ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด

อะไรเอ่ย ชื่อขึ้นต้นด้วยไก่ แต่กลับขาย(ก๋วยเตี๋ยว)เป็ด ร้านที่ว่านี้คือไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ด เปิดมานาน 23 ปี มีลูกค้าขาประจำมากมาย ที่ตั้งชื่อว่าไก่แก้ว เพราะเป็นชื่อลูกชายคนเล็กนั่นเอง

ตอนนี้คุณพ่อคุณแม่ ปล่อยให้ลูกสาวรุ่นที่ 2 ดูแลร้านแทน แต่คุณแม่ก็ยังเป็นคนปรุงก๋วยเตี๋ยวเป็ดอยู่ทุกวัน มีลูกสาวชื่อมะยมกับมะนาวรับช่วงต่อ รวมถึงมีหลานๆช่วยกันด้วย ซึ่งตอนนี้มะยมไปเปิดร้านใหม่ช่วงเย็นแถวสะพานพระราม 5 ตรงแมคโครนครอินทร์ด้วย ตอนนี้คนดูแลร้านประจำคือน้องมะนาว ปรัชญาภรณ์ ไทยศิริมงคล

ทางไปร้านไม่ค่อยยากนัก ตัวร้านตั้งอยู่ที่ริมถนนร่วมจิตต์ มาตามถนนนครไชยศรีวิ่งมาจากราชวัตรข้ามคลองมา ผ่านสี่แยกพิชัย พอถึงแยกถัดไปคือแยกร่วมจิตต์ที่ว่า นี้ จุดสังเกตคือก่อนถึงสี่แยกมีร้านแกงป่าที่ขายอาหารไทยขึ้นชื่อมาช้านานกับไปรษณีย์ดุสิต ให้เลี้ยวขวาเข้าถนนร่วมจิตต์ ร้านไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ดจะอยู่ทางขวามือตรงข้ามกับสถาพรแมนชั่น นอกเวลาเร่งด่วนจอดรถริมถนนหน้าร้านได้เลย

ไก่แก้วก๋วยเตี๋ยวเป็ดเป็นร้านชั้นเดียวตั้งอยู่ในซอกริมทางเท้า เดี๋ยวนี้จะตั้งโต๊ะด้านในเยอะขึ้น เพราะด้านนอกจะตั้งโต๊ะริมทางเท้าได้นิดเดียวแล้ว ช่วงหน้าร้านมีตู้แขวนเป็ดพะโล้โชว์อยู่เต็มเรียกน้ำย่อยก่อนอาหารดีนัก นอกจากนี้เขามีกะละมังใบย่อมไว้สำหรับใส่ไส้เป็ดและเครื่องบริวารเป็ดต่างๆดูน่ากินมาก

เวลาสั่งอาหารให้สั่งที่โต๊ะ เขามีกระดาษปั๊มเบอร์โต๊ะไว้ โต๊ะใครโต๊ะมัน มีเส้นให้เลือกทั้ง บะหมี่เป๊าะ เส้นเล็กที่เป็นเส้นจันท์ เส้นใหญ่ เส้นหมี่ เกี๊ยวไส้กุ้งกับหมู และวุ้นเส้น ส่วนเป็ดมีทั้งเป็ดพะโล้และเป็ดตุ๋น ซึ่งการต้มเป็ดจะมีหม้อหัวเชื้อเก็บไว้ตลอด รสชาติจึงไม่ผิดเพี้ยน

โดยคุณแม่มีพื้นเพเป็นคนสุพรรณบุรี จึงทำน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเป็ดรสเข้มข้นแบบไทยๆ ถึงแม้จะใส่เครื่องพะโล้และยาจีน กลิ่นก็ไม่แรงจนเกินไป มีรสหอมเบาๆ เคล็ดลับคือจะปรุงด้วยซีอิ๊วตรากวางดาวทองของสุพรรณบุรีด้วย และเร่วจากเมืองจันทบุรี เพิ่มกลิ่นหอม โดยจะต้มนานชั่วโมงครึ่ง ใช้เป็ดโป๊ยฉ่ายตัวใหญ่ของ Duck King ส่วนน่องเป็ดตุ๋นนั้น จะแยกไปตุ๋นกับเครื่องยาจีนเพิ่มต่างหาก เพื่อให้มีรสชาติเข้าเนื้อ

มาร้านนี้ อยากกินก๋วยเตี๋ยวก็สั่งเส้นได้ตามที่บอก มีให้เลือกทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้(60-70 บาท) และก๋วยเตี๋ยวเป็ดตุ๋น(70-80 บาท) หรือจะสั่งเกาเหลา(สั่งได้ทั้งเป็ดพะโล้และเป็ดตุ๋น 70-80 บาท)(น่อง-สะโพกเป็ดตุ๋นคิดชิ้นละ 60 บาท)กินกับข้าวเปล่า รสชาติน้ำก๋วยเตี๋ยวจะออกเค็มแต่รสเข้มกลมกล่อม ไม่หวานมาก ถูกใจจริงๆ

หรือจะเปลี่ยนเป็นข้าวหน้าเป็ดพะโล้(60-70 บาท)ก็มีเหมือนกัน ข้าวหน้าเป็ดพะโล้จะสั่งให้ใส่ไส้ เลือด และเครื่องในเพิ่มด้วยก็ได้(จานละ 70-80 บาท) 

ถ้าเป็นคนกินจุก็ให้สั่งเป็ดพะโล้สับราดกระเทียมเจียว(120-150 บาท)มาด้วย(ผมชอบส่วนสะโพกเนื้อจะยิ่งนุ่ม) น้ำจิ้มเป็ดพะโล้ที่เสิร์ฟคู่กันออกรสเปรี้ยวเค็มหวานครบเครื่องรสจัดๆ ทำจากซอสสูตรของแม่ที่ใช้เครื่องปรุงของสุพรรณ ใส่มะนาวแท้ น้ำตาล กระเทียม พริกจินดา น่าเอาไว้ใช้จิ้มกับเนื้อเป็ดในก๋วยเตี๋ยวด้วย ถึงแม้ไม่สั่งข้าวก็ควรขอมาประดับโต๊ะ เพิ่มรสชาติดีออก(ถ้าติดใจก็มีขายเป็นขวดๆ ซื้อกลับบ้านได้ ขวดละ 80 บาท)

สิ่งที่ห้ามพลาดคือให้สั่งเครื่องบริวารเป็ดต่างๆใส่จานมาต่างหาก มีของดีที่หายากมีเพียงวันละ 2-3 จานเท่านั้นคือ เอ็นเป็ด(70 บาท)กรุบๆอร่อยแต่ไม่แข็ง ได้ออกแรงเคี้ยวเล็กน้อย คือส่วนของเอ็นข้อขาที่แกะออกมาต้มต่ออีก 10 นาที ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ

สิ่งที่ขาดไม่ได้คือไส้เป็ด(70 บาท) ไส้แก้วกรอบอร่อยราดกระเทียมเจียว ห้ามพลาดเช่นกัน น้องมะนาวบอกว่าต้องกินตอนร้อนๆที่ร้านจะยิ่งกรอบอร่อย เพราะไม่ใส่สารทำให้กรอบใดๆทั้งสิ้น ถ้าทิ้งไว้นานก็จะมีความเหนียวเกิดขึ้นได้

นอกจากนี้ก็มีเครื่องเป็ดต่างๆทั้ง ปากเป็ด ปีกเป็ด ขาเป็ด เลือดเป็ด และเครื่องในนุ่มๆมีทั้ง กึ๋น ตับ หัวใจ สั่งแยกเป็นจานๆได้ คิดจานละ 70 บาท แนะนำให้สั่งรวมเครื่องเป็ดทุกอย่าง คิดจานละ 200 บาท จะได้กินทุกสิ่งอัน(ยกเว้นไส้ให้สั่งแยกนะจ๊ะ) และก็มีเกี๊ยวลวก(70 บาท)อีกด้วย

ใครสนใจจะตามไปชิม ที่นี่เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 7 โมงครึ่งเช้าจนถึง 2 ทุ่ม เฉพาะวันอังคารเท่านั้นที่ขายถึงแค่บ่าย 4 โมง ถ้ามาตอนเที่ยงโปรดทำใจรอมองโต๊ะอื่นกินไปก่อน คนแน่นเหมือนกินฟรี หรือจะโทรถามก่อนก็ได้ที่ 08-1913-4173 และ 06-1891-9961

นอกจากที่นี่ก็มีสาขาที่หลานไปเปิดแถวสะพานนนทบุรี(สะพานนวลฉวี) ฝั่งกรุงเทพฯ (08.00 – 16.00 น.) กับที่บอกไปแล้วของพี่สาวชื่อมะยม เปิดร้านใหม่ช่วงเย็นแถวสะพานพระราม 5 ตรงแมคโคร นครอินทร์ (16.00 – 21.00 น.)

ขออนุญาตปิดท้ายด้วยกลอนสดของนักการเมืองรุ่นเก๋าท่านหนึ่ง

"ชื่อไก่แก้วแต่ขายก๋วยเตี๋ยวเป็ด รสชาติอร่อยเด็ดนะครับท่านจะแวะทานตอนเช้าหรือกลางวัน ก็ครบครันครบเครื่องเรื่องเป็ดเอย"