้เช็ดมือ ส่วนน้ำดื่มนั้นใครอยากกินเป็นขวดก็ซื้อจากร้านสะดวกซื้อใกล้ ๆ ได้เลย

สรุปว่าสมควรแก่การตามไปชิมนะจ๊ะ ผมกินแล้วท้องไม่เสียด้วย ก่อนไปให้โทร.ถามก่อนที่เบอร์ 09-0281-9338 จะได้ไม่ไปเก้อ