รุ่งเรือง ก๋วยเตี๋ยวหมูสุขุมวิท 26

เจ้านี้ขายกันมานานกว่า 55 ปี รุ่นพ่อขี่สามล้อถีบตระเวนขายแถบซอยสุขุมวิทต้น ๆ จากนั้นก็มาเปิดร้านรวงเป็นที่เป็นทางในตึกแถวใกล้ปากซอยสุขุมวิท 26 เมื่อราว 47 ปีก่อน จาก 1 คูหาก็ขยับขยายกลายเป็น 3 คูหา ต่อมาเมื่อปี 2537 ลูก ๆ รุ่นที่ 2 อันประกอบด้วยพี่ชายกับน้องชายจึงตกลงกันกั้นห้อง ต่างคนต่างขาย โดยพี่ชายได้ไป 2 คูหา ส่วนน้องชายที่ชื่อคุณเฉลิมชัย หรือเฮียตั๋ง ได้ห้องหัวมุม 1 ห้อง ซึ่งพี่น้องก็เกื้อหนุนจุนเจือกันมาโดยตลอด ไม่ได้ทิ้งกัน

โดยส่วนตัวผมชอบกินร้านหัวมุมของเฮียตั๋งน้องชาย ซึ่งความจริงทั้งรสชาติและความอร่อยของทั้ง 2 ร้านก็แทบไม่ได้แตกต่างกันเลย เพียงแต่ว่าผมติดใจในลีลาของเฮียตั๋งสมัยยังหนุ่ม ผู้ทำหน้าที่รับออร์เดอร์ลูกค้าเสียงดังฟังชัดราวกับติดลำโพง แถมเวลาคิดเงินยังบวกเลขลื่นปรู๊ดปร๊าดด้วยความไวกว่าเครื่องคิดเลขเสียอีกด้วยเสียงอันดังเช่นกัน จนลูกค้าพากันตั้งฉายาให้ว่าเฮียคอมพิวเตอร์ เฮียเฉินหลง เฮียฮ้อ (มาจากคำพูดติดปากตอนรับออร์เดอร์ว่าฮ่อ ๆ )

เดี๋ยวนี้พวกเราอดได้เห็นลีลาท่าทางของพี่ท่านแล้ว เพราะเฮียตั๋งหันมาดูแลความเป็นไปในร้าน แต่เขากับภรรยาจะมาช่วยเสริมทัพช่วงเที่ยงที่ลูกค้าแน่นร้าน เพราะปกติมีลูกชายกับลูกสาวช่วยกันอย่างขยันขันแข็ง โดยลูกสาวคนกลางนั้นช่วยรับลูกค้าและดูแลออร์เดอร์ ส่วนลูกชายคนเล็กประจำการช่วยชงก๋วยเตี๋ยวแทนปะป๊า และในบางวันลูกสาวคนโตที่จบปริญญาโทก็มาร่วมด้วยช่วยขายอีกคนหนึ่ง

สำหรับผู้ที่นำรถมาเอง จากถนนสุขุมวิทเมื่อเลี้ยวเข้าซอย 26 ไปเพียง 100 เมตรให้มองหาที่จอดรถซ้ายมือ ซึ่งอยู่เลยปั๊มน้ำมันไปนิดเดียว จะมีคนบริการโบกรถให้ (เสียค่าจอดตามอัธยาศัย 20 บาทเป็นมาตรฐาน) เสร็จแล้วข้ามถนนไปที่ร้านซึ่งอยู่เยื้องกันเลยไปนิดเดียว

คำเตือนคือให้หลีกเลี่ยงช่วงเที่ยง ๆ กับช่วงวันสุดสัปดาห์ เพราะจะมีผู้คนไปอุดหนุนที่ร้านนี้ราวกับมีงานเลี้ยง จึงอาจไม่มีที่จอดรถแถมยังต้องรอโต๊ะอีกนานด้วย นี่ยังไม่รวมถึงคนที่มารุมล้อมซื้อกลับบ้านอีกต่างหาก

ของอร่อยเด็ดที่ใคร ๆ ก็ถวิลหาคือก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส จุใจกับเครื่องในทั้งตับหมู ไส้นุ่ม ๆ และหัวใจหนึบสดอร่อย หั่นชิ้นโตให้อร่อยกันเต็ม ๆ คำ ซึ่งเครื่องในนี้ต้องเตรียมตั้งแต่ตี 5 โดยมีเจ้าประจำที่ซื้อกันมาตั้งแต่รุ่นเฮียตั๋งจากตลาดคลองเตยคัดเครื่องในสด ๆ มาส่งให้ทุกวัน นำมาล้างให้สะอาดแล้วต้มกันวันต่อวัน นอกจากนี้ก็มีหมูต้มหั่นเป็นชิ้น ๆ นุ่มอร่อยเช่นกัน และหมูบะช่อหรือหมูสับที่สุกนุ่มกำลังดี รสชาติแสนหอมหวาน ซึ่งเขาหมักหมูสับด้วยกระเทียม น้ำตาล และพริกไทยไว้ตั้งแต่เช้า เคล็ดลับความนุ่มหอมหวานนอกจากใช้เนื้อหมูที่ผสมมันหมูเพียงเล็กน้อยพอให้ติดกันเป็นก้อน ไม่ใส่มันหมูเยอะไปจนมันเลี่ยนแล้ว ทางร้านจะต้มหมูสับในหม้อจนสุกเพียงครึ่งเดียวแล้วเอาขึ้นมา จากนั้นตักน้ำซุปร้อน ๆ ราดสัก 2-3 เที่ยวจนได้ที่ และใส่เครื่องลูกชิ้นปลากับฮื่อก้วย

เส้นก๋วยเตี๋ยวมีให้เลือกทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ บะหมี่เส้นนุ่มเหนียวที่รับจากเจ้าประจำ วุ้นเส้น และเกี้ยมอี๋ สนนราคาแบ่งเป็น 3 ขนาด เล็ก กลาง ใหญ่ ราคาตั้งแต่ 50, 60 และ 70 บาทตามลำดับ ชามเล็กปริมาณกำลังอิ่มพอดี ส่วนใครชอบเครื่องเยอะ ๆ ไม่เน้นเส้นต้องสั่งชามกลาง สำหรับชามใหญ่เอาใจคนกินจุเพราะเพิ่มให้ทั้งเส้นและเครื่อง ส่วนหนังปลากรอบก็มีขายเป็นถุง ถุงละ 20 บาท

ถ้าสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำแห้ง (สูตรมะนาว) เขาจะใส่พริกป่นที่คั่วเองทุก 2 สัปดาห์พร้อมถั่วลิสงคั่วบดมาให้เลย ใครไม่กินเผ็ดให้บอกด้วย คลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากันก็อร่อยแล้ว แต่ถ้าใครมีรสประจำสามารถปรุงเพิ่มโดยเติมน้ำปลากับน้ำตาลตามใจชอบ ที่ถูกใจมาก ๆ คือมีทั้งน้ำมะนาวแท้และน้ำส้มพริกดองให้เลือกปรุง ขอแนะว่าให้เติมทั้ง 2 อย่างเลย เข้ากันดีจริง ๆ น้ำมะนาวสด ๆ นี้เขาคั้นกันทุกวันและมีบริการตลอดแม้กระทั่งในหน้าแล้งยามที่มะนาวแพงก็ไม่เคยงด

สูตรสำเร็จของผมคือสั่งเล็กแห้งมา 1 ชาม ปรุงรสจัด ๆ ต่อด้วยเกี้ยมอี๋น้ำหรือต้มยำอีก 1 ชาม ซึ่งน้ำซุปหอมหวานนั้นได้จากการนำน้ำที่ใช้ต้มเครื่องในและต้มหมูมาต้มกับกระดูกท่อนใหญ่ ๆ ที่เรียกว่าเอียเล้งนานกว่า 3 ชั่วโมง แล้วค่อยเติมเครื่องเทศ แต่ไม่เน้นปรุงรสน้ำซุป อาศัยความหวานตามธรรมชาติที่ได้จากเครื่องในและกระดูกหมูเลย ถ้าอยากได้รสชาติน้ำซุปแบบเต็ม ๆ แนะนำให้สั่งเกาเหลาลูกชิ้นหมูสับ แต่ถ้าอยากได้น้ำซุปเปล่า ๆ มาซดให้คล่องคอก็สั่งได้ ชามละ 10 บาท

กฎกติการ้านนี้คือมาแล้วให้สั่งครั้งแรกพร้อมกันทั้งโต๊ะ ซึ่งจะได้ตามคิวก่อนหลัง โต๊ะไหนมาก่อนได้ก่อน แต่ถ้าอยากสั่งเพิ่มหรือสั่งต่ออีกเขาจะลัดคิวให้เลย ไม่ต้องรอให้เสียอารมณ์

เครื่องดื่มในร้านมีน้ำลำไย เก๊กฮวย โอเลี้ยงที่ทางร้านต้มเอง บรรจุขวดละ 20 บาทเพื่อให้สะดวกสำหรับลูกค้าที่สั่งกลับบ้าน นอกจากนี้ยังมีน้ำส้มคั้นที่รับมาขายราคาขวดละ 30 บาท

ร้านนี้อร่อยคงเส้นคงวาเป็นขวัญใจของคนในย่านนั้นจริง ๆ สนใจอยากลองบ้างให้ตามไปชิมได้ทุกวัน ตั้งแต่เช้า 8 โมงครึ่งไปจนถึง 5 โมงเย็น