ร้านดังปากซอยยศเสร้านแรกทางขวามือ ไม่มีร้านรวง แต่อาศัยริมซอยเป็นที่ปรุงอาหารและตั้งโต๊ะสำหรับลูกค้า ร้านนี้ใคร ๆ ก็รู้จักกันดีตั้งแต่คนรุ่นพ่อ ปู่ย่าตายาย จนมาถึงวัยรุ่นและคนทำงานรุ่นใหม่ ชื่อว่าสุกี้ยากี้เมาเวอริค เรียกติดปากกันว่าสุกี้เมาเวอริค
หากจะเข้าไปซอยยศเสให้ตั้งต้นที่วัดเทพศิรินทร์ แล้วเลี้ยวขวาที่ห้าแยกพลับพลาไชย เลียบรั้ววัดฝั่งเมรุหลวงและพลับพลาอิศริยาภรณ์มาตามถนนพลับพลาไชย ซึ่งถนนช่วงนี้เป็นเส้นทางรถเดินทางเดียว วิ่งชิดขวามาไม่กี่ร้อยเมตรก็จะถึงปากซอยยศเสทางขวามือ
อยู่ก่อนถึงสามแยกอนามัยที่จะเลี้ยวไปโรงพยาบาลหัวเฉียว ช่วงค่ำ ๆ สามารถจอดรถริมถนนใหญ่ได้เลย ซึ่งจะมีผู้ประกอบอาชีพคอยโบกรถจัดหาที่จอดข้างถนนให้เราเสร็จสรรพ
ชื่อเมาเวอริคนี้คนรุ่นพ่อเมื่อเกือบ 60 ปีก่อนจะรู้จักกันดี เพราะเป็นซีรีส์หนังโทรทัศน์ยุคคาวบอยตะวันตกชื่อดัง มาเวอริค (Maverick) ยุคต่อมาเป็นหนังใหญ่เข้าโรงเมื่อปี 2537 นำแสดงโดยพระเอกดาราดัง เมล กิบสัน
เรื่องมาเวอริคโด่งดังขนาดที่ว่าเพื่อน ๆ ของคุณบุญส่ง อภิกิจธนพล หรือเจ๊กย้ง แนะให้ตั้งชื่อร้านว่าเมาเวอริค นี่คือที่มาของร้านสุกี้ยากี้เมาเวอริค ซึ่งเปิดขายมานานตั้งแต่ พ.ศ. 2503 ตอนนั้นคุณบุญส่งอายุอานามเพียง 17 ปี
ตอนนี้ผ่านไปเกือบ 6 ทศวรรษ กิจการของร้านสุกี้ยากี้เมาเวอริคสาขาปากซอยยศเสตกทอดมาถึงลูกสาวคือคุณกนิษฐา อภิกิจธนพล ก่อนหน้านั้นช่วยป๊าผัดสุกี้เต็มตัวมานานถึง 13 ปีจนมีความชำนาญ ดีกรีของเธอไม่ธรรมดา จบหลักสูตรการทำอาหารจากวิทยาลัยดุสิตธานีตรงถนนศรีนครินทร์
เคยมีประสบการณ์ทำงานที่ร้านครัวไทยมาก่อนด้วย
ทุกวันนี้คุณกนิษฐาว่าการเป็นมือหนึ่งยืนผัดสุกี้อยู่ที่ร้าน เธอคือหญิงสาวคนที่มีผ้าคาดปากนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีลูกมือทำหน้าที่ผัดอีก 2 กระทะด้วย ยังคงรักษาเจตนารมณ์เดิมของป๊าคือ “ทำอาหารเหมือนเรากินเอง” โดยร้านจะเปิดตั้งแต่ช่วงบ่าย
3 โมงครึ่งไปจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง หยุดทุกวันพุธเหมือนเดิม
นอกจากสาขาต้นตำรับแห่งนี้แล้วก็ขยายสาขาไปอีก 3 แห่ง ได้แก่ ข้างธนาคาร UOB ระหว่างซอยสุขุมวิท 24 และสุขุมวิท 26 โดยจะเปิดขายช่วงกลางวัน ใครสนใจตามไปชิมให้จอดรถที่ห้างดิ เอ็มโพเรียมและเดินออกมา หรือจะโดยสารรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีพร้อมพงษ์ก็ได้ นอกจากนี้ยังมีสาขาที่ซอยอุดมสุข
103 และสาขาศรีนครินทร์
ร้านสุกี้ยากี้เมาเวอริคมีขายแค่สุกี้และก๋วยเตี๋ยวคั่วเท่านั้น มีให้เลือก 4 อย่าง เนื้อ หมู ไก่ และปลาหมึกกรอบ จะสั่งสุกี้แห้งหรือน้ำก็ได้ แต่ขอแนะนำว่าควรสั่งสุกี้แห้ง ห้ามพลาดเป็นอันขาด
สุกี้แห้งของร้านเมาเวอริครสชาติเข้มข้นหอมฟุ้งตลบอบอวลไปทั้งปาก เผ็ดร้อนสะใจ ใครชอบเนื้อให้สั่งสุกี้แห้งเนื้อ ซึ่งมีความนุ่มหอมเป็นที่สุด
นอกจากนี้สุกี้แห้งหมู ไก่ และสุกี้ปลาหมึกกรอบก็นุ่มอร่อยเช่นกัน ผักที่ใส่คือผักกาดขาว ขึ้นฉ่าย ต้นหอม และวุ้นเส้น ถ้าชอบสุกี้น้ำมีใส่ผักบุ้งเพิ่มขึ้นมา ขอแนะนำให้ใส่น้ำจิ้มลงไปมาก ๆ จะทำให้น้ำเข้มข้นอร่อยขึ้นเป็นกอง
เคล็ดลับที่ทำให้สุกี้เมาเวอริคมีความหอมมากก็คือที่นี่ใช้น้ำมันหมูผัดเท่านั้นมาตั้งแต่แรกเริ่มเปิดร้าน ผลพลอยได้ก็คือที่สาขาซอยยศเสจะมีกากหมูกรอบ ๆ หอม ๆ เจียวมาใหม่ ๆ ให้แกล้มฟรีสำหรับสุกี้แห้งด้วย แต่ถ้าอยากได้เพิ่มจากที่แจกคิดถุงละ 5
บาท
ทีเด็ดอีกอย่างอยู่ที่น้ำจิ้มสุกี้รสชาติเข้มข้นครบเครื่อง ซึ่งจะผัดคลุกเคล้าไปกับสุกี้แห้งจนเคลือบเนื้อและผักอยู่ทุกอณูเลย เพียงคำแรกที่กินเข้าไปจะรู้สึกค่อย ๆ เผ็ดวาบขึ้นมา ยิ่งเคี้ยวก็ยิ่งรู้สึกวาบ ๆ เป็นทวีคูณ ใครกินเผ็ดมากไม่ได้ให้บอกเขาได้ว่าเอาอย่างเผ็ดน้อย
น้ำจิ้มสูตรเฉพาะดั้งเดิมของเมาเวอริคมีส่วนผสมของเครื่องปรุงมากกว่า 20 ชนิด ที่แน่ ๆ น้ำจิ้มร้านนี้จะหอมกลิ่นงาขาว มีรสของเต้าหู้ยี้เล็กน้อย และเผ็ดพริกขี้หนู ทำใหม่สดทุกสัปดาห์ ซึ่งคุณกนิษฐากับสามียังคงกินสุกี้ของตัวเองทุกวัน เพราะวัตถุดิบแต่ละวันไม่เหมือนกัน เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ความอร่อยที่เหมือนเดิม ส่วนใครต้องการน้ำจิ้มเพิ่ม หากกินในร้านสามารถขอเติมได้เลย แต่ถ้าสั่งกลับบ้านคิดถุงละ 10 บาท และทุกเมนูที่ใส่กล่องกลับบ้านบวกเพิ่มอีก 5 บาทจากราคาปกตินะจ๊ะ
คุณกนิษฐาบอกว่าการคุมไฟระหว่างผัดนั้นก็สำคัญเช่นเดียวกัน ผัดในกระทะเหล็กบนเตาฟู่ กระทะขัดมันจนส่องหน้าได้
เกือบลืมบอกไปว่าถ้าใครอยากได้สุกี้แห้งที่ผัดไหม้ ๆ หอม ๆ และมัน ๆ เหมือนแบบโบราณให้บอกคุณกนิษฐาได้ เพราะเดี๋ยวนี้คนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยคุ้นเคยกลิ่นหอม ๆ ไหม้ ๆ นิด ๆ แล้ว ถ้าติดใจอยากซื้อเครื่องกลับบ้านไปปรุงเองก็มีชุดดิบหมูและเนื้อ ประกอบด้วยน้ำแกง
เนื้อ ผัก และวุ้นเส้นอีกด้วย
นอกจากเมนูสุกี้ทั้งน้ำและแห้งแล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวคั่วเมาเวอริค (หมู/ไก่ 50 บาท พิเศษ 60 บาท ปลาหมึกกรอบ 70 บาท) เสิร์ฟพร้อมปาท่องโก๋ตัวจิ๋ว ใครไม่จุใจสั่งเพิ่มได้ถุงละ 10 บาท เมนูสุดท้ายคือทูนหัว หน้าตาคล้ายสุกี้แห้งแต่ไม่ใส่วุ้นเส้น รสชาติเข้มข้น
(ไก่/หมู/ปลาหมึกกรอบ มี 3 ราคา คือ 70, 80, 100 บาท ส่วนเนื้อ 100 บาท) เอาไว้กินกับข้าวเปล่าร้อน ๆ ถ้วยละ 10 บาท