“ร้านสารพัดเมนูขนมอบที่เสิร์ฟทั้งเมนูคาวหวานในบรรยากาศอบอุ่นสุดโรแมนติก”
ทางไปร้านให้ใช้เส้นทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ด้านที่มาจากถนนพระราม 3 ผ่านโครงการดิอัพ พระราม 3 ตรงหัวมุมสี่แยกถนนนราธิวาสฯ ตัดกับถนนรัชดา-พระราม 3 มาเพียง 300 เมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาสฯ 24 (หรือซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ของปากซอยอีกฟากหนึ่ง) เข้ามานิดเดียวให้เลี้ยวซ้ายเข้าวัดโพธิ์แมนคุณารามก็จะเห็นร้าน Soufflé and me อยู่ทางขวามือก่อนถึงวัด จอดรถได้ในวัดโพธิ์แมนฯ มีรถกอล์ฟบริการรับส่งถึงร้าน
บรรยากาศร้านนี้แสนจะอบอุ่น น่ารัก โรแมนติก สวยหวาน เหมือนหลุดเข้าไปนั่งอยู่ในร้านเฟรนช์บิสโทร (French Bistro) เก๋ ๆ ในกรุงปารีส มองปราดเดียวก็รู้ว่าที่นี่เก่งเรื่องขนมหวานฝรั่งเศส ได้กลิ่นขนมอบหอม ๆ ตลบอบอวลไปทั่ว อย่าลืมไปชมครัวเปิดทำขนมอบด้านในด้วย
เนื่องจากร้านนี้กำลังเป็นที่นิยม ขอแนะว่าให้โทร.จองโต๊ะก่อนที่เบอร์ 0-2674-0442 และ 09-0978-0442 นะจ๊ะ มีมุมเก๋ ๆ ให้เลือกนั่งทั้งชั้นล่างและชั้นบน (มีห้องส่วนตัว 8 ที่นั่งด้วย) ทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ด้วย แต่จุคนได้เพียง 62 ที่เท่านั้น
ร้าน Soufflé and me ไม่ได้มีเพียงของหวานเท่านั้น ยังมีเมนูอาหารหลากหลายถึง 50 กว่าอย่าง แบ่งเป็นหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า (มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ 08.00-11.00 น.) อย่างแพนเค้กแฟลป (Flap) หรือแผ่นแป้งห่อไข่ เฟรนช์โทสต์ ไข่ต่าง ๆ เครป หรืออาหารช่วงปกติ 11 โมงถึง 4 ทุ่มทุกวัน แต่สุดสัปดาห์เปิดบริการยาวตั้งแต่ 8 โมงถึง 4 ทุ่ม มีตั้งแต่ฟริตตาตา (Frittata) หรือออมเล็ตหรือไข่เจียวอิตาเลียนที่มีเครื่องต่าง ๆ ให้เลือกแล้วนำไปอบกับชีส อาหารจานเบา เช่น ซุป สลัด ของกินเล่น พาสต้าต่าง ๆ และอาหารจานหลัก
ที่เด่นกว่าร้านอื่นก็คือนางเอกของเรา ซูเฟล่ ทั้งชนิดคาวที่เรียกว่าซาวอรี (Savory) และซูเฟล่หวานทั้งแบบคลาสสิก ซิกเนเจอร์ และอินโนเวทีฟรวมกันอีกถึงกว่า 20 เมนู นี่ไม่นับขนมหวานอื่น ๆ อีกเกือบ 20 อย่างเลยทีเดียว
ก่อนอื่นต้องบอกว่าการทำซูเฟล่ต้องใช้เวลาประมาณ 20 นาที จึงต้องรอกันหน่อย แต่เชฟไก่ก็นำข้อจำกัดนี้มาเป็นคอนเซปต์เก๋ ๆ ว่า Giving Time is Love เมื่อความรักคือการให้เวลา การรอซูเฟล่ถือเป็นการแบ่งปันความสุขกับคนที่เรารักให้ได้มีห้วงเวลาแห่งความรักด้วยกัน
ฉะนั้น การได้กินอาหารกับคนที่เรารักก็ต้องสละเวลารออาหารกันสักนิด และเมื่อถึงเวลาชิมก็อย่ามัวพิรี้พิไรถ่ายรูป ให้ชิมตอนร้อน ๆ ก่อนซูเฟล่จะยุบตัวเสียก่อน
เราสั่งซูเฟล่ซาวอรีเมนูซูเฟล่ทรัฟเฟิล (Truffle) กับซอสครีมเห็ด ที่หอมกลิ่นทรัฟเฟิลมาก ๆ ทำจากเบสที่เป็นไข่แดง นม ครีม แป้งอเนกประสงค์ แป้งข้าวโพด และผสมกับเห็ดป่า เห็ดชิเมจิ เห็ดแชนเทอเรล เห็ดหอมแห้ง และเห็ดแชมปิญอง ซึ่งต้มและปั่นรวมกัน ใส่ทรัฟเฟิลเพสต์ลงไป กวนจนเป็นคัสตาร์ด และโฟลด์กับเมอแร็งก์ อบที่ 200 องศาเซลเซียสนาน 13 นาที เวลากินให้เจาะรูตรงกลาง ใส่ซอสครีมเห็ดลงไป กินกับเห็ดรวมผัด ซึ่งซูเฟล่คาวอื่น ๆ ที่น่าลิ้มลองยังมีซูเฟล่ล็อบสเตอร์กับซูเฟล่ตับห่านอีกด้วย
ส่วนซูเฟล่ขนมหวานเมนูยอดนิยมของคนไทยคือซูเฟล่นูเทลล่าช็อกโกแลตกับกล้วยหอมเคลือบคาราเมล ซูเฟล่ครีมชีสโอซากากับไอศกรีมน้ำผึ้ง ซูเฟล่ชาเขียวกับไอศกรีมวานิลลาราดถั่วแดง ซูเฟล่ส้มยูซุกับไอศกรีมวานิลลา และซูเฟล่มะตูมเชื่อมกับไอศกรีมกะทิสด
แต่ซูเฟล่ที่ฝรั่งชอบกันมากคือซูเฟล่มะกรูดกับไอศกรีมกะทิสด บีบน้ำมะกรูดสดเพิ่มลงไปด้วย และซูเฟล่บลูชีสกับไอศกรีมลาเวนเดอร์ อบนาน 18 นาที ซึ่งจะให้บลูชีสรสเข้มข้นมาต่างหาก เมนูที่ต่างชาติชอบยังมีซูเฟล่ช็อกโกแลตเข้มข้น (Guanaja) ซูเฟล่รสส้ม (Orange
Grand Marnier) กับแยมส้มและไอศกรีมวานิลลา และซูเฟล่มะม่วงกับไอศกรีมกะทิสด มีให้เลือกมากจนละลานตาทีเดียว
ส่วนของกินอื่น ๆ ที่น่าลิ้มลองมีอีกมากมาย เช่น ทาร์ทาร์ (Tartare) หรือเนื้อสันในออสเตรเลียสด ๆ รมควันไม้บาร์เรล เป็นเมนูที่หากินไม่ยากแต่เชฟไก่เพิ่มความพิเศษด้วยการนำไปรมควันไม้บาร์เรล ปรุงด้วยลูกเคเปอร์ มัสตาร์ด กระเทียม หอมแดง น้ำมันมะกอก ซอสพริกทาบาสโก เวลากินให้ตักไข่แดงดิบลงไปคลุกเคล้า แกล้มด้วยแตงดอง ต่อด้วยหอยแมลงภู่บูโช (Bouchot) อบซอสสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ใส่พริกจินดาลงไปด้วยจึงมีรสเผ็ดอร่อย หรือสาวกอาหารฝรั่งเศสจะสั่งอบไวน์ขาวก็ได้เหมือนกัน เมนูนี้มีเฉพาะวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์เท่านั้น
หรือลองไก่อบหนังกรอบ (Chicken Confit) หมักเกลือรมควันไม้ไผ่แล้วทำให้สุกช้า ๆ ในน้ำมัน (กรรมวิธีกงฟีหรือ Confit) ซึ่งเชฟไก่ดัดแปลงให้เร็วขึ้นโดยเข้าเตาอบนาน 2 ชั่วโมงแล้วทอดให้หนังกรอบ เนื้อไก่ละลายในปากแต่หนังกรอบ กินกับมันบดรสกะหรี่ ราดซอสเกรวีไก่ใส่พริกแห้ง ให้ความรู้สึกถึงข้าวหมกไก่ อีกเมนูที่ควรสั่งคือฟริตตาตา (Frittata) ไข่เจียวอิตาเลียนใส่เนื้อปู เบคอน และมันฝรั่ง อบหน้าชีส 4 ชนิดนาน 7 นาที หอมมันมาก รสชาติกลมกล่อม แต่จะให้ถูกปากคนไทยต้องจิ้มกินกับซอสศรีราชาอีกนิด ส่วนจานหลักเบา ๆ คือปลากะพงขาวน้ำลึก (Barramundi) ย่างราดซอสต้นกระเทียมฟองดูว์ ใช้ปลากะพงที่จับได้ตามธรรมชาติส่งตรงจากสุราษฎร์ธานี จึงไม่มีกลิ่นดินเหมือนปลาเลี้ยงในกระชัง และเนื้อปลามีความฉ่ำกว่า นำมาทำให้สุกอย่างช้า ๆ จนนุ่มด้วยวิธีซูวีด (Sous-vide) และจี่ในกระทะจนหนังกรอบ
มีเมนูพิเศษของฝรั่งเศสชื่อว่าคัสซูเลเดอตูลูส (Cassoulet de Toulouse) เป็นอาหารพื้นเมืองของตูลูสที่อยู่ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ประกอบด้วยเนื้อหัวไหล่แกะ เนื้อเป็ดกงฟี เบคอน ไส้กรอกแบบคันทรี ถั่วขาว ตุ๋นในเตาอบนาน 6-7 ชั่วโมง ท็อปหน้าด้วยเกล็ดขนมปังคลุกพาร์เมซานชีส
แค่อาหารก็ชิมกันจนพุงกางจริง ๆ นี่ยังไม่นับขนมหวาน พันนาคอตตารมควันลาเวนเดอร์ราดซอสเบอร์รี อีกทั้งสตรอว์เบอร์รีทาร์ตที่ใช้สตรอว์เบอร์รีเกาหลีลูกโต ๆ กับเชอร์รีทาร์ต และอัลมอนด์ทาร์ต ที่สลับหมุนเวียนขายโชว์ในตู้ขนมหน้าร้าน สาว ๆ ที่กลัวอ้วนไม่ต้องกังวล
เมนูของหวานร้านนี้ไม่หวานมากอย่างที่คิด เพราะเชฟไก่ไม่ชอบกินหวาน ขนมทั้งร้านเลยเป็นรสชาติแบบเดียวกับที่เธอกิน
ร้านซูเฟล่แอนด์มีเปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม (วันเสาร์-อาทิตย์มีอาหารเช้าบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้าด้วย) รีบพาคนที่คุณรักไปลิ้มลอง รับรองว่าอารมณ์ดีมีความสุขตลอดวัน
วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 11:00-22:00 น. วันเสาร์-อาทิตย์เปิดขายอาหารเช้า 08:00-11:00 น. และให้บริการตั้งแต่ 08:00-22:00 น.
417 ซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 24 (ซอยสาธุประดิษฐ์ 19) แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
ใช้เส้นทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ด้านที่มาจากถนนพระราม 3 ผ่านโครงการดิอัพ พระราม 3 ตรงหัวมุมสี่แยกถนนนราธิวาสฯ ตัดกับถนนรัชดา-พระราม 3 มาเพียง 300 ร้อยเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยนราธิวาสฯ 24 (หรือซอยสาธุประดิษฐ์ 19 ของปากซอยอีกฟากหนึ่ง) เข้ามานิดเดียวให้เลี้ยวซ้ายเข้าวัดโพธิ์แมนคุณารามก็จะเห็นร้าน Soufflé and me อยู่ทางขวามือก่อนถึงวัด จอดรถได้ในวัดโพธิ์แมนฯ แล้วจะมีรถกอล์ฟบริการรับส่งถึงร้าน