ขอนำเสนอร้านชื่อเก๋ เปิดขายแค่วันละ 2 รอบ มื้อกลางวันและมื้อเย็น รอบละเพียง 2 โต๊ะเท่านั้น เมนูจัดเป็นสำรับไม่ซ้ำใคร รสชาติอร่อยหรอยแรงจนอยากเก็บไว้กินคนเดียว ได้เปิดประสบการณ์สัมผัสรสชาติแปลกใหม่ เมื่อไหร่ก็ตามที่เปิดจองล่วงหน้าทั้งเดือน คิวจะเต็มแค่ชั่วพริบตาเดียว ร้านนี้มีชื่อว่าแก้วลูน
แก้วลูนมาจากชื่อคุณย่าลูนของน้องภัทร ธีรภัทร สุยะวาด เจ้าของร้าน ซึ่งใต้ถ้วยชามที่โชว์ในร้านจะมีคำว่าลูนเขียนกำกับไว้ด้วยเป็นลายมือของคุณปู่น้องภัทรเอง
น้องภัทรเคยเข้าครัวช่วยคุณย่ามาตั้งแต่ยังเล็ก พอมาทำร้านนี้จึงนำเมนูจากฝั่งคุณย่าและคุณพ่อ ซึ่งเป็นคนทุ่งเสลี่ยม จังหวัดสุโขทัย มาผสมผสานกับเมนูใต้ของบ้านคุณแม่ ซึ่งเป็นคนปากพนัง นครศรีธรรมราช กลายเป็นสำรับที่มีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์
โดยน้องภัทรเพิ่งเปิดร้านจริงจังเมื่อต้นปีนี้เอง อยู่ในบ้านเลขที่ 21 /3 ซอยแสงจันทร์ ถนนพระรามสี่(ไม่มีป้ายชื่อร้าน) หากแฟนๆมีวาสนาจองคิวร้านนี้ได้ทัน(เดี๋ยวจะบอกวิธีการจองให้นะจ๊ะ) พอถึงวันนัดให้ค้นในกูเกิ้ลแมพส์ว่า แก้วลูน – Keawloon BKK
ซอยแสงจันทร์นี้หาไม่ยาก เป็นซอยสั้นๆอยู่ตรงถนนพระราม 4 ขาออก เลยช่อง 3(อาคารมาลีนนท์)และซอยแสนสบายมานิดเดียว เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปนิดเดียวจะหักมุมไปทางขวา ไปจนถึงบ้านเลขที่ 21/3 เป็นบ้าน 2 ชั้นเล็กๆสีฟ้าอยู่ทางซ้ายมือ(ในบ้านจอดรถได้ 1 คัน) เดินเข้าบ้าน เปิดประตูบานเลื่อนด้านซ้ายได้เลย ถ้าไปไม่ถูกให้สอบถามผ่านไอจี @keawloonbkk นะจ๊ะ แนะนำว่าอย่านำรถไป ใช้บริการรถสาธารณะดีที่สุด เพราะในซอยนี้ไม่มีที่จอด
เมนูแก้วลูนมีเอกลักษณ์มาก ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารใต้ที่ใช้วัตถุดิบสดและดีมาทำ รวมถึงของทะเล เช่นปลาหมึกจากประมงพื้นบ้าน และมีของดีจากสุโขทัยมาผสมในสำรับด้วย
ตอนเปิดเริ่มแรกน้องภัทรทำเมนูให้สั่งล่วงหน้าเป็นอย่างๆ จากนั้นพวกเราในเดือนมีนาคม น้องภัทรเปลี่ยนวิธีการใหม่ จัดอาหารเป็นสำรับหรือเป็นชุดไว้ให้เลย ชุดละ 6,928 บาท(ราคาของสำรับสิงหาคม) โดยแต่ละโต๊ะมาได้ตั้งแต่ 1-8 คน (รอบละ 2 โต๊ะ รอบเที่ยงและ 6 โมงเย็น) แนะนำว่าควรมาครบ 8 คนเหมือนพวกเรา(แต่ห้ามมาเกิน 8 คนนะจ๊ะ) จะได้สั่งเมนูเสริมได้หลากหลาย(มีรายการเมนูเสริมให้สั่งเพิ่มต่างหาก)
มาดูกันว่าเราเคยลิ้มลองอะไรไปแล้วบ้าง ที่ชอบมากๆคือมะม่วงกะปิ สตรอว์เบอร์รี่ (329 บาท) ใช้มะม่วงแก้วขมิ้นกับสตรอว์เบอร์รี่ ปรุงด้วยพริกขี้หนูสวนและพริกแห้ง ปลาร้าหอมๆกับกะปิจากพังงา ซึ่งน้องภัทรนำปลาร้ามาจากบ้านพ่อที่สุโขทัย ต้มปรุงรสเองนัวอร่อยจริงๆ
หมูเค็ม (ข้าวเปลือง) คือหมูส่วนสันคอและสามชั้นหมักเกลือทอด เค็มๆหอมๆ กินแล้วหยุดไม่ได้
ข้าวขมิ้นปลาทอดเครื่อง ปลากะพงทอดราดเครื่อง ประกอบด้วยขมิ้น กระเทียม พริกไทยดำ หอมมากๆและกลิ่นไม่แรงจนเกินไป น้องภัทรเอาน้ำมันที่ทอดปลามาผัดกับข้าวเพิ่มความหอม
ยำปลาทูหอม (ข้าวเปลือง) มีทั้งปลาทูมัน ปลาทูเค็มและปลากระบอกร้า วิธีกินให้ขูดเนื้อปลาทีละนิดกินกับเครื่องยำ เอามาคลุกข้าว อย่าตัดชิ้นใหญ่เพราะจะเค็มเกินไป
เกาเหลาแซลมอน และเกาเหลาปูไข่ดอง กุ้งดอง ซึ่งจะใช้น้ำยำปลาร้าตัวเดียวกัน(น้องภัทรเคยทำร้านยำอยู่ที่ภูเก็ตมาก่อน) เหมาะสำหรับสาวๆและผู้ที่ชอบยำปลาร้าสไตล์นี้
เคยผัด กุ้งหวาน ผลไม้เปรี้ยว เคยผัดหรือคนใต้เรียกว่าเคยเจี้ยน น้องภัทรบอกว่าเป็นของดีที่จะได้กินเมื่อมีงานมงคลภาคใต้เช่น งานแต่ง งานบวช นำเคยจากพังงามาผัดกับน้ำมันจนหอม ใส่หมูสับ หอมแดง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล รสชาติเค็มๆหวานๆเนื้อหนึบๆหน่อย กินคู่กับกุ้งหวาน แกล้มด้วยตะลิงปลิง มะขามอ่อน มะม่วงเบา มะปรางอ่อน
แกงพริกหมูกระดูกอ่อน เผ็ดร้อนหอมพริกไทย ซึ่งรอบสองที่ปิ่นโตเถาเล็กได้ไปชิม น้องภัทรลดโทนความเผ็ดลงไปบ้างสำหรับคนกรุง
ซั่วปลาร้า แคบหมู หอมน้ำปลาร้ามากๆ ใส่พริก 3 ชนิด ทั้งพริกแห้ง พริกขี้หนู พริกจินดา เวลากินให้คลุกกับเส้นขนมจีนอบแห้งสีอัญชัน แกล้มด้วยผักก้านจองต้มและแคบหมู
แกงส้มปลากะพงผักรวม ใส่ทั้งเถาคัน(เขาคัน) มะปรางอ่อน ยอดมะพร้าว มะขามสด ปรุงด้วยมะนาว วันนั้นขาดแค่ลูกมุดหรือส้มมุดอย่างเดียว เมนูนี้รวมรสเปรี้ยวหอมหลากหลาย
ข้าวมันโคลนปูนึ่ง ข้าวคลุกกับน้ำหมึกสดๆ ผัดใส่หอม ตะไคร้ ใบมะกรูด ปรุงให้มีรสเค็มเล็กน้อย โปะหน้าด้วยกรรเชียงปูนึ่ง เวลากินให้คลุกกับน้ำจิ้มซีฟู้ด
หมึกผัดน้ำดำ หมึกหอมสดๆจากเรือประมงเล็กพื้นบ้านที่จังหวัดตรัง ผัดกับหมึกดำ ปรุงด้วยหอมแดง ตะไคร้ ใบมะกรูด อีกทั้งยังมีน้ำพริกกุ้งสด ตำเหลวๆ
เมื่อเดือนมีนาคมน้องภัทรเปลี่ยนมาจัดสำรับให้ทุกโต๊ะเหมือนกัน ซึ่งเมนูเดิมในสำรับยังมี ข้าวมันโคลนปูนึ่ง หมึกผัดน้ำดำ หมูเค็ม-ข้าวเปลือง เคยเจี้ยน- กุ้งหวาน ซั่วปลาร้า
ส่วนเมนูใหม่ในสำรับมี ถาดน้ำพริกแก้วลูน สุโขทัย เป็นน้ำพริกผัดสีแดงเข้มๆ(คนสุโขทัยเรียกน้ำพริกดำ) ทำจากพริก หอมแดง กระเทียม ปรุงรสด้วยมะนาว น้ำปลา รสเผ็ดๆ แกล้มด้วยเห็ดฟางเคี่ยวน้ำปลา(ถูกใจมาก) ปลาเกลือทอด(ปลาช่อนทะเล) และเห็ดนางฟ้านึ่ง นอกจากนี้ในสำรับยังมีไข่เจียวนุ่มๆด้วย อีกทั้งหมี่กะทิ ปากนัง(หรือปากพนัง) คือหมี่กะทิผัดใส่หอมแดงและเครื่องแกงที่คล้ายกับน้ำพริกรสหวานๆที่กินกับขนมจีน แกล้มมะม่วงเปรี้ยว ใบบัวบก และมีโป๊ะแตกทะเลได้ซดน้ำเปรี้ยวๆหอมๆ และที่ชอบมากในสำรับนี้คือปลาน้ำดอกไม้ ราดน้ำยำ 3 รส ทำจากปลาน้ำดอกไม้ขูดเอาแต่เนื้อ นำมาตำจนเนื้อเหนียวผสมกับเนื้อปลาทูเค็มแล้วนำไปทอด เนื้อเหนียวหนึบหอมอร่อย
ส่วนเมนูเสริมที่พวกเราสั่ง มีใบเหลียงต้มกะทิกุ้งสด ใส่ยอดมะพร้าว สะตอ ยอดชะอม ปวยเล้งผัดหมูสันคอ มะม่วงกะปิสตรอว์เบอร์รี่ แกงพริกกระดูกอ่อน
นอกจากนี้ยังมีเมนูเสริมอื่นๆให้เลือกสั่งเช่น ตำปูไข่ดองกุ้งดอง แกงส้มปลาผักรวม ยำปลาบอกร้า ข้าวขมิ้นปลาทอดเครื่อง ตำหอยดอง กุ้งดองน้ำปลากวน แซลมอนดองน้ำปลากวน ยำหอยนางรมทรงเครื่อง เหลาแซลมอนสด
แฟนๆท่านไหนอยากตามไปลิ้มลอง ระหว่างที่เขียนต้นฉบับอยู่นี้คิวเต็มไปถึงปลายเดือนเมษายนแล้ว ซึ่งในรอบนี้มีเมนูใหม่เช่น ปลาหมึกผัดต้นหอม กุ้งแม่น้ำสามรส(เมนูเสริม ราคาตามขนาดที่ได้)
ให้เข้าไปติดตามใน IG(อินสตาแกรม)ร้าน keawloonbkk เท่านั้น ซึ่งถ้าจะเปิดจองเมื่อไหร่จะแจ้งในโพสต์ไอจีร้าน(เช่นคิวเดือนเกรกฎาคม เปิดจองทางไลน์วันที่ 21 มิถุนายน เวลา18.00 น.)
วิธีการจองคือให้เพิ่มไลน์(Line)ร้าน โดยสแกน QR Code ไลน์ในไอจีเตรียมไว้ พิมพ์แจ้งชื่อ เบอร์ โทรศัพท์ จำนวนคน แจ้งวันหลัก วันสำรองที่ต้องการ พอถึงวันเวลาจองก็รีบกดส่งทางไลน์ จากนั้นก็ภาวนาให้เราอยู่ในลำดับต้นๆทัน ขอบอกว่าหมดในพริบตาจริงๆ ถ้าได้คิวที่ร้านจะแจ้งกลับทางไลน์ พร้อมกับให้จ่ายเงินมัดจำ
สำหรับผู้ที่เป็นสว. ถ้าไม่ถนัด ขอให้บอกลูกหลานท่านทำจองให้ ขออวยพรให้โชคดี เพราะถ้าใครชอบอาหารรสจัดๆเผ็ดๆเหมือนผม รับรองว่าจะถูกใจแน่นอน