23/08/2567

ขาหมูชาญเทคนิคพรีเมียม สาขาสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์

ข้าวขาหมูชาญเทคนิคพรีเมียม(บางคนก็เรียกต่อสร้อยท้ายว่าบายโจ้) ขอเชียร์สรุปสั้นๆว่าอร่อยเข้มข้นเหมือนลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นทีเดียว รับรองว่าใครได้ลิ้มลองต้องทำตาโต ร้องโอ้โฮครางฮือๆด้วยความอร่อยเป็นแน่
Blog Teaser Moblie

เมืองนนทบุรีมีร้านขาหมูเจ้าดังตั้งชื่อไม่เหมือนใครว่าชาญเทคนิค ซึ่งเจ้าของร้านในตอนนั้นคือคุณชำนาญ ทางธรรม ได้เปลี่ยนอาชีพจากรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี วิทยุ หันมาขายข้าวขาหมูแทนตั้งแต่ปี 2537 เนื่องจากเจ๊ลั้ง ศรีภรรยา ตั้งโต๊ะขายขาหมูหน้าร้านเป็นอาชีพเสริม(เคยทำขาหมูส่งขายอยู่แล้ว) ไปๆมาๆกลายเป็นอาชีพหลัก

จนกระทั่งมีแฟนคลับชื่อน้องเอกแนะนำให้ผมไปชิมขาหมูของชาญเทคนิคที่ร้านเริ่มแรกริมถนนประชาราษฎร์ และนำไปลงในคอลัมน์ตามรอยพ่อไปชิมโดยปิ่นโตเถาเล็ก ในหนังสือพิมพ์มติชนรายวันเมื่อพ.ศ. 2551 ตั้งแต่นั้นมาขาหมูร้านนี้ก็ขายดิบขายดีมีลูกค้าบอกต่อถึงความอร่อยไปทั่วทุกมุมเมือง

มาบัดนี้ลูกชายของคุณชำนาญชื่อว่าน้องโจ้ สรายุทธ ทางธรรม และภรรยา ได้แตกสาขามาเปิดร้านข้าวขาหมูเป็นของตัวเองได้นานกว่า 1 ปีครึ่งแล้ว โดยข้ามแม่น้ำเจ้าพระยามาอีกฝั่ง ใช้ชื่อว่า ข้าวขาหมูชาญเทคนิคพรีเมียม(บางคนก็เรียกต่อสร้อยท้ายว่าบายโจ้) ต้องขอเชียร์สองมือสรุปสั้นๆว่าอร่อยเข้มข้นเหมือนลูกไม้ที่หล่นใต้ต้นทีเดียว รับรองว่าใครได้ลิ้มลองต้องทำตาโต ร้องโอ้โฮครางฮือๆด้วยความอร่อยเป็นแน่

ใครอยากตามมาชิมที่ร้านนี้ให้ค้นในกูเกิ้ลแมพส์ว่า ข้าวขาหมูชาญเทคนิค (HQ) สะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ทางมาร้านจากฝั่งกรุงเทพฯให้มาที่ทางต่างระดับถนนนนทบุรี 1(สนามบินน้ำ) ขึ้นสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ข้ามแม่น้ำ มาลงที่ถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1(ป้ายถนนราชพฤกษ์) จากนั้นไปกลับรถที่ใต้สะพานแยกถัดไป(อยู่เลยไป 2 กม.กว่า) วิ่งย้อนกลับมาทางเดิมจนเกือบถึงสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ ร้านขาหมูชาญเทคนิคพรีเมียม จะอยู่ในตึกแถวเล็กๆ(ความสูง 1 ชั้นครึ่ง) ริมถนนด้านซ้ายมือ มีป้ายชื่อร้านสีแดง (ตรงนี้เป็นดงร้านอาหาร) จอดรถริมถนนหรือเลี้ยวไปจอดด้านหลังก็ได้

น้องโจ้ขยันเปิดร้านตั้งแต่ 7 โมงเช้า ขายไปจนถึงบ่าย 2 โมงครึ่ง แน่นอนว่าของอร่อยเด็ดย่อมต้องเป็นขาหมูที่มีน้ำพะโล้ทั้งข้นและเข้มสุดๆ แต่ไม่ถึงกับข้นจนหนืด รสเค็มอมหวานเหมือนกับที่กินสมัยร้านของพ่อเมื่อ 17 ปีก่อนเลย ซึ่งน้องโจ้จะเลือกใช้เฉพาะส่วนขาหลังเหมือนเดิมเพราะมีเนื้อและความชุ่มฉ่ำมากกว่าขาหน้า โดยจะต้มขาหมูใส่เครื่องยาจีน(ไม่มีผงพะโล้)ตั้งแต่ตอนเที่ยงจนถึงบ่ายสามโมง เพื่อเตรียมขายในวันรุ่งขึ้น

สิ่งเดียวที่แตกต่างกับร้านแรกก็คือเดี๋ยวนี้ไม่มีส่วนหางหมูแล้ว เพราะน้องโจ้บอกว่าหางหมูที่ได้มามีคุณภาพไม่สม่ำเสมอ บางครั้งจะแห้งไป จึงเลิกทำ แต่ยังมีขาหมูส่วนอื่นๆครบถ้วน ทั้งเนื้อหนัง คากิ และคาจักหรือส่วนข้อเท้าที่ต่อจากคากิ นุ่มหอมเนียนลิ้นอย่าบอกใคร เป็นส่วนที่ชอบมากที่สุดไปแล้ว ให้รีบมาตอนสายๆเพราะคาจักจะหมดก่อนใครเพื่อน และมีไส้หมู(ไส้ใหญ่) อีกทั้งไข่ต้มยางมะตูม(ฟองละ 10 บาท) เหมือนกันทุกลูก ทีเด็ดอีกอย่างคือผักกาดดอง ซึ่งมีเคล็ดลับคือจะใช้น้ำมันลอยหน้าขาหมูพะโล้มาต้มผักกาดดอง รสชาติเข้มข้นเปรี้ยวหอมอร่อยเสียจนกระทั่งต้องสั่งผักกาดดองใส่ถ้วยเพิ่มมาต่างหาก(25 บาท)

ซึ่งน้องกันย์ หนึ่งในคณะกรรมการเชลล์ชวนชิม ที่คุ้นเคยกับน้องโจ้บอกว่า ตอนนี้ที่ร้านจะอัพไซส์หรือเพิ่มขนาดข้าวขาหมู เรียกได้ว่าให้เยอะจนจุใจ เริ่มต้นที่ข้าวขาหมูบิ๊กเบิ้ม(60 บาท) ใสไข่เพิ่ม 10 บาท) จานใหญ่เลย และมีข้าวขาหมูพ่อบิ๊กเบิ้ม 80 บาท (เพิ่มข้าว เพิ่มขาหมู ใส่ไข่ต้มยางมะตูมด้วย) ให้เยอะมากขนาดที่ว่าถ้าสวาปามหมดจานก็จะอิ่มจุกไปตลอดทั้งวัน หรือจะสั่งขาหมูเปล่าๆและส่วนต่างๆมาเป็นจาน(110-210 บาท) ในรูปที่เห็นคือขนาด 110 บาทก็ให้เยอะมากแล้ว

น้ำแกงร้านนี้ก็สุดยอดเช่นกัน แนะนำให้สั่งต้มผสม(60 บาท) ซึ่งเป็นการผสมน้ำแกง 2 อย่างของที่ร้านเข้าด้วยกัน คือแกงจืดมะระซี่โครงหมูผสมกับต้มผักกาดดองใส่ไส้ใหญ่(ตือฮวน) ช่างเป็นส่วนผสมที่สุดยอดจริงๆ

ขอเชิญตามมาชิมได้ทุกวันยกเว้นวันพุธที่เป็นวันหยุดร้าน โทร  08-9690-6463 น้องโจ้ลูกชายก็ช่างเจรจาขี้เล่นไม่แพ้คุณพ่อเลยนะจ๊ะ


Arrow Page Up