17/08/2567

ครัวท่าเรือ สาขาทุ่งมังกร

สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย จากเผ็ดน้อยมากๆ ไปจนถึงเผ็ดไม่มีเบรก(แต่ไม่แนะนำเพราะจะเผ็ดจนติดขมได้) ถ้าเป็นคนที่กินเผ็ดได้ แนะนำให้สั่งระดับเผ็ดกลางหรือเผ็ดมาก ซึ่งคือระดับความเผ็ดของที่ร้านตามปกติ
Blog Teaser Moblie

เพิ่งแนะนำร้านอาหารในเมืองกาญจน์เมนูเด็ดเผ็ดร้อนไปไม่นานมานี้ ก็มีแฟนคลับเขียนมาชวนให้เชลล์ไปชิมอาหารป่ารสร้อนแรงของร้านซึ่งมาจากเมืองกาญจน์ขนานแท้ เข้ากรุงสดๆร้อนๆเพียงแค่ 3 ปี ก็โด่งดังมีขาประจำชาวธนบุเรี่ยน(ก็คนฝั่งธนนั่นแหละ)ติดกันงอมแงม ร้านนี้มีชื่อว่าครัวท่าเรือ สาขาทุ่งมังกร อยู่ใกล้กับย่านสวนผัก ตลิ่งชันแค่นี้เอง ตามมาลิ้มลองได้สบาย

ได้ส่งสมาชิก น้องวัฒน์ ชายกางตระเวนกินทั่วถิ่นไทยไปสอดส่องซอกแซกชิมล่วงหน้า ได้ความว่าอร่อยเหลือหลาย พวกเราที่เหลือจึงตามไปลิ้มลองในบัดดล

ร้านครัวท่าเรือ สาขาทุ่งมังกรแห่งนี้ เป็นของน้องเต้ย ปุณภพ รัชฏากาญจน์กูล ลูกชายคนโตของเจ๊ออ ซึ่งมีครัวท่าเรือร้านหลักอยู่ที่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี(ย้ายมาจากต.ท่าเรือ อ.ท่ามะกา) ซึ่งร้านนั้นมีน้องตั้ม ลูกชายคนเล็กของเจ๊ออ ช่วยแม่ทำร้านด้วย

ครัวท่าเรือ สาขาทุ่งมังกร อยู่ในซอยทุ่งมังกร 10 ถนนทุ่งมังกร เข้าซอยไป 100 เมตรอยู่ทางซ้ายมือ เป็นร้านชั้นเดียวติดเครื่องปรับอากาศทั้งหลัง แบ่งเป็น 2 ห้องใหญ่ซ้ายขวา มีที่จอดรถข้างร้านจอดได้ประมาณ 7 คัน หรือจอดริมซอย(ไม่ขวางหน้าบ้านคน)ก็ได้

ทางมาจากใจกลางกรุงสะดวกที่สุดคือ ขึ้นทางด่วนสายประจิมรัถยา (ทางพิเศษศรีรัช–วงแหวนรอบนอก) มาลงที่ทางลงราชพฤกษ์ จากนั้นตรงขึ้นสะพานต่างระดับมาลงถนนเลียบทางรถไฟตลิ่งชัน วิ่งผ่านสถานีรถไฟชุมทางตลิ่งชัน พอถึงแยกไฟแดงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสวนผัก จากนั้นตรงต่อไปเข้าถนนทุ่งมังกร ไปจนถึงซอยทุ่งมังกร 10 อยู่ทางซ้ายมือ ให้ค้นใน Google Maps ว่าครัวท่าเรือสาขาทุ่งมังกรได้เลย ส่วนชาวฝั่งธนก็มาจากถนนพุทธมณฑลสาย 1 แล้วเลี้ยวเข้าถนนสวนผักได้อีกทาง

มาร้านนี้สิ่งสำคัญคือควรโทรมาจองโต๊ะล่วงหน้าเสียก่อนที่เบอร์ 08-8491-9903 และ 08-7752-3215  เพราะร้านไม่ใหญ่มากและเป็นร้านยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์

มาแล้วให้เปิดเมนูดู จะเห็นว่าสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย จากเผ็ดน้อยมากๆ ไปจนถึงเผ็ดไม่มีเบรก(แต่ไม่แนะนำเพราะจะเผ็ดจนติดขมได้) ถ้าเป็นคนที่กินเผ็ดได้ ขอแนะนำให้สั่งระดับเผ็ดกลางหรือเผ็ดมากนะครับ ซึ่งคือระดับความเผ็ดของที่ร้านตามปกติ จะได้รับรสดั้งเดิมของเมืองกาญจน์นะจ๊ะ

เมนูห้ามพลาดแน่นอนว่าย่อมต้องเป็นแกงป่า ขอแนะนำแกงป่าปลากราย(160 บาท) รสชาติถึงเครื่องแกงเผ็ดร้อนแต่กลมกล่อมสมดุล(ทำระดับเผ็ดมากคือรสชาติปกติ) กินอร่อยมากๆ เข้มข้นร้อนแรงเรียกเหงื่อได้ดี เนื้อปลากรายก็นุ่มแน่นแต่ไม่ถึงกับละเอียดมาก ซึ่งใช้เนื้อปลากรายจากเมืองกาญจน์ที่ขูดเนื้อมาให้แล้ว

ส่วนเครื่องแกงทีเด็ดนั้น ใช้เป็นเครื่องแกงเอนกประสงค์สำหรับทำเมนูแกงป่า ผัดเผ็ด ฉู่ฉี่ ทอดมันได้ทั้งหมด ทีเด็ดเคล็ดลับคือมีส่วนผสมของเครื่องเทศหลายๆตัว(ต้นทุนแพงมาก กิโลละหลายพันบาท) บดละเอียดมาให้แล้ว จากเจ้าประจำที่เมืองกาญจน์ ซึ่งจะส่งสูตรนี้ให้เฉพาะร้านครัวท่าเรือเจ้าเดียวเท่านั้น โดยจะนำมาผสมกับเครื่องแกงป่าของที่ร้านทำเอง น้องเต้ยบอกว่าจะใช้พริกถึง 4 ชนิด ได้แก่ พริกหัวเรือ พริกขี้หนูสวน พริกจินดาสด และพริกจินดาแห้ง

อย่างนี้ต้องแก้เผ็ดด้วยเมนูขึ้นชื่อของครัวท่าเรือ ห้ามพลาด 2 อย่างเลย มีไข่ซาลาเปา(100 บาท) ซึ่งเราเลือกไข่ซาลาเปาหมูสับ(ทำเป็นกุ้งสับหรือใส่เนื้อปูก็ได้) ก้อนโตๆหนาหลายนิ้วน่ากินมาก ใช้ไข่ไก่กับไข่เป็ดอย่างละฟองผสมกัน ใส่หมูสับกับผักขึ้นฉ่าย ทอดในกระทะปกติโดยใช้ไฟอ่อน ใจเย็นค่อยๆตะล่อมจนเป็นก้อนกลมยักษ์ ตักมาคำโตๆอร่อยสะใจ

ของแก้เผ็ดอีกอย่างเป็นเมนูเมืองกาญจน์ขนานแท้ ปลาเค้าทอดน้ำปลา(ขีดละ 100 บาท จานนี้ 300 บาท) รับปลาสดๆจากเจ้าประจำ ตัวใหญ่หนัก 3 กิโลขึ้นไป ทอดจนเหลืองอร่าม ราดน้ำปลาที่ปรุงรสเค็มหอมแต่ไม่หวานมาก มีเคล็ดลับคือร้านเมืองกาญจน์แบบนี้จะใช้น้ำปลาที่ผสมน้ำเกลือ จะได้ไม่คาว เป็นยี่ห้อที่ขายให้กับร้านอาหารโดยเฉพาะ

กลับมาที่เมนูเผ็ด ต้องลองหมูป่าผัดเผ็ด(160 บาท)กับเนื้อกวางผัดหน่อไม้ดอง(150 บาท) ให้ได้เลยนะจ๊ะ หมูป่าผัดเผ็ดจานนี้ เราสั่งรสชาติเผ็ดกลางและสูตรนี้ใส่นมข้นจืดด้วย ซึ่งสามารถสั่งผัดแบบป่าๆไม่ใส่นมก็ได้ ส่วนเนื้อกวางผัดหน่อไม้ดอง หน่อไม้เปรี้ยวหอม ใช้หน่อไม้ไผ่ตงจากเชียงราย น้องเต้ยบอกว่าดองดีมากไม่มีกลิ่นเหม็นไม่พึงประสงค์เลย อร่อยทั้ง 2 อย่างจริงๆ

ข้อดีของการมาร้านร้านครัวท่าเรือ ทุ่งมังกร ก็คือมีเมนูให้เลือกหลากหลาย คนไม่กินเผ็ดก็มีของถูกใจให้ชิมแน่นอน เห็นได้จากวันนี้ที่พวกเราสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ มากัน 4 คนแต่สั่งมาเยอะเหมือนกิน 10 คนทีเดียว

ของดีมีทั้งทอดมันปลากราย(150 บาท) ที่ร้านนวดเองจนเนื้อหนึบเด้ง ใส่พริกแกงหอมๆตัวเดียวกันกับแกงป่า วุ้นเส้นผัดผักหวานป่า(150 บาท) เป็นเมนูประจำร้านนี้ที่คิดค้นเพิ่มเติมจากผัดผักหวานป่า(150 บาท) อันเป็นเมนูดังจากเมืองกาญจน์ (น้องต่าย ภรรยาน้องเต้ยช่วยคิดด้วย) ใช้วุ้นเส้นท่าเรือของเมืองกาญจน์ ส่วนผักหวานป่านั้น น้องเต้ยซึ่งเป็นคนไปจ่ายตลาดที่ศาลาน้ำร้อน บอกว่ามีเพียงหนึ่งเดียวในตลาดที่มีของดีแบบนี้ ผัดใส่ไข่ ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส อร่อยแบบง่ายๆ

อีกทั้งกุ้งนางทอดกรอบ(150 บาท ลูกกุ้งขาวคลุกแป้งทอด ซึ่งต้องกินตอนร้อนๆจะดีมากๆ หมูทอดน้ำปลา(150 บาท) คอหมูแท้ทอดน้ำปลาตัวเดียวกับที่ปรุงในปลาทอดราดน้ำปลา ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมันหอย ซอสปรุงรส และลูกผักชีป่น เมนูนี้ก็ห้ามพลาด

ส่วนเมนูน้ำๆซดๆ โชคดีมากที่วันนี้มีเห็ดโคนมาใหม่(ปลายฤดูกาลแล้ว) ได้ชิมต้มยำเห็ดโคนกาญจน์(500 บาท) รสชาติพื้นบ้านแท้ๆ(ปรุงเผ็ดกลาง) น้องเต้ยบอกว่าไม่ต้องใช้น้ำปลาเลย แค่ต้มเห็ดโคน(ใส่น้ำท่วมเห็ด 2 เท่า) ต้มไฟอ่อนใส่เกลือเล็กน้อย จนน้ำหวานตามธรรมชาติของเห็ดโคนออกมา จากนั้นตักใส่ชามที่มีน้ำมะนาวและพริกขี้หนูทุบ แค่นี้ก็อร่อยเหาะแล้ว และอีกอย่างคือต้มส้มปลาทู(250 บาท)หม้อไฟ กะปิสั่งจากเมืองกาญจน์เจ้าประจำ ใส่ขิง ต้นหอม ขึ้นฉ่าย ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียก น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ

ความจริงยังมีเมนูเด็ดของร้านที่ยังไม่ได้ลิ้มลองอีกด้วย เช่นปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม(ขีดละ 120 บาท ขนาดตั้งแต่ 3 ขีดจนถึง 2 กิโล) กุ้งแม่น้ำทอดเกลือ กุ้งผัดกะปิสะตอ(220 บาท) ที่น้องวัฒน์บอกว่าเป็นเมนูใต้ที่ทำได้ดีทีเดียว

อ่านจบรีบโทรจองโต๊ะ พุ่งตรงมาเลยนะจ๊ะ ร้านครัวท่าเรือ สาขาทุ่งมังกร เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเข้าถึง 3 ทุ่ม(ครัวปิด 2 ทุ่มครึ่ง โทรจองที่เบอร์ 08-8491-9903 และ 08-7752-3215 ถ้าวันไหนหยุดจะติดประกาศที่ร้านและแจ้งในเพจร้านล่วงหน้า อีกทั้งถ้าวันไหนขายดีมากก็จะมีหยุดพักร้าน 1 ชั่วโมง ช่วง 15.00-16.00 น. เพื่อออกไปซื้อวัตถุดิบเพิ่มเติมนะจ๊ะ

นอกจากนี้ยังมีครัวท่าเรืออีกหลายแห่ง เช่นที่สาขานครชัยศรีเป็นของลูกพี่ลูกน้องของน้องเต้ย และที่พุทธมณฑลสาย 5 ของคุณน้า น้องสาวคุณแม่ ด้วยนะจ๊ะ ทุกร้านมาจากเมืองกาญจน์ขนานแท้เลยจ้า


Arrow Page Up