เจงคุงคือร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาระดับตำนาน ขายมาถึง 3 ชั่วอายุคนตั้งแต่ช่วงสมัยสงครามโลกที่ 2 ทำเลที่ตั้งลึกลับมาก อยู่ในตรอกเล็ก ๆ ซึ่งคนพื้นที่เรียกว่าตรอกไก่ (แต่ไม่มีชื่อซอย) และเมื่อก่อนไม่มีป้ายชื่อร้านอีกด้วย แต่ตอนนี้เขาทำแผ่นป้ายที่เรียกว่าสแตนดี้สูงเท่าตัวคนมาตั้งหน้าร้านไว้สำหรับเป็นจุดสังเกตให้แล้ว
ก่อนอื่นขอบอกทางไปเสียก่อน ถ้านำรถส่วนตัวมาสะดวกที่สุดคือให้ไปจอดรถที่ดิโอลด์สยาม ถ้าใครอยากตามรอยขอให้ไปถึงตั้งแต่ 10 โมงเช้า ข้อดีก็คือที่จอดรถชั้นใต้ดินของดิโอลด์สยามยังไม่เต็ม แต่ถ้าไปหลัง 11 โมงแล้วอาจต้องย้ายไปจอดบนตึกสูง วนกันเป็นสิบกว่ารอบทีเดียว
อีกอย่างคือร้านเจงคุงเปิดขายวันละ 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมงเท่านั้น จึงควรรีบไปตั้งแต่ตอนสาย ๆ จะได้ยังมีของกินทุกอย่างครบถ้วน
จอดรถแล้วให้เดินออกมาตรงหัวมุมดิโอลด์สยาม หาจุดตั้งต้นที่แยกพาหุรัด (มีป้ายติดไว้เบ้อเริ่มเทิ่ม ส่วนแยกบ้านหม้ออยู่ถัดไปอีกแยกหนึ่ง) เสร็จแล้วข้ามไฟแดง ไปตามถนนพาหุรัด (พอข้ามไปแล้วรถจะวิ่งทางเดียวสวนทางมาหาเรา) ประมาณ 100 เมตรจนถึงธนาคารกรุงเทพ สาขาพาหุรัด จากนั้นหันหลังให้ธนาคารแล้วข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้าม เดินเข้าไปในตรอกเล็ก ๆ ที่ปากตรอกอยู่ระหว่างห้างเพชรสุณีกับร้านเบ๊ย่งจั๊วเพียงไม่กี่สิบก้าวก็ถึงร้านห้องแถวเล็ก ๆ สีฟ้า ๆ ดูขลังด้วยความโบราณเก่าแก่ทางขวามือ
อีกทั้งตอนนี้เราสามารถขึ้นรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินจากสถานีหัวลำโพงมาอีก 2 สถานี แล้วมาขึ้นที่สถานีสามยอด เดินทะลุดิโอลด์สยามไปที่ร้านเจงคุงใช้เวลา 10 นาทีได้แล้วด้วย ถ้าหิวก็แวะซื้อทอดมันปลากรายบ้านหม้อที่ขายอยู่ในตรอกก่อนถึงร้านเจงคุงชิมรองท้องเสียก่อนก็ย่อมได้
เจงคุงนั้นคือชื่อพ่อของคุณสุรเดช ผู้สืบทอดกิจการรุ่นที่ 3 (ขายมาตั้งแต่รุ่นปู่) ซึ่งแต่ก่อนจะหาบลูกชิ้นปลาใส่ตู้ไม้ไปเร่ขายตามที่ต่าง ๆ (เชิญดูรูปหาบตู้ไม้และบัตรเร่ขายที่ติดอยู่ตรงฝาผนังได้) แต่รุ่นนี้จะปักหลักขายอยู่ในร้าน ซึ่งเจ๊ที่ยืนชงก๋วยเตี๋ยวยิ้มร่าอยู่หน้าร้านนั้นคือศรีภรรยาของคุณสุรเดชนั่นเอง
เจ้านี้ขยันตื่นแต่ตี 4 มานวดปลาและปั้นลูกชิ้นเอง พร้อมขายตอน 10 โมงเช้า และขายไปจนถึงบ่าย 2 โมงก็หมดแล้ว แนะว่าให้ไปตอนสาย ๆ ไม่เกิน 11 โมงเช้าจะได้มีของทุกอย่างครบถ้วน
เครื่องเคราต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่สุดยอดทั้งนั้น มีลูกชิ้นปลาทำจากปลา 3 ชนิดผสมกัน คือ ปลาอินทรี ปลาดาบ และปลาหางเหลือง เหนียวนุ่มไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อย เกี๊ยวกุ้งทะเลเป็นตัว ๆ ผสมหมูสับที่แสนจะนุ่ม ฮื่อก้วยทอดหอมอร่อยรสชาตินุ่มนวล
และที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือลูกชิ้นกุ้งหอมมัน
มีของหายากซึ่งนาน ๆ จะทำทีก็คือเกี๊ยวปลาแบบโบราณ ตัวเกี๊ยวหนาหนึบเหมือนกินเส้นปลาหนา ๆ เพราะทำจากเนื้อปลาล้วนจริง ๆ (แค่แตะแป้งเพื่อให้ปั้นเป็นตัวเกี๊ยวได้) ถ้ามีให้รีบตะครุบรีบสั่งเลยนะจ๊ะ วันไหนมีเกี๊ยวปลาก็จะมีเส้นปลาอีกต่างหากด้วย
สูตรสำเร็จของผมคือบะหมี่แห้งลูกชิ้นปลา เส้นเหนียวนุ่มหอมอร่อย แล้วขอน้ำซุปมาต่างหาก ซดน้ำซุปหอมหวานตาม รับรองเห็นสวรรค์รำไร สนนราคาชามละ 60 บาท ให้ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง และฮื่อก้วย นาน ๆ มาทีควรสั่งพิเศษชามละ 80 บาทเสียเลยจะได้กินอร่อยครบเครื่อง
ซึ่งจะเพิ่มเกี๊ยวกุ้งหรือเกี๊ยวปลากับเส้นปลาให้อีกด้วย และผมเห็นมีบางคนสั่งชามละ 100 บาทก็มี
นอกจากบะหมี่กับเกี๊ยวแล้วเขายังมีเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เกี้ยมอี๋ เส้นหมี่อีกด้วย ถ้าติดใจอยากซื้อกลับบ้านก็จะคิดลูกชิ้นปลากับลูกชิ้นกุ้งลูกละ 8 บาท ฮื่อก้วยเส้นละ 80 บาท เกี๊ยวกุ้งลูกละ 12 บาท
นี่คือร้านลูกชิ้นปลาที่ยังทำกันในครอบครัวด้วยกรรมวิธีดั้งเดิม สมควรแก่การมาลิ้มลองให้รู้ว่าของกินดี ๆ สมัยก่อนนั้นเป็นอย่างไร