ร้านต้มเครื่องในวัวเจ้าตำนาน ซึ่งคุณชายถนัดศรีเคยแนะนำในคอลัมน์ยุคแรกเมื่อเกือบ 60 ปีที่แล้ว ปัจจุบันใคร ๆ รู้จักกันในชื่อว่าหม่องราชบพิธ (หรือวัดราชบพิธ) ต้มเครื่องในวัว
ร้านนี้ไม่มีป้ายชื่อหน้าร้านให้เป็นที่สังเกต ทางไปร้านให้ตั้งต้นที่วัดราชบพิธฯ ซึ่งอยู่ถัดจากกระทรวงมหาดไทย ร้านหม่อง ต้มเครื่องในวัวนั้นอยู่ในตึกแถวไม้แบบโบราณ 2 คูหา ประตูไม้บานเฟี้ยมริมถนนราชบพิธ ซึ่งถนนเส้นนี้จะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดราชบพิธฯ อีกที มีโรงเรียนราชบพิธกับศึกษาภัณฑ์อยู่เยื้องออกไปไม่ไกลด้วย จะจอดรถริมทางก็ได้ (แต่มักหายากมาก) หรือไปจอดที่ศูนย์การค้าดิโอลด์สยามหรือที่ศาลเจ้าพ่อเสือ และเดินมาประมาณ 10 นาทีก็สะดวกดี
นายหม่องคือเจ้าของร้านรุ่นที่ 3 ต่อจากพ่อและอา เมื่อราว 20 ปีก่อนที่มาชิมนั้นยังมีแม่และอาร่วมด้วย ตอนนี้มีแค่คุณหม่องกับภรรยาและลูกน้องอีก 3 คน ช่วยกันทำมือเป็นระวิง
กิจวัตรประจำวันเริ่มต้นตั้งแต่ตี 4 เพื่อมาล้างทำความสะอาด ซึ่งต้มเครื่องในวัวจะเสร็จพร้อมขายตอนประมาณ 8 โมงเช้า พอได้เวลาบรรดาลูกค้าซึ่งสมาชิกส่วนใหญ่เป็นผู้ชายต่างก็มาจับจองที่นั่งกันสลอนจนเต็มร้าน มีทุกสาขาอาชีพตั้งแต่ตำรวจ ทหาร เด็กส่งเอกสาร คนขับสามล้อ แท็กซี่ ข้าราชการ พ่อค้า ฯลฯ นับได้ว่าเป็นร้านขวัญใจประชาชนโดยแท้ ลูกค้าบางคนก็มานั่งรอกินตั้งแต่ 7 โมงเช้าทีเดียว ซึ่งตอนนี้ทันสมัยมาก เพราะที่ร้านรับสั่งอาหารทางออนไลน์อีกต่างหากด้วย สามารถสั่งอาหารแล้วนั่งสบายอารมณ์รอกินที่บ้านได้เลย
คุณชายถนัดศรีเคยบอกไว้ว่าเครื่องในวัวจะอร่อยชวนกินอยู่ที่การล้างน้ำเกลือทำความสะอาดเป็นสำคัญ กว่าจะได้ที่นั้นเป็นเรื่องจุกจิกกินเวลามาก ต้องลงมือทำเองทุกอย่าง ครั้นจะล้างแบบสังเขปต้มออกมาก็เหม็นกินไม่ลง เครื่องในต้องสะอาด เคี่ยวเปื่อยพอดีด้วยความชำนาญว่าอย่างไหนควรเคี่ยวนานแค่ไหนจึงจะได้ที่ ไม่ต้มสำรวมไปหมดทุกอย่าง ดังนั้นร้านเครื่องในวัวจึงร่อยหรอลงไปจนกระทั่งเหลือเพียงไม่กี่เจ้า
ที่ต้มเครื่องในวัวเจ้านี้ยังครองใจลูกค้าได้นานแสนนานก็เพราะว่ามีเครื่องให้เลือกสารพัด ต้มเปื่อยได้ที่ ไม่มีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์แม้แต่น้อย ต้องชมเชยผู้รับคำสั่งที่สามารถจำได้หมดว่าใครจะเอาอะไรไม่เอาอะไรโดยไม่ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว ลองคิดดูก็แล้วกันว่าเครื่องในวัวมีเยอะแยะให้จดจำ ทั้งเนื้อเปื่อย เอ็น ขอบกระด้ง ดอกจอก ม้าม ไส้เล็ก ไส้ใหญ่ ปอด หลอดคอกรุบ ๆ สามสิบกลีบ (ส่วนนี้อร่อยมาก) กระเพาะ ตัวเดียวอันเดียว จะไม่มีก็แค่ตับ เนื้อสด หัวใจ และผ้าขี้ริ้วเท่านั้น
เท่านี้ยังไม่พอ วันไหนถ้าโชคดีก็จะมี “น้องนาง” อีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าคืออะไรให้ไปถามที่ร้านกันเอาเอง เพียงแต่ขอบอกไว้ว่าถ้าวันไหนมีน้องนางขายก็จะขายหมดไปภายในชั่วพริบตาเดียว
สำหรับผู้ชื่นชอบเครื่องในแนะนำว่าให้สั่งชามพิเศษ 80 บาท สั่งให้ใส่ทุกอย่างไปเลย ชามธรรมดา 50 บาทไม่พอยาไส้หรอก และถ้าอยากกิน 2 ชามให้สั่งมาคราวเดียวจะได้ไม่ต้องกลับไปตั้งคิวใหม่ให้เสียเวลา ระหว่างที่นั่งคอยก็ให้ผสมน้ำจิ้ม ใส่น้ำส้มพริกเหลืองตำสูตรเก่าแก่ น้ำปลา น้ำตาล และพริกป่น สำหรับเอาไว้จิ้มเครื่องในกินกับข้าวร้อน ๆ แล้วซดน้ำแกงตามเข้าไป
ความดีงามของต้มเครื่องในวัวร้านหม่องอีกอย่างก็คือน้ำซุปใส ๆ หอมกลิ่นตะไคร้ ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่มีเวลาหั่นฝอยทีละชาม แต่จะต้มลงในหม้อไปเลย และก็มีกระเทียม ข่า ลูกมะกรูดต้มและเผาอีกด้วย ควรขอกระเทียมต้มมากินแกล้มกับต้มเครื่องในวัว เข้ากันดีเป็นปี่เป็นขลุ่ย กินกับข้าวสวยร้อน ๆ (5 บาท) ลืมบอกไปว่าที่นี่ยังใช้เตาถ่านต้มเครื่องในวัว จึงร้อนระอุอร่อยเป็นทวีคูณ
ถ้าต้องการกินเครื่องในวัวครบทุกสิ่งควรไปแต่เช้า ตอน 8 โมงยิ่งดี แต่ถ้าต้องการให้ต้มเครื่องในวัวน้ำงวดได้ที่ให้ไปตอน 10 โมงดีที่สุด ซึ่งเวลานั้นของบางอย่างอาจหมดแล้วนะจ๊ะ แต่ไม่ควรไปเกิน 11 โมงเช้าก็แล้วกัน มิฉะนั้นอาจต้องช่วยเขาปิดร้านแทน ของหมดอดกินเป็นแน่ ข้อควรระวังอีกอย่างก่อนไปร้านนี้คือควรเปิดปฏิทินวันพระให้ดี เพราะร้านหม่องเขาหยุดทุกวันอาทิตย์และทุกวันพระใหญ่นะจ๊ะ