144-sorabol-teaser-restdetail-m-1
144-sorabol-teaser-restdetail-m-2
144-sorabol-teaser-restdetail-m-3
เปิดอยู่
ถึง 22:00
ซอราเบิล(SO RA BOL)

“ร้านโปรดของไอดอลเกาหลีเมื่อมาเยือนเมืองไทย รับประกันรสชาติต้นตำรับสไตล์เกาหลี 100%”

ซอราเบิล(SO RA BOL)

“ร้านโปรดของไอดอลเกาหลีเมื่อมาเยือนเมืองไทย รับประกันรสชาติต้นตำรับสไตล์เกาหลี 100%”

 

ตัวร้านอยู่ตรงข้ามหมู่บ้านญี่ปุ่น นิฮอนมาชิ (Nihonmachi) ถนนสุขุมวิท 26 ด้านหลังโครงการเค วิลเลจ (K Village) อยู่ในตึกที่สร้างขึ้นมาต่างหาก มีที่จอดรถด้านหน้า หรือจะจอดริมถนนโดยรอบ (ซึ่งต้องเสียเงินค่าจอด) ได้อีกต่างหาก ข้างในร้านสว่างไสว ตกแต่งด้วยไม้สลับกับผนังและพื้นสีขาว มี 2 ชั้น ใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวสามารถจองห้องไพรเวตได้ มีทั้งหมด 9 ห้อง แบ่งเป็นห้องเล็ก 3 ห้อง และห้องใหญ่อีก 6 ห้อง โดยไม่มีค่าบริการเพิ่มเติม ร้านนี้เจ้าของเป็นคนเกาหลีที่มาตั้งรกรากในเมืองไทย เคยทำร้านรับทัวร์เกาหลี (โคเรียน่า) อยู่ที่พัทยา และย้ายมากรุงเทพฯ (ทำร้านอีกชื่อหนึ่ง) อยู่ที่สุขุมวิท 22 จนในที่สุดมาเปิดร้านซอราเบิลที่นี่นานกว่า 12 ปีแล้ว โดยตอนนี้มีรุ่นที่ 2 มาช่วยดูแลร้านคือลูกชาย ชื่อคุณจงซุกซู หรือคุณจอห์น แต่คุณแม่ของคุณจอห์นก็ยังมาคอยดูแลลูกค้าที่ร้านทุกวันนอกเหนือไปจากมาดามคนเกาหลีกับผู้จัดการร้านหนุ่มชาวพม่าชื่อนาย ซึ่งพูดและฟังภาษาไทยได้คล่องแคล่วคอยรับรองแขก

thumbnail

จากนั้นให้เดินมุ่งหน้าต่อไปยังริมน้ำ ร้านฮงเส็งโภชนาอยู่สุดทางด้านขวามือของตัวสะพาน ทางเดินเข้าร้านมีแสงส่องสว่างเข้ามาได้เต็มที่ทำให้ดูสดใสกว่าสมัยก่อน ตัวร้านยังเป็นเรือนไม้โบราณเช่นเดิม ทาสีขาว-ฟ้าสว่างสะอาดตา พื้นปูด้วยไม้กระดานแผ่นใหญ่ ๆ ยาว ๆ ใครมาเป็นต้องจับจองโต๊ะด้านริมน้ำ รับลมเย็นสบายเป็นที่สุด ร้านนี้เปิดมาได้ 60 กว่าปีแล้ว ว่าการโดยคุณศรีนวล สิทธิกรวงศ์ หรือคุณหมวย เจ้าของร้านรุ่นที่ 2 ตอนนี้มีหนุ่มสาวรุ่นที่ 3 มาช่วยด้วยอีกต่างหาก ไม่ต้องถามว่าฮงเส็งคือชื่อใคร เดาได้ไม่ยากว่าเป็นคุณพ่อผู้ก่อตั้งร้าน จุดเด่นของร้านซอราเบิลคือพนักงานให้บริการด้วยหน้าตายิ้มแย้ม อัธยาศัยดี และมาช่วยจัดการปิ้งย่างอาหารบนเตาซึ่งถือเป็นเมนูหลักประจำร้านให้ลูกค้าทุกโต๊ะอย่างคล่องแคล่ว ข้อดีของการมาร้านเกาหลีแท้ ๆ คือมีเครื่องเคียงของกินเล่นใส่ในถ้วยเล็ก ๆ ให้ฟรี รวมถึงกิมจิที่ร้านนี้ทำเองด้วย มีทั้งกิมจิหัวไชเท้า กิมจิผักกาดขาว ยำผักโขม (หมายถึงยำสไตล์เกาหลีใส่น้ำมันงา) ยำมะเขือยาวซอยเส้นเล็ก ๆ ยำถั่วงอก ยำต้นหอม สลัด ผัดลูกชิ้นปลา และแพนเค้กผักรวม ซึ่งกิมจิมี 2 ชนิด หมัก 2-3 วันสำหรับกินแกล้ม และหมัก 7-10 วันสำหรับนำมาปรุงเป็นซุปหรือผัดอาหาร ซึ่งลูกค้าเกาหลีนิยมพกกิมจิหมักนานเป็นปีติดตัวมากินที่ร้านเองด้วย

ก่อนอื่นให้สั่งเมนูเสริมมาลอง ได้ความหลากหลายของรสชาติ ร้านซอราเบิลมีเมนูเด่นมากมายทั้งแพนเค้กใส่ต้นหอมและปลาหมึกกระทะร้อน (Haemulpajeon) เคล็ดลับอยู่ที่แป้งแพนเค้กที่ทางร้านใส่ซอสเกาหลีช่วยให้รสชาติอร่อยกลมกล่อม ก่อนใส่ต้นหอมซอยและปลาหมึกกล้วยลงไป ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนญี่ปุ่นและคนไทย อีกทั้งไข่ตุ๋นในชามร้อน หรือไข่ตุ๋นทรงเครื่องเกาหลี คเยรันจิม (Gaelan Jjim) ใช้ไข่ไก่ 2 ฟอง ใส่แครอท ต้นหอม ปรุงด้วยซีอิ๊วเกาหลี ตุ๋นนาน 7 นาที เป็นเมนูที่ทำตามออร์เดอร์ ไม่มีตุ๋นทิ้งไว้จนไข่กระด้างให้ต้องเสียอารมณ์คนกิน ส่วนคนชอบกินเนื้อให้สั่งยำเนื้อดิบเกาหลี ยุค ฮเว (Yukhwe) ใช้เนื้อออสเตรเลียสดส่วนที่ไม่มันนำมาซอยเป็นเส้น ๆ ไม่คาวเลย คลุกงาขาวกับซีอิ๊วเกาหลีและต้นหอมซอยกับกระเทียมสับ กินกับไข่แดงดิบ กระเทียมสด และสาลี่ซอยเป็นเส้น ๆ เช่นกัน

แน่นอนว่าเมนูหลักคือบาร์บีคิวปิ้งย่างเกาหลีบนเตาถ่านซึ่งฝังอยู่ในโต๊ะ มีเครื่องดูดควันเสร็จสรรพ ซึ่งที่นี่จะเปลี่ยนตะแกรงให้ตลอดเวลา ไม่มีควันโขมงให้เสียอารมณ์ สารพัดเมนูเนื้อและหมูมีหลากหลาย ที่ห้ามพลาดเลยคือเนื้อติดซี่โครงหมักซอส (Yang Nyum Galbi) เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน ทีเด็ดอยู่ที่ซอสที่ใช้หมักทำจากเครื่องเทศไม่ต่ำกว่า 15 ชนิด ผสมกับซอสเกาหลีอีก 2 ชนิด และน้ำที่คั้นจากผลไม้สดอย่างสาลี่ แอปเปิลแดง และสับปะรด ราดบนซี่โครงเนื้อออสเตรเลียที่ม้วนกว้าง ๆ หนา ๆ พันรอบกระดูกที่เลาะเนื้อออกแล้ว พนักงานจะใช้กรรไกรตัดเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ ย่างจนสุกควันกรุ่นหอมชวนกิน อีกอย่างคือเนื้อติดซี่โครงแบบไม่หมักซอส (Saeng Galbi) เนื้อแบบนี้จะมีมันแทรกมาลายเนื้อยิ่งดีเข้าไปอีก ปกติทางร้านจะไม่ราดซอสเพื่อให้ได้รสชาติเนื้อเต็ม ๆ แต่ถ้าใครต้องการใช้ซี่โครงแบบนี้ไปหมักซอสแบบเมนูแรกก็ได้ และอีกอย่างที่คอเนื้อห้ามพลาดคือเนื้อริบอาย (Deung Shim) ไม่หมักซอส ชิ้นโต ๆ ต่อด้วยเมนูยอดนิยม เนื้อสไลซ์หมักซอสหรือบุลโกกิ (Bulgogi) คือเนื้อสะโพกชิ้นบาง ๆ หมักซอสรสหวาน ๆ หอม ๆ

thumbnail

ส่วนเมนูพระเอกสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อก็ต้องสั่งซี่โครงหมูหมักซอส (Dwaeji Galbi Gochujang Gui) ซึ่งซอสมีสีส้ม ๆ จากซอสโคชูจังรสเผ็ดเพิ่มความถูกปากคนไทย แต่ถ้าเป็นคนเกาหลีก็จะนิยมสั่งให้หมักซอสคันจัง เป็นซีอิ๊วเกาหลีรสหวาน ๆ สีเข้ม ๆ เหมือนบุลโกกิแทน ถ้าชอบติดมันต้องสั่งหมูสามชั้นสไลซ์บาง (Sam Gyeop Sal) ซึ่งชิ้นไม่บางเลย นอกจากนี้ยังมีหมูผัดซอสพริกเกาหลี เป็นหมูสันคอที่มีมันนิดหน่อยเพื่อให้ความนุ่ม ผัดมาให้เป็นกับข้าวเลยอีก 1 จาน แต่ถ้าเป็นคนเกาหลีจะกินกับผักสดและพริกชี้ฟ้า กับเครื่องเคียงที่เป็นต้นหอมกับใบกุยช่ายซอยผัดซอส ส่วนผัดวุ้นเส้น (Jabchae) เป็นเมนูที่คนไทยชอบมาก ใช้วุ้นเส้นเกาหลีที่เหนียวและนุ่มกว่าวุ้นเส้นไทยนิดหนึ่ง ผัดกับปวยเล้ง ต้นหอม แครอท ใส่หมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ โรยด้วยไข่ซอยฝอยเป็นเส้น ๆ เวลากินเนื้อย่างที่หมักซอส คนเกาหลีจะจิ้มน้ำจิ้มซัมจังที่เหมือนซอสข้น ๆ หนืด ๆ มีส่วนผสมของเต้าเจี้ยวเกาหลี แล้วห่อด้วยผักกาดหอม ส่วนหมูสามชั้นย่างที่ไม่หมักซอสนั้นเข้ากันดีกับน้ำจิ้มน้ำมันงาผสมเกลือ พริกไทย นอกจากนี้ยังมีน้ำจิ้มที่หน้าตาคล้ายแจ่วของคนไทย เป็นซีอิ๊วผสมโคชูจังเพิ่มความเผ็ด ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู งา น้ำตาลทราย โรยต้นหอมซอย สำหรับจิ้มแพนเค้กเกาหลี และคนไทยชอบเอาไปจิ้มเนื้อย่างด้วย ใครไม่สะใจกับความเผ็ดระดับนี้ก็เติมพริกขี้หนูซอยกับกระเทียมสดที่หั่นมาเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะได้ตามชอบเลย

thumbnail

กินเนื้อย่างก็ต้องมีเมนูน้ำๆ ไว้ซดคู่กัน เมนูยอดนิยมคือ ซุปกิมจิหมูเต้าหู้ กิมจิจิเก (Kimchi jjigae) คนกินเนื้อให้สั่ง ซุปใสหางวัวและซุปเนื้อแบบเผ็ด นอกจากซุปก็มีข้าวขาว และถ้ามาหลายคนให้สั่งแกงกิมจิหม้อไฟต่าง ๆ ที่หนึ่งกินได้ถึง 2-3 คน เมนูฮิตคือ แกงกิมจิแฮมไส้กรอก (Budae Jjigae) และแกงเผ็ดกิมจิผักรวม (Kimchi Jeongol) เป็นเมนูสุขภาพที่รวมสารพัดผักทั้งผักกาดขาว ต้นหอมญี่ปุ่น แครอท พริกชี้ฟ้าแดงและเขียว ผักปวยเล้ง เห็ดเข็มทอง แล้วยังมีเต้าหู้ขาวกับหมูสามชั้นอีกด้วย ปรุงรสด้วยน้ำกิมจิและเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้ออกรสเผ็ดเปรี้ยวนำ

ปกติเสิร์ฟพร้อมราเม็น (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี) ถ้าไม่จุใจสั่งราเม็นเพิ่มได้ ส่วนคนเกาหลีชอบก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่ทางร้านทำเส้นเองเสิร์ฟมาเป็นชาม เรียกว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำเกาหลีเส้นสด ใครชอบกินข้าวต้องสั่งข้าวยำเกาหลี บิบิมบับ (Bibimbab) มีให้เลือก 3 อย่าง แนะนำข้าวยำเกาหลีหน้าเนื้อดิบ เสิร์ฟในชามหินร้อนเพื่อให้ข้าวและเนื้อสุกระอุในระดับหนึ่ง มีข้าวกับซอสโคชูจัง เนื้อสด ไข่ดิบ กระเทียม ปูอัด ผักต่าง ๆ เช่น ถั่วงอก แครอท กวางตุ้ง มะเขือยาว แตงกวา มาพร้อมซุปสาหร่าย แต่ถ้าไม่สันทัดของดิบให้สั่งข้าวยำแบบปกติได้ มีให้เลือกทั้งเมนูเนื้อและหมู วัตถุดิบเหมือนกันทุกอย่างกับข้าวยำหน้าเนื้อดิบเพียงแต่เสิร์ฟแบบสุกแล้วทั้งเนื้อและไข่ดาวที่วางโปะบนข้าว และเลือกได้ว่าจะเสิร์ฟในชามหินร้อนหรือชามธรรมดา อร่อยถูกปากตั้งแต่ศิลปินเคปอปจนถึงชาวเกาหลีแท้ ๆ ขนาดนี้ ชาวไทยสายเกาทั้งหลายไม่ควรพลาดเมนูเกาหลีต้นตำรับด้วยประการทั้งปวง

รายละเอียดร้าน
ที่อยู่
12/73 ซ.อรรถกระวี 1 ถ.สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110
เวลาทำการ
ทุกวัน 11:00-22:00 น.
วิธีไป / จุดสังเกต
อยู่ตรงข้ามหมู่บ้านญี่ปุ่นนิฮอนมาชิ (Nihonmachi) ถนนสุขุมวิท 26 ด้านหลังโครงการเค วิลเลจ (K Village)
โทร
02-204-1203-4
ที่จอดรถ
มีที่จอดรถ
ประเภทอาหาร
อาหารเกาหลี
ประเภทรสชาติ
ต้นตำรับ
ลักษณะของร้าน
ร้านอาหาร
ราคาเริ่มต้นต่อจาน
100
ช่วงเวลายอดนิยม
(Peak Time)
ช่วงค่ำของทุกวัน และวันสุดสัปดาห์
เวลาที่ครัวปิด
(Last order)
-
  • เวลาทำการ

    ทุกวัน 11:00-22:00 น.

  • ที่อยู่

    12/73 ซ.อรรถกระวี 1 ถ.สุขุมวิท 26 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ 10110

  • วิธีไป / จุดสังเกต

    อยู่ตรงข้ามหมู่บ้านญี่ปุ่นนิฮอนมาชิ (Nihonmachi) ถนนสุขุมวิท 26 ด้านหลังโครงการเค วิลเลจ (K Village)

ติดต่อร้านอาหาร
Arrow Page Up