ที่เบียร์หิมะนอกจากจะมีของทะเลสดๆตัวใหญ่ๆไซส์บิ๊กเบิ้ม ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารปักษ์ใต้หรอยจังฮู้(อ่านว่า ร่อยจั่งฮู่)ตำรับนครศรีธรรมราช จึงอร่อยเพิ่มพูนเป็นทวีคูณ เหมือนยกทะเลจากเมืองคอนมาไว้ที่นี่
จากร้านรถเข็นเล็กๆริมทางเท้าในหมู่บ้านซิเมนต์ไทย เติบใหญ่ขยับขยายจนกลายเป็นร้านหลายคูหา ผมเคยมาชิมตั้งแต่เขาเริ่มมีร้านเป็นที่เป็นทาง มาบัดนี้ได้ปรับปรุงใหม่ใหญ่กว่าเดิมเป็นเท่าตัว ชั้นล่างริมถนนทั้งตึกเก่าตึกใหม่จุได้ถึงเกือบ 200 โต๊ะ และที่ชั้นสองยังแบ่งเป็นห้องๆสำหรับหมู่คณะทั้งเล็กและใหญ่ตั้งแต่ 15 คนไปจนถึง 80 คน ไม่นับชั้น 4 ที่มีห้องจัดเลี้ยงใหญ่ขนาดเกือบ 300 คนอีกด้วย และช่วงที่อิ๊งค์ Eat All Around กำลังบรรยายความอร่อยอยู่นี้ เราคงได้เห็นหน้าร้านเบียร์หิมะโฉมใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เจ้าของร้านถนัดเรื่องอาหารทะเลสไตล์เมืองคอนกันทั้งครอบครัว ตั้งแต่คุณพ่อ-คุณแม่ คือคุณปัญญาที่ทำร้านปัญญาซีฟู้ด คุณกรณิศที่ดูแลร้านนี้ จนถึงบรรดาลูกชายรวมถึงน้องเบียร์ ทศกรณ์อันเป็นที่มาของชื่อร้านก็มาช่วยดูแลร้านแล้วด้วย
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ร้านปัญญาซีฟู้ดที่เก่าตรงประชาชื่นได้ปิดร้านมารวมตัวกับร้านเบียร์หิมะแล้ว โดยอยู่ที่ริมถนนเกษตร-นวมินทร์ ปากซอยประเสริฐมนูกิจ 25 ในชื่อว่า เบียร์หิมะ & ปัญญาซีฟู้ด
ส่วนเบียร์หิมะร้านดั้งเดิมย่านประชานิเวศน์ที่เราพามาเปิดสมุทรสุดทะเลนั้นหาง่ายมาก จากตลาดบองมาร์เช่ วิ่งผ่านแยกไฟแดงชิดซ้ายเข้าคู่ขนานทันที อีกอึดใจเดียวก็เห็นร้านทางซ้ายมือแล้ว จอดรถริมถนนหรือในที่จอดด้านหลังร้านก็ได้
ที่หน้าร้านจะโชว์กุ้ง กั้ง ปลาแหวกว่ายอยู่ในตู้กระจกใส่น้ำทะเลตั้งเรียงรายอยู่เต็ม ทั้ง จากแหล่งน้ำฝั่งทะเลอันดามัน เช่นจากสตูล รวมไปถึงจากน่านน้ำอ่าวไทยภาคตะวันออก จึงรับประกันได้ทั้งเรื่องขนาดความใหญ่โตมโหฬาร คุณภาพ และความสด
มาแล้วห้ามพลาดเมนูเด็ดประจำร้านคือแกงเหลืองหรือแกงส้ม เราสั่งแกงเหลืองราวท้องปลากะพงใส่คูน (300 บาท) รสชาติปักษ์ใต้แท้ๆเผ็ดอร่อยหรอยแรง เนื้อราวท้องปลามันๆอร่อยกว่ากินเนื้อปลาธรรมดา กินคู่กับคูนที่ดูดน้ำแกงเหลืองจนเข้าเนื้อไปทุกอณู และสั่งให้ใส่มันขี้หนูเนื้อแน่นๆจากนครศรีธรรมราชได้ด้วย แกล้มกับหมูโค (250 บาท) ซึ่งเป็นหมูสามชั้นคั่วซีอิ๊วหอมๆ กินแล้วเจริญอาหารยั้งไม่อยู่ ข้าวสวยจานเดียวไม่พอหรอกจ้า หรือจะแก้เผ็ดด้วยผัดผักชื่อดังทางใต้ ใบเหลียงผัดไข่ (150 บาท) ใบมันๆแสนอร่อย
ต่อกันด้วยอาหารทะเลชั้นเลิศ กั้งตั๊กแตนหรือกั้งแก้วทอดกระเทียมพริกไทย (ขนาด 4 ตัวต่อกิโลๆละ 3,500 บาท) ตัวโตๆเนื้อสดหวาน แกล้มกับกระเทียมคั่วหอมๆกรอบๆ จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดอเนกประสงค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติจัดๆอร่อยเด็ด จิ้มอะไรก็ดีไปหมด กั้งตั๊กแตนนี้จะเอาไปผัดพริกเกลือหรือนำไปนึ่งก็เด็ดเหมือนกัน
ปูทะเลร้านนี้เขาคัดไซส์มาตัวโตๆทั้งนั้น ตัวขนาด 9 ขีดอย่างต่ำ ขอแนะนำปูเนื้อผัดพริกไทยดำรสชาติเข้มข้นเข้าเนื้อ เราได้ปูขาวตัวใหญ่เนื้อแน่น ก้ามใหญ่ยักษ์พอๆกับฝ่ามือผู้ใหญ่ ขนาด 1.2 กิโล(กก.ละ 2,000 บาท นอกจากนี้ก็มีปูไข่(กก.ละ 1,800 บาท) และปูม้าด้วย(กก.ละ 1,000 บาท)
เมนูอลังการซดน้ำได้หวานหอมชื่นใจต้องจิ้มจุ่มปลาเก๋าจุดฟ้าจักรพรรดิ (กก.ละ 2,200 บาท ปลาชั้นดีเนื้ออร่อยหวานสดชนิดนี้มีชื่อวิชาการว่าปลากุดสลาดหรือปลากะรังจุดฟ้า ยกมาเป็นชุด ประกอบด้วยปลาเก๋าจุดฟ้าทั้งตัวแล่มาเป็นชิ้นๆ วางบนน้ำแข็ง น้ำซุปใส่เครื่องยาจีนเก๋ากี้ กินกับผักกาดขาวและขึ้นฉ่าย เนื้อปลาลวกพอสุกหวานอร่อย จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำซุปตักแบ่งได้หลายถ้วยจุใจ เมนูนี้ยังนิยมสั่งเป็นปลาดิบหรือซาชิมิกันอีกด้วย
ของกินเล่นอื่นๆมีเกี๊ยวกุ้งฮ่องกงลวก(10 ชิ้น 200 บาท) เนื้อหวานๆเคี้ยวได้เต็มคำ จิ้มจิ๊กโฉ่วเปรี้ยวๆกับกระเทียมเจียว กุ้งตะกาดลวก(ครึ่งกิโล 400 บาท กิโลละ 800 บาท) กุ้งทะเลตัวเล็กๆเนื้อสดหวาน จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด กินแล้วหยุดไม่ได้ อยากกินตัวใหญ่ยิ่งขึ้นไปอีกให้สั่งกุ้งแชบ๊วยลวก ถ้ามาช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ให้สั่งของดีจักจั่นทะเลชุบแป้งทอด (200 บาท) หากินได้เฉพาะแถบพังงา และภูเก็ตแถวหาดไม้ขาว จักจั่นทะเลกรอบๆมันๆ หรือจะลองหอยหวานเผา (ครึ่งกิโล 600 บาท กิโลละ 1,200 บาท)แท้ๆสดใหญ่เนื้อหนึบหวาน จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้ากันดี
ของอร่อยร้านเบียร์หิมะยังมีอีกมากมาย จาระไนไม่มีทางหมด ทั้งปลาเต๋าเต้ยทอดน้ำปลา ปลาเต๋าเต้ยหม้อไฟจักรพรรดิ กุ้งมังกรเจ็ดสีซาชิมิหรืออบเนย(กก.ละ 5,000 บาท) ปูม้านึ่ง กุ้งแม่น้ำเผา(ขนาด 2 ตัว/กิโลๆละ 2,000 บาท) ปลาเก๋าดำนึ่งซีอิ๊ว(กก. ละ 900 บาท) หรืออาหารปักษ์ใต้สูตรเด็ดเมนูดัง กุ้งผัดสะตอกะปิ(350 บาท ช่วงนี้หายาก ในฤดูกาลจะราคา 250 บาท) ปลากระบอกทอดขมิ้น แกงส้มไข่ปลาริวกิว แกงไตปลาย่าง เชิญมาพิสูจน์ด้วยตนเองทุกวันตั้งแต่ 11 โมงเช้าไปจนถึง 5 ทุ่ม สาขาประชานิเวศน์โทร 08-9827-6212 รับรองว่ากินเมนูอร่อยทั้งเดือนไม่ซ้ำกันยังได้เลย