บุญปาก ร้านอีสานท้องถิ่นแท้ ๆ ของคนโคราช แซ่บอีหลี คักขนาด มีของกินอร่อยตามฤดูกาลหากินยากในเมืองกรุง ใครอยากไปกินที่ร้าน ถ้าไม่ได้โทรจองโต๊ะล่วงหน้า มีสตางค์ก็ไม่พอ ต้องมีบุญด้วย เพราะอาจจะไม่มีโต๊ะให้นั่ง ต้องซื้อกลับลูกเดียว
ร้านบุญปากหาไม่ยาก อยู่ที่ในซอยพระราม 9 ซอย 62 จากศรีนครินทร์ มาตามถนนพระราม 9 ขาเข้า เลยปั๊มน้ำมันเชลล์มานิดเดียว เลี้ยวซ้ายเข้าซอยมาเพียง 150 เมตร ก็จะเห็นร้านบุญปากอยู่ในบ้านทางขวามือ ร้านที่มีเหล่าบรรดาไรเดอร์มารอดีลิเวอรีกันเต็มไปหมด จอดรถหน้าร้านหรือในซอยแยกต่างๆได้เลย หรือจะมาร้านนี้เข้าจากด้านท้ายซอย ถนนกำแพงเพชร 7 เลียบทางรถไฟก็ได้ ถ้าค้นในกูเกิ้ลแมพส์ให้ใช้คำว่า ครัวบุญปากหรือ Bun Pak เลือกร้านที่อยู่ในเขตสวนหลวงนะจ๊ะ (เนื่องจากมีชื่อร้านบุญปากซ้ำกันหลายแห่ง)
แค่ได้มาชิมที่ร้านบุญปากครั้งแรก (เคยสั่งขนมจีนมากินที่บ้านหลายครั้งแล้ว)ก็รู้ซึ้งทันทีว่าทำไมถึงมีขาประจำติดใจร้านนี้กันอย่างงอมแงม ก็เพราะมีเมนูอีสานท้องถิ่นแท้ๆเป็นเอกลักษณ์ ปรุงอย่างแซ่บถึงเครื่อง จานใหญ่ให้เยอะ ในราคาสมเหตุสมผล
เจ้าของร้านนี้คือสาวช่างโอภาปราศรัยในวัยเพียง 34 ปี ชื่อว่าน้องแนน บุญยปวีณ์ ชาญชัยมนตรี เป็นคนอำเภอประทาย จังหวัดโคราช ขายอาหารอีสานดีลิเวอรีอย่างเดียวอยู่นาน 3 ปี ขายดิบขายดีจนมีเสียงเรียกร้องให้เปิดร้านขายจริงจัง จึงมาเปิดร้านในพระราม 9 ซอย 62 ได้ 4 ปีแล้ว อยู่ในบ้าน 2 ชั้นเล็กๆ มีห้องปรับอากาศจุคนได้ 50 คนเท่านั้น
น้องแนนมีคุณแม่คอยคุมว่าการเรื่องอาหารอยู่ในครัว จึงมั่นใจได้ว่าอร่อยแซ่บอีหลีคงเส้นคงวาทุกจาน
ที่นี่มีเมนูเด็ดๆมากมาย บางอย่างก็หากินได้ตามฤดูกาลเท่านั้น มาช่วงนี้(เดือนพ.ค.-มิ.ย.) ต้องสั่งขนมจีนน้ำยาป่าพุงไข่ปลาช่อน (ชุดละ550 บาท) เพราะจะได้กินพุงไข่ปลาช่อนชิ้นโตด้วย ถ้าไม่ใช่หน้าพุงไข่ก็จะมีขนมจีนน้ำยาป่าปลาร้าลอยช่อนนาแทน (259 บาท) เสิร์ฟมาเป็นชุด มีแกง 1 ชามโตมหึมา ขนมจีนเส้นสด 1 ตะกร้า เกือบครึ่งกิโล และผัดสดสารพัดอีก 1 กระจาดเล็ก แบ่งกันกิน 3-4 คนสบาย ๆ
น้ำยาป่ารสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นปลาร้า ถึงเครื่องกระชาย หอมแดงศรีสะเกษ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแดงจินดา น้ำข้นคลั่กเพราะใส่เนื้อปลาตำ (ปลาช่อนแกะเอาแต่เนื้อ แยกหนังก้างออกไป) ทั้งพุงไข่และเนื้อปลาช่อนสดหอมอร่อย
ชุดขนมจีนอีกอย่างที่ห้ามพลาดก็คือ ขนมจีนน้ำยาป่าซาดิสต์(229-329 บาท) ใส่ทั้งเลือดไก่ ขาไก่ ลูกชิ้นปลา น้ำข้นคลั่กด้วยปลาช่อนตำเช่นกัน
เลือดไก่ร้านบุญปากคือสุดยอดแห่งความนิ่มอร่อย เนื้อแน่นไม่เป็นโพรงและไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย น้องแนนบอกว่าต้องนำไปต้มในน้ำเกลือนาน 40 นาทีและแช่ในน้ำเย็นอีก 1 ชั่วโมง
ซึ่งขอแนะนำขนมจีนแกงไก่โคราชอีกอย่าง(ที่เห็นนี้คือชุดเล็ก 229 บาท ให้เยอะมาก ส่วนชุดใหญ่ 329 บาท) เป็นแกงกะทิรสเข้มข้นแซ่บๆใส่เนื้อสะโพกติดน่องสับติดกระดูก และเลือดไก่(ไม่มีเครื่องใน) ก็ถูกใจเช่นกัน และไม่น่าเชื่อว่าที่นี่ยังทำขนมจีนน้ำเงี้ยว(279-379 บาท)ของภาคเหนือได้ลำขนาดเช่นกัน รสชาติออกไปทางเชียงรายที่มีน้ำหน้าเผ็ดๆ
อย่าเพิ่งอิ่มขนมจีนกันนะจ๊ะ ของดีอีสานร้านบุญปากยังมีอีกมากมาย มาช่วงนี้มีแกงเห็ดเผาะหน่อไม้สดใส่ไข่มดแดง (450 บาท) หรือแกงเปอะ น้ำข้นคลั่กด้วยข้าวเบือ หอมกลิ่นน้ำปลาร้า ใส่น้ำใบย่านาง ผักอีตู่หรือใบแมงลัก ชะอม แซ่บตะลึงจนหงายท้องทีเดียว ถ้าไม่ใช่หน้าก็จะไม่ใส่เห็ดเผาะและไข่มดแดง (แกงหน่อไม้ใบย่านาง 150 บาท) และถ้าฝนเริ่มตกเยอะ (มิ.ย.-ก.ค.) ก็จะมีแกงเห็ดระโงกด้วย (350 บาท) ถ้ามีให้รีบสั่งทันทีนะจ๊ะ
ชมปลาร้าเจ้านี้มาตลอด จะสาธยายให้ฟังว่าข้นแซ่บนัวขนาดไหน บุญปากมีน้ำปลาร้าบรรจุขวดขายด้วย และยังมีน้ำปลาร้าพรีเมียมที่พวกเราซี้ดซ้าดสะใจกันทั้งโต๊ะ (มีแบ่งขายด้วยเช่นกัน) ทำจากปลาร้าโหน่งที่ไม่มีกลิ่นแรงเลย น้องแนนบอกว่าต้องคัดปลาร้าเนื้อล้วนๆ จากปลาใหญ่จำพวกปลานิล ปลาช่อน เอามาต้มกับใบน้อยหน่าและสับปะรด ใส่กะปิปิ้งด้วย หอมข้นเป็นที่สุด ดังนั้นมาที่นี่ต้องสั่งตำปูปลาร้า (100 บาท) น้ำข้น ๆ หอมอร่อย รับรองอร่อยไม่เป็นสองรองใคร (มีส้มตำกับเกาเหลาให้เลือกอีกนับยี่สิบอย่าง) เป็นอึ่งมีไข่มันๆทุกตัว ให้เยอะมาก 5-6 ตัวต่อชาม นำอึ่งมาลวกกับน้ำใส่ตะไคร้ ใบมะกรูดเสียก่อน เปรี้ยวหอมด้วยใบมะขามอ่อน ใครที่ชอบเสาะหาของกินพื้นบ้านต้องลองนะจ๊ะ
ของไม่เผ็ดแสนอร่อยที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดคือไก่ต้มน้ำปลา (ครึ่งตัว 259 บาท) ใช้แม่ไก่สาวจากเมืองคอน (นครศรีธรรมราช) ไม่เหนียวแต่เนื้อหนึบหนังหอม ต้มกับน้ำปลาใส่ผงขมิ้น ดอกเกลือ และเกลือหิมาลายันสีชมพู สับติดกระดูก จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด มาพร้อมผักสดและขนมจีน กินเป็นเมี่ยงได้ แย่งกันกินจนหมดจาน ต้องสั่งเบิ้ล
อีกอย่างคือของดีที่กำลังอยู่ในกระแสโซเชียล (ช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย.) ต้มอึ่งใบมะขาม (590 บาท) เมนูตามฤดูกาล ยังมีปลาขาวไข่ทอด (259 บาท จานละ 2-3 ตัว) มีไข่หอมมันทุกตัว มาจากเขื่อนอุบลรัตน์ แจ่วตำข้นๆที่ให้มาด้วยอร่อยเหลือหลาย เอาข้าวเหนียวมาจิ้มกินต่างหาก (ถ้าติดใจ มีขายกระปุกละ 150 บาท)
และมีหอยนาต้มจิ้มเนื้อหวานอร่อยเป็นที่สุด (250 บาท) มาจากศรีสะเกษ จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดและน้ำจิ้มแจ่ว หรือจะให้ใส่ในเกาเหลาหรือตำป่าก็ได้
น้องแนนบอกว่าน่าเสียดายที่หมูสามชั้นทอดน้ำปลา (169 บาท) เมนูยอดฮิตหมดเสียแล้ว (ควรจองล่วงหน้าถ้ามาตอนเย็น) ไม่เป็นไรยังมีกระดูกหมูทอด (กระเทียม) ที่ทอดมาแห้งๆ (189 บาท) ก็อร่อยเช่นกัน
ยังมีของกินมื้อนั้นอีกมากมายทั้ง ปลาส้มทรงเครื่อง (250 บาท) ทอด ยำแหนมข้าวทอดโรยด้วยกากหมูเจียว (250 บาท) ลาบหมูทรงเครื่อง (159 บาท) ตำโคราช (120 บาท) ผัดหมี่โคราช (129 บาท) ไส้กรอกอีสานย่าง (หมูกับวุ้นเส้น)(1 กิโล 350 บาท) ไส้กรอกอีสานทอด (หมูล้วน)(169 บาท)
ส่วนของหวานของกินเล่นที่ต้องจองและห้ามพลาดคือข้าวต้มมัด (มัดละ 25 บาท) ข้าวเหนียวนิ่มคือข้าวเหนียวเขี้ยวงูลำปาง อีกทั้งขนมต้ม (มีทุกวัน) และครองแครงกะทิสด (มีทุกวันเสาร์)
ตอนนี้บุญปากคือร้านอาหารอีสานในดวงใจของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เปิดบริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม หยุดทุกวันอังคาร โทรจองล่วงหน้าที่ 06-4416-5691 และ 09-2636-6454 นะจ๊ะ