อยากอร่อยกับเมนูไทยพื้นบ้านเหมือนที่เคยลิ้มลองในวัยเด็ก และได้สัมผัสบรรยากาศริมน้ำ มีกลิ่นอายวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนที่อาศัยการคมนาคมทางน้ำเป็นหลัก ให้มาที่ร้านบ้านตานิด ร้านอาหารไทยชื่อดังแห่งอำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเดิมคือบ้านพักอาศัยของครอบครัวเจ้าของร้าน อีกทั้งยังเคยเป็นปั๊มน้ำมันเรือทางน้ำ (ปั๊มเชลล์) สมัยที่ยังไม่มีถนนตัดผ่านย่านนี้เลย
การมาร้านบ้านตานิดในปัจจุบันนี้ยังคงมาได้ทั้งทางเรือส่วนตัวและทางบก จากกรุงเทพฯให้ขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2(ศรีรัช) ต่อด้วยทางพิเศษอุดรรัถยาหรือทางด่วนสายบางปะอิน–ปากเกร็ด มาลงที่ทางออกถนนสาย 346(บางพูน-รังสิต) เลือกไปทางปทุมธานี จากนั้นให้ข้ามแม่น้ำมาตามทางในกูเกิ้ลแมพส์อีก 10 กม. จนเข้าถนนสาย 4004 (ให้ค้นว่าร้านบ้านตานิด) ไปสุดทางที่ริมน้ำตรงตำบลกระแชง อำเภอสามโคก ซึ่งจะมีลานจอดกว้างๆ ให้ถามคนโบกได้เลยว่าร้านบ้านตานิดจอดตรงไหน โดยถ้าอยากเห็นบ้านเรือนและชุมชนใกล้ริมน้ำ สามารถลัดเลาะมาตามถนนเส้นเล็กๆจากตัวจังหวัดปทุมธานีอีกเส้นทางหนึ่งได้ด้วย
ร้านบ้านตานิดอยู่ในบ้านไม้เก่าแก่ทาสีเขียวที่รักษาสภาพไว้เป็นอย่างดี ส่วนที่นั่งกินข้าวจะอยู่ตรงชานบ้านด้านนอกมีหลังคาคลุม และริมท่าน้ำซึ่งจะมีท่าจอดเรือส่วนตัวด้วย โดยก่อนเข้าร้าน ลูกค้าจะต้องถอดรองเท้าและสวมรองเท้าแตะที่จัดไว้ให้เดินเข้าไปอีกที
ก่อนอื่นขอบอกว่ามาร้านบ้านตานิดต้องโทรจองโต๊ะล่วงหน้าเสียก่อนเพราะได้รับความนิยมมาก ยิ่งถ้ามาวันสุดสัปดาห์ให้โทรจองก่อนหลายๆวันเลยนะจ๊ะ
เจ้าของร้านนั้นคือเพื่อนของรุ่นพี่ผมเองชื่อว่าพี่มด ซึ่งนำบ้านพักอาศัยของครอบครัวมาทำเป็นร้านอาหาร แต่ก่อนนั้นนอกจากจะเป็นปั๊มน้ำมันเรือแล้ว ยังเป็นร้านขายเครื่องอุปโภคบริโภครวมถึงสินค้าต่างๆเช่นน้ำมันยาง ชัน ปูนชาวอีกด้วย พอมีการตัดถนนจึงเลิกกิจการเปลี่ยนเป็นบ้านอยู่อาศัยอย่างเดียว
จากนั้นคุณแม่พี่มดก็หันมาทำพริกแกงขายโดยใช้ชื่อว่าบ้านพริกแกง ที่ร้านนี้จึงเก่งเรื่องแกงต่างๆเพราะทำพริกแกงเอง ใช้วิธีการบดและตำด้วยมือ
จนกระทั่งพ.ศ. 2559 พี่มดกับน้องสาวจึงได้ดัดแปลงบ้านเป็นที่พักเล็กๆสำหรับคนที่จะมาเรียนศิลปะ ขายอาหารเฉพาะคนที่จองมาเท่านั้น เป็นเมนูซึ่งพี่มดชอบกินเองที่บ้านอยู่แล้ว พอมีเพื่อนฝูงลูกค้าบอกต่อเยอะจึงหันมาทำร้านอาหารเป็นหลัก(แทบไม่ได้ทำเรื่องห้องพักแล้ว) นำชื่อวาณิชย์ของคุณพ่อมาตั้งเป็นชื่อร้านบ้านตานิด
ผมชอบของกินร้านนี้มากเพราะเป็นอาหารไทยพื้นบ้านที่คนกรุงเทพฯรุ่นผมคุ้นเคยเป็นอย่างดี เมนูห้ามพลาดมีมากมาย อย่างเช่นต้มกะทิสายบัวปลาสลิด (240 บาท+) พี่มดบอกว่าเป็นคนไม่ชอบกินปลาทู จึงใส่ปลาสลิดแทน เคล็ดลับความเค็มหอมมาจากการใช้ปลาเค็มแทนกะปิ เมนูนี้ต้องรีบกินตอนร้อนๆจะอร่อยมาก
ถ้าชอบรสเผ็ดหน่อยให้สั่ง แกงส้มชะอมไหลบัวกุ้งสด(260-320 บาท+) พริกแกงทำเองรสเข้มข้นครบทุกรสเหมือนที่กินตอนเด็กจริงๆ พี่มดจะใช้กุ้งต้มแล้วนำไปบดใส่ในน้ำแกงจนน้ำข้นคลั่กด้วย โดยเลือกใช้กะปิบังดาษจากเมืองตรังหอมอร่อย
อีกเมนูที่สุดยอดมากๆคือผัดสามเหม็น(240-280 บาท+) ผัดวุ้นเส้นใส่ชะอม สะตอ และกระเทียมดอง กลิ่นหอมฟุ้งเป็นพิเศษเพราะมีเคล็ดลับคือจะซอยเครื่องกระเทียม หอมและพริกสดเมื่อลูกค้าสั่งเท่านั้นทุกๆจาน
ของไม่เผ็ดต้องพะโล้ไข่เค็ม(220-280 บาท+) อร่อยไม่ซ้ำใคร ใส่เครื่องสามเกลอ(รากผักชี กระเทียม พริกไทย)เยอะๆ และมีอบเชยกับเครื่องยาจีนด้วย ทำรสหวานนำ แต่จะได้ความเค็มอร่อยลงตัวจากไข่เค็มมาผสมกัน ซึ่งต้องซื้อจากเจ้าประจำในตลาดอ.ต.ก.เท่านั้น(ไม่เค็มเกินไป) นำมาต้มค้างคืน
ส่วนผัดผัดที่ห้ามพลาดคือผักบุ้งไทยผัดกะปิกุ้งกรอบ(220 บาท+) กุ้งทะเลสดกรอบสมชื่อ พี่มดซื้อจากเจ้าประจำที่ตลาดสามโคก ซื้อเช้าขายบ่าย ซื้อบ่ายขายเย็น และผัดผักบุ้งไทยได้รสชาติถึงใจ เนื่องจากพอผัดเสร็จจะหยอดน้ำพริกกะปิเพิ่มความหอมเข้มอีก 1 ช้อนลงไป
ส่วนถ้าเป็นเครื่องจิ้มต่างๆให้สั่งหลนปลากุเลาหอม(260-340 บาท+) ซึ่งพี่มดทำแบบโบราณใส่ข้าวหมากเพิ่มความหอม โดยจะใช้ทั้งปลากุเลาให้ความหอมและปลาอินทรีให้ความเค็ม นอกจากนี้ก็มีน้ำพริกกะปิกุ้งสด(280-380 บาท+) อีกเมนูโบราณที่ใส่น้ำพริกกะปิก็คือแกงรัญจวนเนื้อ(260-320 บาท+)ใส่เนื้อน่องลายตุ๋นและแตงโมอ่อนด้วย ไม่กินเนื้อก็มีแกงรัญจวนหมูอีกอย่าง
ของไม่เผ็ดมีหลากหลาย เมนูยอดนิยมคือหมูกรอบคั่วพริกเกลือ(280-380 บาท+)ใส่พริกไทยอ่อน คั่วถึงเครื่องพริกขี้หนูหอมๆ อีกทั้งปลาเนื้ออ่อนทอดราดกระเทียม(380-480 บาท+)ตัวเล็กๆทอดราดน้ำปลาผสมน้ำตาล ซึ่งกระเทียมที่ร้านจะเจียวเอง เวลากินให้จิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด เนื้อย่างจิ้มแจ่ว(240-320 บาท+)ใส่มะขามเปียก สันคอหมูย่าง(240-320 บาท+) และหนำเลี้ยบหมูสับคั่วพริกแห้ง(220-280 บาท+) มีแม้กระทั่งกุ้งแม่น้ำเผา(สอบถามขนาดและราคาได้เลย) ส่วนเครื่องดื่มถ้ามาวันเสาร์-อาทิตย์ให้สั่งน้ำมะยงชิดปั่น กระท้อนปั่น และมะม่วงปั่น(145 บาท+ ทุกอย่าง)
ลืมบอกไปว่าที่ร้านบ้านตานิด ถ้ามาวันธรรมดาจะคิดค่าบริการเพิ่ม 5 % แต่ถ้ามาวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์จะคิดค่าบริการ 10 %
ขอย้ำว่าเนื่องจากร้านบ้านตานิดคือร้านดังที่ได้รับความนิยมมาก ก่อนไปหลายๆวันต้องโทรไปจองโต๊ะไว้ล่วงหน้าดีที่สุด มิฉะนั้นอาจจะต้องรอโต๊ะนานเป็นชั่วโมง ร้านบ้านตานิดเปิดบริการตามช่วงมื้ออาหาร กลางวัน 11 โมงครึ่งถึงบ่าย 3 โมง ส่วนมื้อเย็นเปิดตอน 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม หยุดทุกวันอังคาร โทรจองโต๊ะได้ที่ 08-1835-0660 นะจ๊ะ