14/08/2024

เปี๊ยกตำสะเด็ดลั่นทุ่ง

ร้านเปี๊ยก ตำสะเด็ด ลั่นทุ่ง อยู่ริมคลองเล็ก ๆ ทำเป็นชั้นเดียวเปิดโล่ง มีที่จอดรถได้ถึงสิบกว่าคัน อีกฝั่งหนึ่งอยู่ติดกับทุ่งนา ช่วงหน้าฝนอย่างนี้จะเขียวขจีสบายตามาก
Blog Teaser Moblie

อาทิตย์นี้ดีใจมาก เพราะน้องวัฒน์แห่งเพจชายกางตระเวนกินทั่วถิ่นไทย ได้พาบุกตะลุยไปถึงปริมณฑลย่านสามโคก ปทุมธานี ซอกแซกไปจนถึงกลางทุ่งนามาที่ร้านส้มตำอร่อยเด็ดเมนูดีมีเอกลักษณ์สุดแสนประทับใจ ร้านนี้มีชื่อว่าเปี๊ยก ตำสะเด็ด ลั่นทุ่ง

สามโคกคืออำเภอเล็กๆของจังหวัดปทุมธานี ที่เคยเป็นเมืองเก่าแก่มาช้านานตั้งแต่สมัยอยุธยา ชื่อว่าเมืองสามโคก ในสมัยรัชกาลที่ 2 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามเมืองสามโคกใหม่เพื่อให้เป็นสิริมงคลว่า เมืองประทุมธานี จึงเป็นที่มาของชื่อจังหวัดปทุมธานีในปัจจุบัน

ก่อนอื่นรีบขอบอกทางไปร้าน รับรองว่าพวกเราคนต่างถิ่นไม่มีใครไปถูก ถ้าไม่มีกูเกิ้ลแมพส์เป็นตัวช่วย เพราะตัวร้านอยู่กลางทุ่งในซอยเล็กเลี้ยวไปเลี้ยวมา ห่างจากถนนใหญ่ทางหลวงสาย 347 ช่วงอำเภอสามโคกหลายกิโล โดยให้ขึ้นทางด่วนศรีรัชต่อด้วยทางด่วนอุดรรัถยา (ปากเกร็ด-บางปะอิน) ไปลงที่บางพูนหรือที่เชียงราก (มีป้ายทางลงเชียงราก-ม.ธรรมศาสตร์ ทางนี้จะใกล้กว่า) ก็ได้ ไปเข้าทางหลวง 347 จากนั้นให้อาศัยกูเกิ้ลไปตลอดทางจนถึงร้าน ซึ่งเข้าได้หลายซอย บางซอยก็แคบขนาดรถสวนทางกันไม่ได้ แนะนำว่าให้เลือกเข้าทางซอยปทุมทอง-หนองจอก ที่อยู่ตรงข้ามวัดปทุมทอง จะกว้างที่สุด

ร้านเปี๊ยก ตำสะเด็ด ลั่นทุ่ง อยู่ริมคลองเล็ก ๆ ทำเป็นชั้นเดียวเปิดโล่ง มีที่จอดรถได้ถึงสิบกว่าคัน อีกฝั่งหนึ่งอยู่ติดกับทุ่งนา ช่วงหน้าฝนอย่างนี้จะเขียวขจีสบายตามาก

ชื่อร้านก็บอกอยู่แล้วว่าเจ้าของร้านชื่อพี่เปี๊ยกหรือคุณบุญชู ต้นพุ่ม (ปัจจุบันอายุ 68 ปี) พี่เปี๊ยกขายส้มตำมานาน 30 ปี แต่ก่อนเป็นรถเข็นและขยับมาขายในเพิงอยู่ริมถนนด้านนอก จนกระทั่ง 8 ปีที่แล้ว น้องวินิจลูกชายได้ชวนแม่เปี๊ยกเข้ามาขายในบ้านเดิมตรงปัจจุบัน ขยายร้านเรื่อย ๆ จนตอนนี้จุลูกค้าได้ 120 คนแล้ว

ทั้ง ๆ ที่แม่เปี๊ยกและน้องวินิจเป็นคนในพื้นที่สามโคก แต่ทั้งสองคนทำอาหารอีสานได้เด็ดดวงยิ่งนัก อีกทั้งยังมีเมนูอาหารป่าอีกด้วย สั่งได้ทั้งปลาไหล กบ หมูป่า เก้ง มีแม้กระทั่งหนูนา (จะฉีกเนื้อให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ไม่สับติดกระดูก ทำผัดเผ็ด ผัดระเบิดได้)

ซึ่งน้องวัฒน์เป็นผู้จุดพลุให้กับร้านนี้ จนกระทั่งมีรายการดัง ๆ ตามมาถ่ายออกสื่อจนโด่งดังไปทั่ว

มาดูเมนูเอกลักษณ์กันว่ามีอะไรบ้าง พอได้ชิมแล้วพวกเราคณะกรรมการเชลล์ชวนชิมสรุปกันว่าของดีที่ห้ามพลาดมี 6 เมนู

เริ่มกันด้วยตำครูภูม (สะกดอย่างนี้เลย 80 บาท) ได้สูตรมาจากครูภูมที่เคยสอนน้องวินิจที่เทคนิคปทุม เป็นตำมะละกอที่ใส่ทั้งแคบหมูชิ้นโต ๆ ปลาฉิ้งฉ้างกรอบ ๆ และไข่เค็ม เครื่องจัดเต็มมาก ๆ

มาที่เปี๊ยก ตำสะเด็ด ลั่นทุ่ง แล้วไม่ได้ลิ้มลองเกาเหลาปูม้า (240 บาท) เหมือนมาไม่ถึงร้านนะจ๊ะ น้องวินิจบอกว่าต้องใช้ปูม้าเป็นๆสดๆเท่านั้น นำมาดองน้ำปลานาน 20 นาที ปรุงด้วยน้ำที่คล้ายน้ำส้มตำแต่ไม่ใส่ปลาร้า รสชาติกลมกล่อมนุ่มนวลชวนกินมาก

อีกตำที่ชอบมากคือตำทอดหมูกรอบ(150 บาท) ใช้เส้นมะละกอทอดราดน้ำยำเป็นน้ำของตำครูภูม โปะหน้าด้วยหมูกรอบทำเองชิ้นโต ๆ ต้มแล้วทอดจนกรอบ ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ

เมนูส้มตำง่ายๆ ตำโคราช (70 บาท) ก็เปรี้ยวหอมสดชื่นนัวมาก ๆ ตำไทยใส่ถั่วลิสงและปลาร้า สูตรนี้ใส่ปูเค็มด้วย

มีของดีที่เป็นอาหารพื้นบ้านเผ็ด ๆ คือผัดระเบิด(120 บาท) สั่งได้ทั้งหมูระเบิดและเนื้อระเบิด ผัดกับพริกแกงเผ็ดใส่ใบยี่หร่าหอม ๆ ใบมะกรูดซอย พริกไทยอ่อน พริกชี้ฟ้า และผงเครื่องเทศที่ใส่ใบกระวาน ลูกกระวาน ลูกผักชี ยี่หร่า

อีกเมนูหนึ่งชื่อผัดแม่ยายสะอื้น (150 บาท) เป็นเมนูพลิกแพลงลูกผสมระหว่างผัดระเบิดและผัดฉ่า ใส่เนื้อติดมันอร่อยมาก เพิ่มพริกกระเทียมจำ ใส่กระชายหั่นและใบมะกรูดฉีก ปรุงด้วยน้ำมันหอย น้ำตาลและน้ำปลา รสเผ็ดกำลังดี

นอกจาก 6 อย่างนี้ ก็มีของกินอื่นๆอีกมากมาย เช่น เนื้อแดดเดียว (100 บาท) หมูแดดเดียว (80 บาท) ควรสั่งมาทั้งคู่ จะตากแดดเองทั้งวัน และหมักกับผงปรุงรส น้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว นุ่มหอมยิ่งเป็นชิ้นติดมันยิ่งอร่อย และก็มีปีกไก่ทอด(80 บาท) ปากเป็ดทอด(100 บาท) ผ่าครึ่งซีกเล็กๆกรอบๆ อีกทั้งคอหมูทอด (70 บาท) นุ่ม ๆ หมักด้วยซอสปรุงรส นมข้นจืดยี่ห้อที่ปิ่นโตเถาเล็กคุ้นเคย น้ำมันหอย น้ำตาลปี๊บ อีกทั้งวันนั้นเราสั่งมาอีกหลายอย่างทั้ง ตำปูปลาร้า ตำไหลบัว แกงป่าปลาคัง ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน

ร้านเปี๊ยก ตำสะเด็ด ลั่นทุ่ง เปิดบริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 3 ทุ่ม (ครัวปิดทุ่มครึ่ง) หยุดทุกวันจันทร์ โทร 08-9760-9033 ไปชิมแล้วรับรองว่าจะหลงเสน่ห์ร้านบ้านๆกลางทุ่งแน่นอน



Arrow Page Up