227-MrsWu-hotpot-teaser-rest-detail-mobile_01
227-MrsWu-hotpot-teaser-rest-detail-mobile_02
227-MrsWu-hotpot-teaser-rest-detail-mobile_03
11:00
ถึง 23:00
Mrs. Wu Hot Pot (มิสซิสวู ฮ็อตพ็อต)

โดย เชฟแรนดี้-ชัยชัช นพประภา กับเชฟชาร์ลี กาเดอร์

Mrs. Wu Hot Pot (มิสซิสวู ฮ็อตพ็อต)

โดย เชฟแรนดี้-ชัยชัช นพประภา กับเชฟชาร์ลี กาเดอร์

image description

อยากจัดเต็มกับสุดยอดร้านบุฟเฟต์ฮ็อตพ็อต(Hot Pot) หรือหม้อไฟสไตล์จีนโมเดิร์น คุณภาพพรีเมียมคุ้มค่าเกินราคา มีให้เลือกกินไม่อั้นหลากหลายในเวลา 90 นาที ต้องมาที่ร้าน Mrs. Wu Hot Pot(เรียกสั้น ๆ ว่า มิสซิสวู) บนชั้น 3 ของอาคาร Portico ถนนหลังสวน ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย ด้วยรสนิยมของหุ้นส่วนเจ้าของร้านที่ชอบชิมแต่ของดีมีคุณภาพ อันประกอบไปด้วยเชฟ แรนดี้ ชัยชัช นพประภา แห่งร้าน Fillets และเชฟชาลี เคเดอร์ (Chalee Kader) แห่งร้าน 100 Mahaseth และร้านอื่น ๆ อีกหลายร้านเช่น Holy Moly กับหุ้นส่วนคนอื่น ๆ รวมกันนับสิบคน ซึ่งล้วนแล้วแต่ชอบกินชาบู สุกี้ มีระดับ ตระเวนไปทั่วที่มาเก๊า ฮ่องกง ไต้หวัน ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าที่มิสซิสวูเน้นแต่เครื่องเคราชั้นดีกินอร่อยเท่านั้น เจ้าของร้านสร้างคาแรคเตอร์ให้มิสซิสวูคือสาวชาวอเมริกันเชื้อสายจีนรุ่นลูกหลานในซานฟรานซิสโก การตกแต่งร้านนี้จึงให้บรรยากาศของร้านในไชนาทาวน์ที่อเมริกา มีบาร์เก๋ ๆ ตรงกลางร้าน และมีเมนูอาหารจีนหลากหลายรูปแบบกลิ่นอายอินเตอร์ โมเดิร์นไชนีส

image description

ในช่วงนิวนอร์มอล มิสซิสวูได้ปรับรูปแบบของบุฟเฟต์เหลือเพียง 2 ระดับราคา (ไม่มีระดับพรีเมียมสูงสุดแล้ว เนื่องจากของบางอย่างยังนำเข้ามาได้ไม่ครบ) ซึ่งในบุฟเฟต์จัดทุกอย่างให้ครบถ้วนเป็นที่เรียบร้อย โดยมีน้ำซุปให้เลือกทั้งหมด 4 อย่าง ในหม้อฮ็อตพ็อต 1 หม้อนั้นแบ่งได้มากสุด 3 ช่อง แต่ถ้ามาเป็นหมู่คณะ นั่งโต๊ะใหญ่มี 2 เตา ก็สามารถเลือกน้ำซุปหม้อละ 2 อย่างได้ครบ 4 ชนิด มีตั้งแต่ซุปกระดูกหมูสไตล์กวางตุ้ง ที่เคี่ยวจากหมูถึง 5 ส่วนนานกว่า 6 ชม. แนะนำให้เลือกน้ำซุปชนิดนี้เพราะเข้มข้นหวานหอมมีรสชาติในตัว และมีซุปปลาแห้งกับโชยุนาเบะใส่ไวน์แดงเพิ่มกลิ่นหอม อีกทั้งซุปหมาล่าใส่ฮวาเจียวหรือพริกไทยเสฉวน แต่ไม่เยอะเกินไปจนกินแล้วลิ้นชา ปิดท้ายด้วยซุปปลาแห้งสไตล์ญี่ปุ่น เรียกว่าซุปโบนิโต้โกลเด้นดาชิ(Bonito Golden Dashi) ใส่ปลาแห้งถึง 3 ชนิดกับมิรินและสาหร่าย ส่วนน้ำจิ้มก็มีให้เลือกถึง 8 ชนิด ตัวหลัก ๆ มี 4 อย่าง มีน้ำจิ้มซาฉ่าน้ำพริกเผาไต้หวันที่เยี่ยมมาก น้ำจิ้มเต้าหู้ยี้สุกี้โบราณ(ทั้ง 2 อย่างนี้เหมาะกับน้ำซุปกระดูกหมู) น้ำจิ้มพอนสึเปรี้ยว ๆ และน้ำจิ้มงาและเนยถั่ว(เหมาะกับซุปปลาแห้งกับโชยุนาเบะ) ส่วนน้ำซุปปลาแห้งโกลเด้นดาชินั้นเข้ากันดีกับน้ำจิ้มทั้ง 4 ชนิด ส่วนซุปหมาล่าจะมีน้ำจิ้มซีอิ๊วจีนกับน้ำส้มสายชูหน้าตาข้น ๆ คู่กันเป็นพิเศษ และคนชอบกินเนื้อขอให้สั่งไข่ดองซึ่งจะดองกับซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูหมักจากข้าวเหนียวจนหอมมาก พอลวกเนื้อวัวหรือเนื้อหมูเสร็จ เอามาจิ้มไข่ดอง รับรองจะติดใจ นอกจากนี้ยังขอน้ำจิ้มแจ่วอีสานและน้ำจิ้มซีฟู้ดสีส้ม ๆ เพิ่มเติมได้ถ้าต้องการ

image description

ที่ร้านฝากบอกมาว่าในไม่ช้านี้น้ำซุปไก่ต้มขมิ้นปักษ์ใต้กำลังจะกลับมาตามเสียงเรียกร้อง คู่กับน้ำจิ้มน้ำพริกกะปิรสเค็มอมเปรี้ยว ก่อนอื่นให้สั่งของกินเล่นสไตล์จีน(ต้องสั่งเพิ่ม ไม่อยู่ในบุฟเฟต์)มีเต้าหู้ยูนนานคั่วพริกเกลือ(120++) สลัดแตงกวาดอง(60++)เปรี้ยว ๆ กรอบ ๆ ผัดถั่วฝักยาวหมาล่าหมูสับ(160++)แบบเสฉวน รสชาติอร่อยเหมือนกับร้านจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาเปิดในเมืองไทย ส่วนบุฟเฟต์ All You Can Eat นั้นจะมี 2 ราคาคือ 699 บาท++(823 บาทสุทธิ) บุฟเฟต์ซีรีส์เนื้อไทย ซึ่งมีทั้งเนื้อไทยวากิวจากสุรินทร์ เนื้อโคขุนจากสกลนครและมุกดาหาร มีให้เลือกหลายส่วนทั้ง สันนอก สันใน ใบพาย เสือร้องไห้ ริบอาย น่องแก้ว นุ่มหอมอร่อยทุกส่วน และยังมีลิ้นวัวตุ๋นจนนุ่มหอม ผ้าขี้ริ้วตุ๋น เอ็นเนื้อตุ๋น น่องลายตุ๋น

image description

นอกจากนี้ยังมีของอื่น ๆ เมื่อรวมกันกับเนื้อแล้วมีให้เลือกถึง 70 กว่าอย่าง มีตั้งแต่อาหารทะเลต่าง ๆ เช่น ก้ามปูทาระบะ(ก้ามเล็ก) ปลาเก๋าทะเลที่เนื้อสดแน่นมาก หอยเชลล์ ปลาหมึกกะตอย กุ้งทะเล หัวปลา และมีเมนูกินเล่นกินจริงทำจากแซลมอนนอร์เวย์มากถึง 6 เมนู คนไม่กินเนื้อก็มีหมู มีทั้งสันคอหมู หมูสามชั้น สะโพกหมู ไหล่หมู หมูหมักทรงเครื่อง และยังมีหมูตุ๋นต่าง ๆ เช่นขั้วตับหมูตุ๋น ไส้ตันและไส้อ่อนหมูตุ๋น และมีแม้กระทั่งเนื้อแพะสะโพกและไหล่แพะ ต่อด้วยลูกชิ้นต่าง ๆ 11 ชนิดกับเกี๊ยวปลา ซึ่งลูกชิ้นเนื้อและหมูลาวาชีส(ไส้ชีสมอสซาเรลล่า)อร่อยมาก มีผัก เห็ด เต้าหู้ ข้าว บะหมี่และเส้นต่าง ๆ รวมกัน 24 ชนิด ปิดท้ายด้วยไอศกรีม 3 รสชาติซึ่งเป็นไอศกรีมโฮมเมดของชาวต่างชาติในเมืองไทยเลยทีเดียว(รสช็อกโกแลตเข้มข้น) ส่วนเครื่องดื่มก็จัดให้แล้วไม่จำเป็นต้องสั่งเพิ่ม และถ้าอยากลิ้มลองทั้งเนื้อไทยและเนื้อนอก ให้สั่งบุฟเฟต์เนื้อพรีเมียมนำเข้า 1,400 บาท++(1,648 บาทสุทธิ) ที่เพิ่มเนื้อวากิวออสเตรเลีย ส่วนริบอาย(MB หรือลายไขมันเบอร์ 4) สันนอก(Striploin)(MB 3) และสันคอ(Chuck))(MB 3) นุ่มหอมอร่อย อีกทั้งมีลิ้นวัวจากอเมริกา(US)มาให้ลวกเองด้วย

หรืออยากกินให้สุด ๆ ไปเลย ก็ให้จ่ายเพิ่มต่างหากสั่งเนื้อวากิวของญี่ปุ่นมา ที่ถูกใจมาก ๆ คือตอนนี้มีเนื้อเกรด A3 ราคาดีและนุ่มหอมอร่อยมาก ๆ ให้ลิ้มลอง มีเนื้อเซนได เซอร์ลอยน์(Sendai Sirloin) และเนื้อฮอกไกโดริบอาย(Hokkaido Ribeye)(จานละ 100 กรัม 500 บาท++) เป็นเนื้อโทคาชิ วากิว(Tokashi Wagyu) ห้ามพลาดเลยเด็ดขาด ซึ่งยังไม่มีในเมนูประจำ ให้ถามกับที่ร้านว่าช่วงที่ไปชิมนั้นมีเนื้อ A3 หรือเปล่า ส่วนในเมนูประจำจะมีเนื้อวากิวพิเศษเกรดพรีเมียมเป็นเนื้อเซนได เซอร์ลอยน์(Sendai Sirloin) A4(950 บาท++) และเนื้อฮอกไกโดริบอาย(Hokkaido Ribeye) A5(850 บาท++) ลายไขมันเป็นปุยหิมะอยู่ทุกอณูของเนื้อ(บางครั้งก็มีเนื้อจากเมืองต่าง ๆ ของญี่ปุ่นเกรดเดียวกัน) และยังมีของดีอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ในบุฟเฟต์ เช่น ปลากุดสลาด ปลาเต๋าเต้ย มีเป็นช่วง ๆ เชิญสอบถามที่ร้านได้เลย

มิสซิสวูมักจะมีเมนูต่าง ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอด ดังนั้นให้สอบถามที่ร้านตอนไปชิมดีที่สุด ไปอิ่มอร่อยละลานตากับบุฟเฟต์ฮ็อตพ็อตชั้นดีคุ้มค่าที่มิสซิสวูได้ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม โทร 0-2052-2214 ตอนนี้ร้านปรับเปลี่ยนเป็นหยุดทุกวันจันทร์แล้วนะจ๊ะ

รายละเอียดร้าน
ที่อยู่
ชั้น 3 อาคาร The Portico 31 ถนนหลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เวลาทำการ
วันอังคาร-วันอาทิตย์ 11:00-23:00 น. หยุดวันจันทร์
วิธีไป / จุดสังเกต
ชั้น 3 ของอาคาร Portico ถนนหลังสวน ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย
โทร
02-052-2214
ที่จอดรถ
มีที่จอดรถ
ประเภทอาหาร
อาหารจีน / ชาบู/สุกี้ยากี้/หม้อไฟ
ประเภทรสชาติ
-
ลักษณะของร้าน
ร้านอาหาร
ราคาเริ่มต้นต่อจาน
120 บาท
ช่วงเวลายอดนิยม
(Peak Time)
วันเสาร์-วันอาทิตย์ 17:00-20:30 น.
เวลาที่ครัวปิด
(Last order)
-
  • เวลาทำการ

    วันอังคาร-วันอาทิตย์ 11:00-23:00 น. หยุดวันจันทร์

  • ที่อยู่

    ชั้น 3 อาคาร The Portico 31 ถนนหลังสวน ลุมพินี ปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330

  • วิธีไป / จุดสังเกต

    ชั้น 3 ของอาคาร Portico ถนนหลังสวน ตรงข้ามโรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย

ติดต่อร้านอาหาร
Arrow Page Up