ร้านอร่อยต่อให้อยู่ไกลในทำเลลับตาคนแค่ไหน ก็จะมีขาประจำดั้นด้นตามไปชิมถึงที่อย่างล้นหลาม ร้านอาหารปักษ์ใต้ละมุนลิ้น โฮม คิทเช่น(เรียกสั้นๆว่า ละมุนลิ้น)ก็เช่นกัน ถึงจะอยู่ในซอยส่วนบุคคลปลายถนนรามคำแหงใกล้มีนบุรี เปิดมาแค่ 6 ปี แต่ก็มีผู้คนมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย จนตอนนี้ต้องขยายร้านออกไปอีก 1 โซน
แปลกแต่จริง คุณปุ้ย ปราณิศา จิตต์หมวด พื้นเพเป็นคนสุรินทร์ถิ่นอีสาน แต่ไปโตที่นครศรีธรรมราช ทำอาหารใต้ได้รสชาติเข้มข้นแต่กลมกล่อมละมุนลิ้นสมชื่อร้านยิ่งนัก จนกระทั่งน้องอาทเจริญพุงพเนจรไปชิมลิ้มลองเกิดความประทับใจ กลับไปซ้ำใหม่ถึง 6-7 รอบ จึงชักชวนผองเพื่อนนักชิมกินแหลกให้ตามไปพิสูจน์ความอร่อย แค่ลิ้มลองเข้าไปคำแรกก็ตาโตถูกใจ ต้องบอกต่อให้ชาวโลกรับรู้
ร้านละมุนลิ้นอยู่ในซอยส่วนบุคคลชื่อว่าซอยประดับ อยู่ระหว่างซอยรามคำแหง 192-194 บนถนนรามคำแหงขาเข้า เลยไทวัสดุสาขาสุขาภิบาล 3(แยกรามคำแหง-ร่มเกล้า)มานิดเดียว(ถ้ามาจากมีนบุรีไม่ต้องขึ้นสะพานลอยข้ามแยก ให้อยู่ทางขนาน ส่วนถ้ามาจากในเมือง มาตามรามคำแหงขาออก ให้กลับรถใต้สะพาน)
เลี้ยวซ้ายเข้าซอยประดับมาเพียง 200 เมตรก็ถึงร้านละมุนลิ้นทางขวามือ อยู่ในเรือนกระจกติดเครื่องปรับอากาศชั้นเดียวดูโปร่งโล่งสบายสะอาดตา มีสวนและสนามเด็กเล่นอยู่หน้าร้านด้วย
คุณปุ้ยคัดสรรของดีๆมาจากทางใต้ ไม่ว่าจะเป็นสะตอข้าวจากนครศรีธรรมราช ใบเหลียงจากชุมพร กะปิระนอง กุ้งแชบ๊วยและกุ้งลายเสือทะเลจากสงขลา คุณปุ้ยทำอาหารใต้ได้อร่อยเผ็ดร้อนแต่ปรับให้ละมุนลิ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ เห็นตัวอย่างได้จากเมนูหลนไตปลาทรงเครื่อง(215 บาท) รสละมุนนุ่มนวลแต่เข้มข้น หอมเครื่องแกงและกะทิสด ใช้เครื่องแกงคั่ว(กะทิ) ใส่ปลาโอย่างชิ้นเล็กๆและกุ้งแชบ๊วยสับ ตะไคร้ซอย หอมแดงหั่น ใบมะกรูดฉีก ตัดรสด้วยน้ำมะขามเปียกและน้ำตาลปี๊บเล็กน้อย ซึ่งไตปลาทูหอมสุดๆนั้นเป็นไตปลาทูผสมไตปลาช่อนเพิ่มความมัน ต้มกับตะไคร้ใบมะกรูดดับคาว แล้วกรองเอากากออก ถือเป็นเมนูที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด
รักพี่เสียดายน้องต้องสั่งแกงไตปลากุ้งสับ/ปลาย่าง(220 บาท)มาด้วย ใส่ไตปลาทู ปลาโอย่าง และกุ้งสับ มีมันม่วง มันแครอท มะเขือเปราะ และสะตอเพิ่มความมัน(ไม่ใส่หน่อไม้) นี่ก็อร่อยมาก
มีของโปรดอีกอย่างที่ถูกใจสุดๆ แกงคั่วหมูละมุน(190 บาท) ใช้หมูสันคอนุ่มๆ เครื่องแกงใส่พริกสดแทนพริกแห้ง ไม่เผ็ดร้อนหนักๆ แต่เผ็ดพริกไทยดำล้ำลึก ใส่กะทิให้มีรสละมุนสมชื่อ
ของไม่เผ็ดแสนอร่อยห้ามพลาดที่เหมาะสำหรับกินคู่กัน มีหมูสามชั้นทอดน้ำปลา(200 บาท) หอมๆเคี้ยวเพลิน คุณปุ้ยหั่นหนังออก ทำให้กินแล้วไม่เหนียว หมูสามชั้นปรุงด้วยน้ำปลา น้ำตาล แตะแป้งทอดเล็กน้อยผสมกับน้ำเย็น
หมูฮ้อง(230 บาท)เจ้านี้ก็น้ำเข้มข้น เป็นเมนูขายดี ไม่หนักรากผักชี กระเทียม พริกไทยจนเกินไป ปรับให้เข้ากับลิ้นคนกรุง หมูสามชั้นชิ้นโตนุ่มชุ่มฉ่ำ ไข่รัดตัวอร่อย ไข่แดงนุ่มเนียนมาก หรืออยากกินไข่เจียวให้สั่งแบบไม่ธรรมดา ไข่เจียวสะตอและน้ำพริกกะปิ(220 บาท)มาคู่กัน ไข่เจียวเนื้อฟูกรอบใส่หอมแดงและสะตอข้าวมันๆเยอะมากๆ ตักไข่เจียวตรงไหนก็จะได้สะตอมาด้วย คลุกกับน้ำพริกกะปิกุ้งสดอร่อยสุดยอด
นอกจากนี้ก็มีแกงเหลืองปลากะพง (260 บาท) ใส่อ้อดิบ หน่อไม้ดอง ยอดมะพร้าว และไหลบัว เครื่องแกงทำเองทุกวัน ผสมพริกกะเหรี่ยง น้ำแกงรสนุ่มนวลไม่เผ็ดจนเกินไป มีรสเปรี้ยวหอมของมะนาวและมะขามเปียก
และมีแกงใต้พื้นบ้าน แกงคั่วไก่ใส่ลูกกล้วย(195 บาท)หรือกล้วยดิบที่ผมชื่นชอบด้วย ใช้เครื่องแกงคั่วผสมแกงพริกเพิ่มความเผ็ดร้อน
ตอนนี้เป็นหน้าสะตอพอดี ควรสั่งผัดกะปิสะตอกุ้ง (245 บาท) อร่อยๆอีกแล้ว ผัดกับกะปิระนอง และเมนูผัดสามเหม็น(230 บาท)ก็ขายดี ผัดวุ้นเส้นใส่สะตอ กระเทียมดองและชะอม
ยังมีอาหารใต้อีกมากมาย คั่วกลิ้งหมู(185 บาท) ใส่หมูสับผสมมันหมูเล็กน้อย ทำให้ไม่แห้งจนเกินไป และคนกินเนื้อให้สั่งคั่วกลิ้งเนื้อ(200 บาท) ใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด (220 บาท)ก็น่าลิ้มลอง ใส่กะปิระนองกับหอมแดงทุบ น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย กินกับน้ำพริกเข้ากันดี
มีเมนูวัยเยาว์ของคุณปุ้ยสไตล์อีสาน ห่อหมกหน่อไม้หมูสามชั้นสูตรคุณยาย หน่อไม้อ่อนๆเผาแล้วต้ม หมกกับหมูสามชั้นและใส่กะทิ (ห่อละ80 บาท)
ถ้าชอบกินเส้นให้สั่งขนมจีนปลาทูขาไก่(165 บาท) และขนมจีนน้ำยาปู(ชุดเล็ก 285 บาท ที่เราสั่งคือชุดใหญ่ 395 บาท)
อย่าลืมเก็บท้องไว้สำหรับขนม เพราะที่ร้านนี้ก็ขึ้นชื่อเช่นกัน ขนมโกสุ้ย(ชุดละ 40 บาท) ขนมถ้วยน้ำตาลแดงพื้นบ้านปักษ์ใต้ มีเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ รสชาติหวานน้อย หอมมะพร้าวนึ่งคลุกเกลือ ทำจากแป้งข้าวเจ้าผสมแป้งท้าวยายม่อม ใส่กะทิและน้ำตาลทรายแดง ใส่เกลือเล็กน้อยเพิ่มรสขาติ
และมีจำปาดะทอด(1 ชุด 5 เม็ด 70 บาท)ก็อร่อยถูกใจ ไม่เหม็น กลิ่นไม่แรงมาก ขนมไข่นกกระทาทอด(7 ชิ้น 40 บาท) ทำจากมันม่วงและมันแครอท ใส่แป้งเพียงเล็กน้อย ไม่อมน้ำมัน กล้วยแขกทอด(7 ชิ้น 40 บาท) ชุบแป้งทอดบางๆ กรอบนอกนุ่มใน หอมมะพร้าวกรอบๆมีรสเค็มปลายๆเล็กน้อย
นอกจานนี้ก็มีสาคูแท้พัทลุงใส่ลำไยสด(55 บาท) หน้ากระท้อนมีกระท้อนทรงเครื่อง(190 บาท)
เพื่อไม่ให้ร้านแน่นจนเกินไป ตอนนี้น้องปุ้ยขยายร้านเรือนกระจกชั้นเดียวหลังใหม่ จุคนเพิ่มอีก 50 คน จากเดิมได้เพียงแค่ 80 คน และจะมีกาแฟขายด้วย
อยากรู้ว่าร้านนี้อาหารใต้รสละมุนแต่ยังเผ็ดครบเครื่องได้อย่างไร ขอเชิญมาอุดหนุนได้ทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม โทร 06-4265-6289 และ 0-2004-8565 นะจ๊ะ