เป็ดย่างจิ๊บกี่ นางเลิ้ง เปิดขายมานานร่วม 80 ปีตั้งแต่รุ่นก๋ง ตั้งอยู่ริมถนนนครสวรรค์ ในตึกแถว 3 คูหาแบบฝรั่งที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ซึ่งยังคงไว้ด้วยกลิ่นอายร้านอาหารในอดีต ชวนให้นึกถึงเมื่อครั้งบ้านเมืองยังสงบร่มรื่น
เป็ดย่างสไตล์กวางตุ้งของที่นี่ยังคงใช้เตาถ่านในการย่าง ซึ่งย่างหนังได้พองพอประมาณ เนื้อค่อนข้างแห้งแต่นุ่มแบบเป็ดเสียโป หน้าตาไม่เหมือนเป็ดย่างทั่วไปในปัจจุบันที่หนังแดง ๆ มีน้ำราดข้น ๆ หวาน ๆ
แต่เป็ดย่างจิ๊บกี่หนังสีออกเข้ม ๆ และไม่กรอบมาก น้ำราดเป็ดค่อนข้างเหลว ใส่เต้าเจี้ยวเยอะ ๆ ไม่หวานมาก ซึ่งไม่ควรพลาดขอน้ำราดเป็ดใส่ถ้วยมาอีกต่างหาก คลุกกับข้าวกินได้อร่อยยิ่งนัก น้ำจิ้มเป็ดเป็นน้ำจิ้มซีอิ๊วดำรสออกเปรี้ยวนิด ๆ พริกชี้ฟ้าที่หั่นมาในถ้วยน้ำจิ้มมีความประสงค์ที่จะให้กินเป็นผักมากกว่าให้ความเผ็ด
ของอร่อยที่สุดคือไส้เป็ด สีออกขาวนวล กรอบกรุบ ถ้าอยากลองเมนูนี้ควรไปแต่เช้าก่อนสิบโมงไม่เช่นนั้นจะโดนแย่งสั่งไปหมด ใครไม่กินเป็ดก็มีหมูแดง (หมูย่าง) และหมูกรอบให้สั่งแทน ซึ่งหมูแดงเจ้านี้ก็อร่อยไม่ธรรมดา เพราะไม่มีการเติมสีผสมอาหารใด ๆ และยังคงใช้เตาถ่านในการย่าง ถ้าติดใจอยากซื้อกลับบ้านเขาคิดกิโลกรัมละ 400 บาท
เมนูคู่เป็ดย่างที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะคือเป็ดตุ๋น (20 บาท) ที่ใส่โถมาขนาดพอดี 1 คนรับประทาน ไม่ใช่เป็ดตุ๋นแบบที่ใส่มะนาวดอง แต่เป็นน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมซดคล่องคอ เผ็ดร้อนด้วยพริกไทยที่ใส่มาแบบไม่ยั้ง โรยหน้าด้วยผักชีหอม ๆ
ส่วนพระเอกเป็ดย่างมีหลายขนาด ตั้งแต่ 1 ตัว ราคา 440 บาท ไปจนถึง 1 ใน 4 ตัว ราคา 110 บาท ส่วนข้าวราดหน้า 1, 2, 3 อย่าง คิด 50, 60, 70 บาทตามลำดับ ร้านนี้เปิดขายทุกวันตั้งแต่เก้าโมงเช้าไปจนถึงบ่ายสองหรือบ่ายสามโมง ตอนเที่ยงมีลูกค้าขาประจำแน่นขนัดจึงควรไปชิมตั้งแต่สิบเอ็ดโมงเช้า แต่ไม่ควรเกินบ่ายโมงให้มากนัก เพราะที่นี่เขาย่างเป็ดไม่มากนักในหนึ่งวัน ไปสายบางวันอาจเหลือแต่กระดูกเป็ดก็เป็นได้