ก่อนอื่นขออธิบายก่อนว่าร้านกุ๊กช็อปเกิดขึ้นได้อย่างไร คุณชายถนัดศรีเล่าว่าชาวจีนไหหลำในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้เข้ามาประกอบอาชีพเป็นกุ๊ก ลูกมือของเชฟฝรั่งที่เข้ามารับราชการในห้องเครื่องวังหลวงและวังเจ้านายชั้นสูง ชาวจีนไหหลำจึงได้รับการถ่ายทอดฝีมือการปรุงอาหารแบบฝรั่ง ในภายหลังได้ออกมาเปิดร้านกุ๊กช็อปเอง ขายอาหารประเภทซีเต๊ก ซีตู (สเต๊ก สตู) สลัดเนื้อสัน ซึ่งด่านเต้งลี่ก็คือร้านประเภทเดียวกัน
ฮั้นโภชนา หรือชื่อเดิมว่าด่านเต้งลี่ แต่ชาวบ้านเรียกกันว่าร้านโต้ตามชื่อเจ้าของร้านรุ่นแม่ คุณชายถนัดศรีชอบมาตั้งวงชิมที่นี่กับเพื่อน ๆ พนักงานนำร่องแห่งกรมเจ้าท่าเป็นประจำ (พ่อชอบเรียกว่า “ผู้ชายมีเบอร์” เพราะแต่ละท่านจะมีเบอร์ประจำตัว)
จนเมื่อ พ.ศ. 2537 ลูกชายผู้สืบทอดร้านจากแม่ชื่อว่านายฮั้นได้ย้ายไปเปิดร้านบนชั้น 2 ของอาคารกาลหว่าร์ ซึ่งทางเข้าลึกลับมาก อยู่ข้างร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาตลาดน้อย อาคารนี้รถยนต์เข้าไม่ได้ ต้องเดินเข้าไปสถานเดียว
ใครนำรถมาให้ไปจอดที่ริเวอร์ซิตี้ (River City) ริมแม่น้ำเจ้าพระยาตรงสี่พระยา โดยเข้าจากซอยเจริญกรุง 30 (หรือตรอกกัปตันบุช วิ่งผ่านโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน) จอดรถเสร็จแล้วให้ลงมาชั้นล่างของอาคารจอดรถ จะมีทางออกไปนอกอาคาร เดินไปที่ริมรั้วทางด้านซ้ายสุดจะมีทางเดินแคบ ๆ (ชื่อซอยวานิช 2) ทะลุมาออกตรอกผ่านโบสถ์กาลหว่าร์ (วัดแม่พระลูกประคำ) เพียงอึดใจเดียวก็ถึงปากทาง เห็น 7-Eleven อยู่ตรงข้ามทางขวา เดินผ่านหน้าร้านสะดวกซื้อไปจะเห็นช่องทางเดินมีป้ายด้านบนว่าอาคารกาลหว่าร์ ให้เดินเข้าไปในตึก โดยใต้ตึกจะมี รปภ. นั่งอยู่ พอแจ้งว่าไปร้านอาหารเขาจะชี้ให้กดออดที่หน้าประตู แล้วคุณฮั้นจะลงมารับเอง ก่อนพาเดินขึ้นบันไดไปชั้น 2 ห้องร้านค้าเล็ก ๆ ขนาด 50 ตารางเมตรก็คือร้านนี้แหละ ไม่มีป้ายชื่อร้านใด ๆ ทั้งสิ้น
ตอนนี้ด่านเต้งลี่เปลี่ยนชื่อเรียกเป็นฮั้นโภชนา ตามชื่อนายฮั้น-ทวี ศุภชัยมงคล เป็นเดี่ยวมือหนึ่งทำอาหารคนเดียว มีภรรยาเป็นผู้ช่วย โดยทำอยู่ในครัวเปิดข้าง ๆ โต๊ะกินข้าวเหมือนนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน
ร้านเปิดตอนเที่ยง ๆ ขายไปจนถึงทุ่มครึ่งเท่านั้น และหยุดทุกวันอาทิตย์และวันที่มีธุระ แนะนำให้โทร.ไปจองโต๊ะที่เบอร์ 0-2639-0196 หรือ 08-9639-0196 เนื่องจากร้านนี้มีแค่ 3-4 โต๊ะเท่านั้นจึงควรไปเร็ว ๆ ก่อนเที่ยงเล็กน้อย ก่อนที่ลูกค้าขาประจำแถวนั้นจะขึ้นมาแน่นร้าน
เมนูร้านนี้มีแค่หน้าเดียว ซึ่งผมชอบกินทุกอย่าง รสชาติอาหารแสนจะนุ่มนวลกลมกล่อม กินเพลินจานเดียวไม่เคยพอ ที่ห้ามพลาดเลยคือสลัดเนื้อสัน เนื้อชิ้นบาง ๆ นุ่มกว่าสเต๊กตามร้านขึ้นห้างเสียอีก กินกับผักกาดหอม มะเขือเทศ และหัวหอม เหยาะด้วยซอสเปรี้ยวเพิ่มรสชาติ ถ้าไม่กินเนื้อก็มีสลัดหมูสันให้สั่งด้วย
อีกเมนูไหหลำที่อร่อยอย่าบอกใครคือหมี่กรอบ เป็นชนิดเส้นพอง ๆ กรอบ ๆ ถูกใจ ไม่ใช่แบบเหนียว ๆ ใส่เนื้อกุ้งนางหรือกุ้งแม่น้ำเป็นชิ้น ๆ ซึ่งมีกลิ่นมันกุ้งหอม ๆ โรยพริกสดกับกระเทียมดอง บีบมะนาวลงไปคลุกเคล้า แค่นี้ก็หอมนุ่มนวลชวนกิน
อาหารที่ทำจากกุ้งแม่น้ำมีทั้งกุ้งกระเทียมพริกไทย เนื้อกุ้งนุ่ม ๆ แน่น ๆ หอม ๆ เอาน้ำมันมาคลุกข้าวเจริญอาหารยิ่งนัก สั่งต้มยำกุ้งมีมันกุ้งลอยฟ่อง ซดน้ำสดชื่นเข้ากันดีนักแล และอย่าลืมสั่งกุ้งพล่า มีน้ำพริกเผาโปะหน้ามาให้คลุกเอง ทั้งหมดนี้คือเมนูโปรดของครอบครัวผมรวมทั้งคุณชายถนัดศรี
ของดีอีกอย่างที่หากินไม่ง่ายตามร้านทั่วไปคือลิ้นหมูทอดกระเทียมพริกไทย หอมอร่อยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีท้องปลากะพงผัดกะเพราเป็นอีกหนึ่งจานแนะนำของนายฮั้น ซึ่งก็ไม่ผิดหวังเลย เนื้อราวท้องปลามัน ๆ อร่อยมาก ปิดท้ายด้วยผัดมะระใส่ไข่ที่ผัดแบบแห้ง ๆ หอม ๆ กินหมดในพริบตา
สนนราคาอาหารร้านฮั้นโภชนานี้ถูกและดีก็มีในโลก ทุกเมนูราคา 80 บาท
ยังมีเมนูน่าสนใจที่น่าลิ้มลองอีกหลายอย่าง เช่น ตับผัดพริก (โทร.สั่งล่วงหน้า) กุ้งทอด ปลาทอดชุบเกล็ดขนมปัง ไข่เจียวใส่เนื้อกุ้ง และสตูลิ้นหมู
ร้านในตำนานที่มีคาแรกเตอร์พิเศษเป็นเอกลักษณ์นี้สมควรแก่การตามไปชิมเป็นอย่างมาก อาจต้องรอนาน (ถ้าคนเยอะอาจรอเป็นครึ่งชั่วโมง) แต่ก็คุ้มค่ารอ อย่าปล่อยให้หิวแล้วไปร้านนี้เป็นอันขาด