ร้านลิมอนเชลโลเป็นร้านพิซซ่า อาหารอิตาเลียนที่ตั้งใจทำเป็นร้านนั่งสบาย ๆ ไม่เป็นทางการ กินดื่มคุยเล่นเฮฮาอย่างเต็มที่ ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ชื่อ Pizzeria Limoncello นั้นบ่งบอกอยู่แล้วว่าเน้นขายพิซซ่า ส่วนลิมอนเชลโลนั้นหมายถึงเหล้าหลังอาหารรสมะนาว ซึ่งเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของสาว ๆ
ร้านนี้หาง่ายมาก เข้าซอยสุขุมวิท 11 วิ่งผ่านโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ไปนิดเดียว ทีนี้มองทางซ้ายหาซอยแคบ ๆ ที่มีป้ายชื่อร้าน Pizzeria Limoncello ให้ดี เลี้ยวเข้าไปในซอยนี้เพียงไม่กี่สิบเมตรจนสุดทางก็ถึงแล้ว มีพนักงานบริการจอดรถให้ เดินตัวปลิวเข้าร้านไปได้เลย
หรือถ้ามารถไฟฟ้าให้ลงที่สถานีนานา ทางออก 3 เดินเข้าซอยมาเพียง 200 เมตรเท่านั้น
ถึงจะเป็นร้านอาหารฝรั่งแต่ขอแนะนำให้มาเป็นหมู่คณะแล้วกินอย่างไทย สั่งอาหารหลาย ๆ อย่างมาเป็นกองกลางแล้วแย่งกันชิมหนุบหนับ จะได้ลิ้มรสอาหารหลากหลาย
ที่ลิมอนเชลโลเขาขายพิซซ่าบางกรอบสไตล์เมือง Napoli กับ Capri มีพิซซ่าหน้าซอสมะเขือเทศให้เลือกหลายสิบรายการ มีทั้งเผ็ดและไม่เผ็ด เช่น พิซซ่ารสจัดหน้าไส้กรอกอิตาเลียนกับพริกสด ถัดมาเป็นไวต์พิซซ่า ซึ่งก็คือไม่ใส่ซอสมะเขือเทศอีกเกือบสิบรายการ
และยังมีพิซซ่าเมนูพิเศษที่โดนใจลูกค้าอีกนับสิบอย่าง ที่ไม่ควรพลาดคือเบอร์ 1 พิซซ่าลิมอนเชลโล (Limoncello) หน้ามะเขือเทศ มอซซาเรลลาชีส แฮม เห็ดแชมปิญองสดจากนิวซีแลนด์ และกอร์กอนโซลา (Gorgonzola) ชีสที่ทำให้พิซซ่ามีกลิ่นและรสชาติเข้มข้น
โรยหน้าด้วยใบร็อกเก็ต
ส่วนเบอร์ 2 คือพิซซ่าซานอตติ (Zanotti) ตำรับเด็ดของคุณย่าของคุณซานอตติที่เพิ่มมาสคาร์โปเนชีสเข้าไปนอกเหนือจากมะเขือเทศและมอซซาเรลลาชีส ชีสตัวนี้ตามปกติเอาไว้ทำขนมทีรามิสุ ช่วยเพิ่มความมัน ความชุ่มฉ่ำให้พิซซ่าเป็นทวีคูณ โรยหน้าด้วยพาร์มาแฮมชั้นเลิศ
ทำแบบวิธีดั้งเดิม หมักเกลือและตากลม (Air-Dried) ที่เมืองปาร์มาจริง ๆ ซึ่งเป็นของ Cipriani เจ้าของ Harry’s Bar ชื่อดัง โดยนำเข้ามาในไทย อนุญาตให้ใช้เฉพาะเครือซานอตติเพียงหนึ่งเดียว
แต่หากเป็นทรัฟเฟิลเลิฟเวอร์ให้สั่งพิซซ่าเมนูพิเศษ แบล็กทรัฟเฟิล (Black Truffle) ที่ใส่ทั้งมอซซาเรลลาชีส มาสคาร์โปเนชีสเล็กน้อย ใส่ทรัฟเฟิลดำสไลซ์มาแบบไม่ยั้ง และเพิ่มความกลมกล่อมด้วยน้ำมันทรัฟเฟิล หอมเข้มอร่อยถึงใจ
ส่วนพาสต้านั้นมีให้เลือกอีกสิบกว่าเมนู ขอแนะนำ Spaghetti al Nero Di Seppia สปาเกตตีหมึกดำที่ทางร้านใช้น้ำหมึกทำเองกรีดจากตัวหมึกตัวต่อตัว นำมาต้มให้สะอาดและเคี่ยวกับสมุนไพรเพื่อดับกลิ่น แล้วนำมาผัดกับเส้นสปาเกตตีสไตล์โฮมเมด ผัดกับน้ำมันมะกอก ใส่กุ้ง หมึก
หอยแมลงภู่ หอยลาย และหอยตลับ กินแล้วสัมผัสได้ถึงความเหนียวนุ่มของเส้นสปาเกตตีหมึกดำแท้ ๆ เข้ากันดีกับเครื่องซีฟู้ดรสชาติกลมกล่อม ขอเตือนไว้หน่อยว่าเมนูนี้อย่าสั่งตอนมากับแฟนเพราะปากจะดำเลอะน้ำหมึก แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทางร้านมีผ้าสำหรับเช็ดปากเตรียมไว้ให้
อีกเมนูพาสต้าห้ามพลาดคือ Tagliolini con Salsiccia e Funghi จานนี้ทางร้านนำเส้น Tagliolini เป็นพาสต้าโฮมเมดนำมาผัดกับน้ำมันมะกอก ไวต์ไวน์ซอส ไส้กรอกอิตาเลียนพรีเมียมนำเข้า เห็ดพอร์ชินี เห็ดชิตาเกะ ผัดมาแบบแห้ง ๆ ม้วนเส้นพาสต้าส่งเข้าปากเคี้ยวนุ่มลิ้น
เข้ากับไส้กรอกรสชาติดีและเห็ดต่าง ๆ แบบลงตัวเข้ากัน
ส่วนเมนูจานหลักขอแนะนำ Branzino al Forno con Funghi Olive e Patate ปลากะพงขาวเนื้อแน่นนำไปแพนฟราย ราดซอสไวต์ไวน์สูตรเด็ดของทางร้านแล้วนำไปอบ ก่อนเสิร์ฟราดซอสอีกที มีเห็ดชิตาเกะและมะกอกดำใส่มาด้วย เสิร์ฟมาร้อน ๆ ชิมเนื้อปลานุ่มแน่นหวานสด ฉ่ำน้ำซอสรสละมุนถูกปากดีแท้
ย้อนกลับมาที่เมนูเรียกน้ำย่อย ถ้าชอบกินตับห่านให้สั่งฟัวกราส์กับร็อกเก็ตสลัดราดซอสราสเบอร์รี ซึ่งเป็นเมนูพิเศษ หรือจะเป็น Funghi Saltati Servit con Rucola, Parmigiano, Prosciutto Di Parma al Profumo Di Tartufo Bianco สลัดร็อกเก็ตชื่อยาวที่รวมเห็ดย่าง
ผักร็อกเก็ต พาร์มาแฮม โปะด้วยชีสพาร์เมซานเป็นแผ่น ๆ และมะเขือเทศรสหวานสีสวย
ปิดท้ายด้วยของหวานทีรามิสุสูตรเด็ดของทางร้าน มีความพิเศษตรงที่ใช้มาสคาร์โปเนชีสและเหล้ากาแฟคาห์ลัวหอมกลิ่นกาแฟ โรยด้วยผงกาแฟ ตักเข้าปากสัมผัสได้ถึงความเนียนละมุนของทีรามิสุ แถมมีความกรุบกรอบของเลดี้ฟิงเกอร์อยู่ข้างใน หรือหากอยากลิ้มลองขนมอิตาเลียนอื่น
ๆ เช่น พันนาคอตตา หรือวอร์มช็อกโกแลตเค้กสไตล์เกาะคาปรีก็มีให้เลือกอีกหลายสิ่งอัน
ถ้าคิดอะไรไม่ออก สั่งอะไรไม่ถูก ให้ถามหาคุณกล้วยเจ้าของร้านหนุ่มใหญ่ใจดีสุด ๆ อยากได้อะไรเดี๋ยวเขาจะมาปรนเปรอจนถึงโต๊ะ ร้านลิมอนเชลโลเปิดบริการทุกวัน ทั้งมื้อกลางวันและมื้อค่ำ ควรไปลองนะจ๊ะจะได้รู้ว่าทำไมถึงเป็นร้านโปรด