เจออีกแล้วจ้า ร้านเป็ดย่าง หมูแดงฮ่องกงขั้นเทพติดอันดับท็อปในดวงใจเช่นกัน The Moon Cuisine ร้านจีนฮ่องกงที่ต้องจองล่วงหน้า เพราะเล็กมาก ทั้งร้านมีแค่ 2 โต๊ะ รับได้มากสุด 14 คนเท่านั้น เปิดขายมา 3 ปีกว่าแล้ว
The Moon Cuisine อยู่ที่ข้างลานจอดรถด้านหน้าของ Fifty Fifth Tower Condominium สุขุมวิท 55 ทองหล่อ มีทางเข้าคอนโดต่างหาก อยู่ข้างตึก Fifty Fifth ทองหล่อ เลย ด้านหน้าจอดรถได้ 4-5 คัน ถ้าเต็มให้ไปจอดที่จอดด้านในคอนโดและตึกทาวเวอร์ ประทับตราบัตร เสียค่าจอดเพิ่มเล็กน้อย(ฟรี 2 ชั่วโมง)
เจ้าของร้านเดอะมูน เป็นหนุ่มใหญ่ไทยแท้อายุ 36 ปี ชื่อว่าเชฟปิ่น ศุภกร กิจอันเจริญ มีฉายาคือเชฟพี่หมี อดีตโปรกอล์ฟที่ผันตัวมาเอาดีด้านอาหาร เชฟปิ่นไปฝึกปรือวิชาควงตะหลิวกับกระทะกับปรมาจารย์ที่โรงแรมห้าดาวในฮ่องกงกับที่กวางโจว(ควง 2 กะเลย เริ่มต้นจากล้างจาน ล้างผัก ผัดข้าวสาร) ฝึกอยู่ 2 ปีจึงกลับมาไทย และมาเริ่มขายข้าวเหนียวมะม่วงออนไลน์ คำว่า The Moon นั้นเชฟปิ่นบอกว่ามาจากข้าวเหนียวมูนนั่นเอง ฮ่าฮ่าฮ่า
เชฟปิ่นไม่ได้ขอความช่วยเหลือจากที่บ้าน เก็บเงินซื้ออุปกรณ์เอง เริ่มต้นด้วยทุน 27,000 บาทเท่านั้น ได้เตาจีน 1 หัว กับเตาไทย 3 หัว ขายเกี๊ยว ไก่ซีอิ๊ว ข้าวผัด พอมีทุนเพิ่มก็ซื้อเตาย่างอพอลโลของฮ่องกง(เชฟปิ่นบอกว่าความสูงจะพอดีตัว) จึงมีเป็ดย่าง หมูแดง หมูกรอบเพิ่มอีก
ปีแรกที่ทำไม่มีกำไรเลยเพราะใช้วัตถุดิบของฮ่องกงดีๆ จนอยากจะปิดร้าน แต่พอได้เตา Wok เตาใหญ่สำหรับผัด และเตานึ่งมา ก็เริ่มใช้ของชั้นเลิศหลากหลายมาทำอาหาร รวมถึงเครื่องปรุงฮ่องกง จึงเลี้ยงตัวเองและพนักงานได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ที่ร้านนี้เชฟปิ่นทำอาหารทุกจานด้วยตัวเอง
ก่อนอื่นขอบอกเบอร์โทรจองก่อนที่ 093-124-6687(คุณนีน่า) และมี Line @themoonstickyrice ด้วย(โทรหาจะจองได้ไวกว่า) ร้านเปิด 10.00 – 19.00 น.แค่นั้น มาแค่ 2-3 คน กินเมนูปกติไม่ต้องเมนูพิเศษก็ได้(แต่ถ้าเมนูพิเศษต้องสั่งล่วงหน้า) ซึ่ง ณ ปลายเดือนกรกฎาคม ช่วงศุกร์-เสาร์ คิวยาวไปถึงกันยายนแล้ว ลองโทรสอบถามกันได้ อีกอย่างคือร้านหยุดวันอาทิตย์นะจ๊ะ
แน่นอนว่ามาแล้วต้องสั่งหมูแดงฮ่องกง(จานเล็ก 240 บาท และมี 380-600-1,200 บาท) (ควรจองล่วงหน้า)ย่างมาเกรียมๆหอมหวานชุ่มฉ่ำ ใช้ส่วนสันคอติดมันนุ่มๆแต่ยังพอสู้ฟันนิดๆมีเท็กซ์เจอร์รสสัมผัส อร่อยเหาะขึ้นสวรรค์ ไม่ต้องจิ้มอะไรก็สุดยอดแล้ว
วิธีทำคร่าวๆคือนำเนื้อหมูสันคอมาหมักข้ามคืน แล้วย่างรอบแรกในเตาอพอลโลของฮ่องกงนาน 18 นาที รอให้แห้งและชุบน้ำหมัก ย่างอีก 10 นาที และชุบน้ำหมักย่างอีกเป็นรอบที่สอง ซึ่งที่นี่จะไม่ทาแบะแซ(ทำวันละแค่ 30 -50 กิโลกรัมเท่านั้น)
หรือจะสั่งเป็นอาหารจานเดียว ข้าวหมูแดง+ไข่ดาว(160 บาท)พร้อมผักกวางตุ้งลวก ที่คนรุ่นใหม่ชอบเรียกว่า ข้าวปลิดวิญญาณ ยิ่งไปกว่านั้นที่เดอะมูนมีเมนูพิเศษสุด ยักษ์สามตาหมูแดง คือข้าวหมูแดง+ไข่ดาว 3 ฟอง(189 บาท) อิ่มไปทั้งวัน
เป็ดย่างฮ่องกง(จานเล็ก 1-2 คน 350 บาท ครึ่งตัว 700 บาท ทั้งตัว 1,400 บาท)ก็เยี่ยมยอดหนังกรอบหอม เนื้อนุ่มไม่แห้ง มีน้ำราดเป็ดหอมๆมาให้ต่างหาก(ไม่มีกลิ่นถั่วงา) ทำวันละ 6-7 ตัวเท่านั้น ซึ่งรอบที่ผมได้ชิมได้ลูกเป็ดหรือเป็ดตัวเล็กจากกวางโจว สมาชิกเชลล์ชวนชิมที่เคยมา บอกว่าเป็ดย่างปกติก็อร่อยเพราะมีความหอมของไขมันเป็ดแทรกอยู่
กรรมวิธีย่างเป็ดก็พิถีพิถัน เริ่มจากหมักเครื่องใส่ในท้องเป็ด เป่าลม แล้วนำไปลวก จากนั้นขึ้นสี ทาน้ำผสมแบะแซ ผึ่งไว้ 12 ชั่วโมง เป่าลมอีกรอบ และนำไปย่าง
บาร์บีคิวอย่างอื่นมีครบถ้วน ทั้งหมูกรอบฮ่องกง(380-490-720 บาท)หนังกรอบเนื้อนุ่มมันน้อย ซึ่งจะทำเฉพาะวันพฤหัส-ศุกร์-เสาร์เท่านั้น นำหมูมาหมักเกลือ ตาก 8 ชั่วโมง ย่างในเตาอพอลโลจนไหม้ๆ 2 รอบ ขูดหนังส่วนที่ไหม้ทิ้ง จนหนังบางกรอบอร่อย อีกทั้งไก่ซีอิ๊วฮ่องกง(220 บาท) นุ่มหอม ใช้เนื้อน่องสะโพกอย่างเดียว ซีอิ๊วสูตรนี้มีส่วนผสมถึง 30 กว่าอย่าง เชฟปิ่นบอกว่าการทำวุ่นวายนิดนึง
ซึ่งทั้งเป็ดย่าง หมูกรอบ ไก่ซีอิ๊วฮ่องกง นี้จะสั่งเป็นอาหารจานเดียว ข้าวหรือบะหมี่ เกี๊ยว ก็ได้ด้วยเช่นกัน
ทีเด็ดอีกอย่างที่ห้ามพลาดคือ ยำสกาล่าหมู(240 บาท) เชฟปิ่นได้แรงบันดาลใจจากยำเซี่ยงไฮ้ของภัตตาคารสกาล่าใต้โรงหนังสกาล่าในอดีต อีกทั้งโชคดีได้เจออาเจ็กคนทำเมนูนี้จึงบอกวิธีทำพร้อมยี่ห้อเครื่องปรุงที่ใช้ให้เสร็จสรรพ
เส้นเซี่ยงไฮ้ลวก ราดน้ำยำรสเปรี้ยวที่มีส่วนผสมของจิ๊กโฉ่ว ซีอิ๊วขาว น้ำมันงา คลุกเคล้ากับกระเทียมสับ ต้นหอมสับและผักชีสับ กินกับเนื้อหมูต้มเป็นแผ่นๆ กินแล้วคิดถึงภัตตาคารสกาล่าขึ้นมาจับใจ
เมนูปกติของร้านอื่นๆมีอีกเพียบ ทั้งข้าวผัดหยางโจว(180 บาท) ข้าวผัดไข่ใส่ต้นหอมและถั่วลันเตา โรยหน้าด้วยหมูแดงกับกุ้งสับ ผัดได้เมล็ดร่วนหอมชุ่มฉ่ำไม่แห้ง ใช้เตา Wok ของจีน มีที่เป่าลมหอยโข่งให้เตาฟู่ไฟแรง และใช้กระทะเหล็กเผาจนร้อน ลงน้ำมันเคลือบไม่ให้ติดกระทะ
ซึ่งวิธีทำข้าวผัดสไตล์ฮ่องกง จะใส่ไข่พร้อมข้าวทันที เพราะเตาไฟแรงพอ มีจังหวะเร่งและหรี่ไฟ สะบัดกระทะไม่ให้ข้าวไหม้ จึงผัดได้หอมกระทะมากๆ
มื้อกลางวันวันนั้นยังมียำเห็ดหูหนูจีนน้ำมันงา(100 บาท)น้ำยำจีนรสเปรี้ยวๆ คะน้าผัดปลาเค็ม(170 บาท) ซึ่งทำได้ดีมากไม่เค็มจนเกินไป ข้าวผัดปลาเค็ม(150 บาท) และหมูทอดผัดเปรี้ยวหวาน(250 บาท)
นอกจากเมนูทั่วไปแล้ว ที่เดอะมูนยังมีเมนูพิเศษระดับภัตตาคารจีนชั้นเลิศ ที่ต้องโทรสั่งทำล่องหน้าตอนจองโต๊ะ
ที่ห้ามพลาด รีบสั่งจองเลยไม่ต้องรีรอคือ บะหมี่กระเพาะปลาสดตุ๋นราดซอสเป๋าฮื้อ (กระเพาะปลาสดเริ่มที่ตัวละ 900 -2,000 บาท จานนี้ 1,200 บาท) บะหมี่เส้นเล็กเหมือนฝอยทองเหนียวนุ่ม ใส่กระเพาะปลาสดมาทั้งตัว ราดซอสเป๋าฮื้อเข้มข้นหอมๆสุดประทับใจ ซึ่งต้องนำกระเพาะปลามาแช่ 4 วัน เชฟปิ่นบอกว่าแช่แล้วนึ่ง สลับกันไปอย่างนี้ และสุดท้ายนำไปนึ่งกับซอสเป๋าฮื้อ(เป็นซอสจากการต้มเป๋าฮื้อแห้ง)นาน 10 นาที และนำน้ำนึ่งที่ได้มาตีใส่แป้งมันให้เป็นซอสเหนียวข้นอร่อยมากๆ ส่วนบะหมี่ลวกนำมาผัดเปล่าๆให้หอมและคลุกกับน้ำมันต้นหอมของเซี่ยงไฮ้
อีกอย่างที่ต้องสั่ง และควรมากันหลายๆคนเพราะจานใหญ่มาก คือกุ้งมังกรอบหมี่ผัดซอสซุป (ขีดละ 350 บาท เริ่มต้นที่ 1 กิโล 3,500 บาท ทำได้ 2 เมนู) ใช้กุ้งมังกรเจ็ดสีชั้นเลิศ ซึ่งเชฟปิ่นบรรยายว่าต้องนำมาลวก ทอด และผัดกับซอส เนื้อกุ้งมังกรเด้งหอม ผัดซอสหอมกลิ่นขิง ใส่หอมแดง ต้นหอม กระเทียม น้ำมันงา เนย และมันกุ้งมังกรจากในหัว ปรุงด้วยเกลือและน้ำตาล อร่อยมาก ซึ่งหัวกุ้งอยากให้ไปทำโจ๊กหรือข้าวต้มกุ้งมังกรด้วยก็ได้ และเนื้อกุ้งมังกรทอดพริกเกลือ เป็นต้น
ปิดท้ายด้วยปลาเก๋าแดงหรือปลากุดสลาด(เริ่มต้นที่ 8 ขีดๆละ 220 บาท เราสั่งทำ 2 ตัว 2 เมนู 1.6 กิโล รวม 3,000 บาท) มีทั้งปลาเก๋าแดงนึ่งซีอิ๊ว นึ่งมาสุกกำลังดีมากเนื้อเด้งๆ ใช้ซีอิ๊วนำเข้าหอมๆ และมีซุปปลาเก๋าแดง น้ำซุปหอมหวานทำจากซุปไก่กับกระดูกปลาเคี่ยว แล่เอาแต่เนื้อปลามาใส่น้ำซุป สดอร่อยมากไม่มีกลิ่นคาวเลย
นี่คือร้านดีที่ต้องลอง โทรจองล่วงหน้า ไปแค่ 2 คนก็รับแล้ว ข้อดีคือมีทั้งเมนูปกติ อาหารจานเดียว และเมนูพิเศษระดับขึ้นเหลา หรือใครอยากซื้อเป็ดย่างกับหมูแดงฮ่องกงขั้นเทพ ก็โทรไปสั่งจองล่วงหน้าและแวะไปรับเอากลับบ้านก็ได้นะจ๊ะ