Casa Blue ร้านบรรยากาศดีน่านั่งชิลขนาดกะทัดรัดย่านนางลิ้นจี่ (ชื่อเต็มCasa Blue Craft Brews & Delicacies) เปิดมานาน 8 ปี (อยู่ตรงนี้นาน 5 ปีแล้ว) ตกแต่งในแนวเรโทรคลาสสิกโทนสีฟ้าสดเหมือนชื่อร้าน ตั้งอยู่หน้าโครงการ TTN Avenue นางลิ้นจี่ ริมถนนนางลิ้นจี่
ร้านนี้เหมาะสำหรับนัดเพื่อนฝูงมาเลี้ยงฉลองเฮฮาช่วงมื้อเย็น เพราะมีดนตรีสดเริ่มทุ่มครึ่งทุกคืน ที่นี่มีอาหารหลากหลาย ไม่ใช่แนวยุโรปตะวันตกเท่านั้น แต่ยังมีเมนูไทยปนจีนจานเดียวแสนอร่อยสำหรับกินด่วนช่วงมื้อกลางวันด้วย จึงมีพนักงานออฟฟิศมาอุดหนุนอีกต่างหาก โดยร้านจะเปิดตั้งแต่ตอนเที่ยงไปจนถึงเที่ยงคืนทุกวัน มีทั้งโซนห้องปรับอากาศและโซนรับลมธรรมชาติ
พ่อครัวใหญ่ไม่ใช่คนอื่นไกล คือเฮียฮั้ว จิรพนธ์ อภิกิติสุวรรณ(ในวัย 53 ปี) พี่ชายของน้องนุช กัญญานิษฐ์ อภิกิติสุวรรณ ภรรยาของน้องท็อป กิตติพงศ์ ทรงเศรษฐกิจ ทำร้านกันเป็นธุรกิจของครอบครัว
เฮียฮั้วผันตัวเองจากพนักงานสายธนาคารข้ามชาติมาดูแลเรื่องอาหาร เพราะปรุงอาหารได้เก่งมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารสไตล์ไทย-จีน ซึมซับมาจากคุณแม่ที่เคยอยู่ที่ย่านท่าน้ำราชวงศ์
เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดมีทั้งแนวยุโรปและแนวไทย-จีน มาแล้วต้องสั่งของอร่อยแบบเยอรมัน บาวาเรียน แพลทเตอร์(Bavarian Platter)(999 บาท) เสิร์ฟมาในถาดไม้ขนาดใหญ่ มีทั้งขาหมูเยอรมันหนังกรอบเนื้อนุ่มที่ต้องหมักเกลือโดยการแช่ในน้ำเกลือ(Brine) นาน 3 วัน จากนั้นนำไปอบแล้วทอด หนังขาหมูจึงเรียบสวยแล้วกรอบมาก
และก็มีไส้กรอกแฟรงค์เฟิร์ตเตอร์กรอบๆ ไส้กรอกชีส ไส้กรอกบราสเวิร์ท(Bratwurst) และไส้กรอกพริกไทยดำดุ้นโต ซึ่งน้องท็อปเล่าว่าเป็นไส้กรอกสไตล์เยอรมันของเพื่อนซึ่งปรับรสชาติให้ถูกปากคนไทย บดหยาบหน่อย กินคู่กับมันบด และเซาเออร์เคราท์(กะหล่ำปลีดอง) จิ้มกับมัสตาร์ดชนิดมีเม็ดที่ร้านปรุงเองสูตรเฮียฮั้วหรือจะจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดก็อร่อย
และที่ถูกใจพวกเรามากๆคือเมนูดังสไตล์ท่าน้ำราชวงศ์อันโด่งดังในอดีต มี 2 อย่างคือ คั่วไก่ราชวงศ์(119 บาท) มีทีเด็ดตรงเส้นก๋วยเตี๋ยว ด้านนอกเกรียมๆหอมๆ เนื้อในหนึบอร่อย ผัดได้หอมกลิ่นกระทะมาก อีกทั้งอีหมี่(135 บาท) เส้นแบนใหญ่โดยจะสั่งบะหมี่จากเจ้าประจำให้เพิ่มไข่เป็นพิเศษ คั่วบะหมี่และปิดฝาอบจนกรอบนอกหนึบใน โปะด้วยแฮมกับเห็ดหอม อยากกินแบบดั้งเดิมให้โรยน้ำตาลกับราดจิ๊กโฉ่วด้วยนะจ๊ะ
เมนูตะวันตกอื่นๆมีมากมาย เช่นแฮมเบิร์กสเต๊ก(279 บาท) ใช้เนื้อบดแองกัสนิวซีแลนด์ดรายเอจ 150 กรัม นุ่มหอมกลิ่นน้ำมันทรัฟเฟิล โปะด้วยชีสเชดดาร์ กินกับมันบด ราดน้ำเกรวี่บราวน์ซอส สเต๊กเนื้อวากิวออสเตรเลียสตริปลอยน์นุ่มๆ 250 กรัม(755 บาท) เลือกเนื้อเกรดดี MB(ลายหินอ่อน) เบอร์ 7-8 ซึ่งถือว่ามีไขมันแทรกนุ่มๆเยอะมาก
ไม่กินเนื้อก็มีหมู คุโรบูตะพอร์คช็อพ (Kurobuta Pork Chop) (300 กรัม 365 บาท) ชิ้นโตติดกระดูก ราดซอสพริกไทยอ่อน แกล้มเฟรนช์ฟรายส์ หรือจะกินเมนูปลา แซลมอนฟิลเลต์สเต๊ก(315 บาท)หนังกรอบๆ กินกับมันบดและผักต่างๆ และมีของกินเล่นที่คนนิยมสั่งหอยลายอบเนยกระเทียมและไวน์ขาว (185 บาท) กินกับขนมปังกรอบๆ
ถ้าชอบกินรสจัดๆให้สั่งผัดฉ่าหมูย่าง(225 บาท) ใช้สันคอหมูนุ่มๆหมักกับรากผักชี กระเทียม พริกไทยข้ามคืน และนำมาผัดกับเครื่องผัดฉ่าใส่กระชาย มะเขือเปราะ ใบโหระพา และเนื้อวากิวผัดพิโรธ(315 บาท) เมนูไม่ซ้ำใคร เนื้อวากิวออสเตรเลียผัดกับเครื่องแกงเผ็ดราดหัวกะทิ แกล้มมะเขือเปราะชิ้นโตๆ และก็มีคั่วกลิ้งกระดูกอ่อน น้ำขลุกขลิกโรยใบมะกรูดซอย
อีกอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีในร้านประเภทนี้คือขาหมูพะโล้ครัวราชวงศ์หม้อไฟ(315 บาท) สูตรคุณแม่เฮียฮั้ว ใส่ไส้พะโล้กับไข่พะโล้ด้วย
ร้าน Casa Blue เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เที่ยงถึงเที่ยงคืน หยุดเดือนละครั้ง(แจ้งในเพจ) เนื่องจากร้านนี้ได้รับความนิยมและไม่ใหญ่มาก ช่วงมื้อค่ำควรจองโต๊ะล่วงหน้าที่เบอร์ 09-9449-2233 หรือที่ Line @casablue นะจ๊ะ ติดตามโปรโมชั่นหลากหลายได้ที่เฟซบุ๊ก www.facebook.com/casabluebkk