โรงแรมแลนด์มาร์ค กรุงเทพฯ อยู่ในย่านสุขุมวิท ตรงรถไฟฟ้าบีทีเอสสถานีนานา ถ้าขับรถไปจอดรถที่โรงแรมแล้วกดลิฟต์จากที่จอดรถขึ้นมาที่ชั้น 10 ได้เลย
การตกแต่งของห้องอาหารนี้ดูอลังการในสไตล์จีนร่วมสมัย มีห้องส่วนตัวไว้คอยบริการสำหรับสังสรรค์เป็นหมู่คณะหลายห้อง
บุฟเฟต์ติ่มซำของห้องซุยเซียนแบ่งเป็น 2 ช่วงวัน ในวันจันทร์-เสาร์เป็นบุฟเฟต์ติ่มซำ 35 อย่าง สั่งได้ตลอดไม่อั้น อีกทั้งยังมีซุปให้เลือก 1 อย่างต่อคนจาก 3 เมนู มีซุปเสฉวนทะเล ซุปกระเพาะปลาน้ำแดง และซุปเยื่อไผ่ (ขอแนะนำซุปชนิดนี้ ซดแล้วชื่นใจมาก)
เท่านี้ยังไม่พอ ยังตบท้ายด้วยข้าวผัดฟูเจาใส่เป็ดย่างและกุ้ง หรือเส้นใหญ่ราดหน้าทะเล ให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง (แนะว่าให้จับคู่ สั่งมาคนละ 1 อย่างแล้วแบ่งกันชิม เพราะอร่อยมากทั้งคู่) ปิดท้ายด้วยขนมซึ่งมีให้เลือกได้ 1 อย่างจาก 3 เมนูเช่นกัน
ทั้งบัวลอยน้ำขิง (ไส้งาดำ) สาคูแคนตาลูป หรือลิ้นจี่ลอยแก้ว (รักพี่เสียดายน้อง อร่อยหมดทุกอย่าง)
บุฟเฟต์วันจันทร์-เสาร์มีในช่วงเวลา 11.30-14.30 น. ราคาหัวละ 720 บาท++ (848 บาทสุทธิ) รวมเครื่องดื่ม (ชาจีน เก๊กฮวยเสิร์ฟไม่อั้น)
แต่ไหน ๆ ก็จะกินแบบลืมอ้วนกันแล้ว ขอเชียร์ให้มาชิมบุฟเฟต์ติ่มซำมื้อกลางวันในวันอาทิตย์ เพิ่มอีกนิดเดียวเป็นหัวละ 900 บาท++ (1,060 บาทสุทธิ) รวมเครื่องดื่ม (ชาจีน เก๊กฮวยเสิร์ฟไม่อั้น) โดยเพิ่มเวลาเป็น 11.00-15.00 น. ให้ติ่มซำมากถึง
35 อย่าง สั่งได้ไม่อั้น (แต่ต้องกินให้หมด) และยังมีสเตชั่นสำหรับให้แฟน ๆ ไปยืนสั่งเป็ดปักกิ่งที่มีเชฟม้วนห่อให้เดี๋ยวนั้นเลย นอกจากนี้ยังมีหมูหันขึ้นชื่อ หมูกรอบชิ้นหนาสูงเป็นตั้ง ๆ ไก่แช่เหล้า แมงกะพรุนให้เลือกชิมด้วย ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูจีนขึ้นชื่อของโรงแรมแลนด์มาร์คทั้งนั้น
แต่ถ้าใครมาวันจันทร์-เสาร์ หากอยากกินเองก็ให้สั่งเป็ดปักกิ่งมาต่างหาก 1 ตัว ราคา 1,200 บาท++ (1,412.40 บาทสุทธิ) แผ่นแป้งคล้ายโรตีหนานุ่ม น้ำจิ้มเป็ดปักกิ่งเข้มข้น ส่วนเนื้อเป็ดปักกิ่งสั่งให้ทำได้ 2 อย่าง ผมเลือกเนื้อเป็ดผัดกระเทียมที่นุ่มหอมเข้มมากจนต้องสั่งข้าวเปล่าร้อน
ๆ มากินคู่กัน อีกอย่างเอาไปทำซุปเนื้อเป็ดใส่เกี่ยมไฉ่ ซดคล่องคอ
ย้อนกลับมาที่เมนูติ่มซำ 35 ชนิด มีฮะเก๋ากุ้ง (ห้ามพลาด กุ้งเต็มคำ) ขนมจีบหมู สาหร่ายห่อกุ้ง ลูกชิ้นกุ้งผักโสภณ ก๋วยเตี๋ยวหลอดไส้รวม ก๋วยเตี๋ยวหลอดหมูแดง ซาลาเปาหมูแดง ซาลาเปาไส้ครีมคัสตาร์ด (ซาลาเปาต้องกินตอนร้อน ๆ ถึงจะอร่อย) ผักกาดขาวห่อกุ้งนึ่ง
ซี่โครงหมูนึ่งเต้าซี่
ส่วนของทอดนั้นมีกุ้งทอดครีมสลัด ซึ่งครีมสลัดมายองเนสรสดีมาก ๆ ขนมผักกาดทอด กุยช่ายทอด เผือกทอด (ทั้ง 3 อย่างนี้ควรสั่งด้วย) และฟองเต้าหู้ห่อกุ้งทอด
ที่น่าลิ้มลองมากคือขนมจีบกุ้งหยกที่ทำเป็นสีเขียว ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้งกรอบที่กรอบสมชื่อ มีน้ำซีอิ๊วหอมหวานแยกใส่ถ้วยมาให้ราดต่างหาก ต่อด้วยฮะเก๋าหอยเชลล์โรยหน้าด้วยไข่กุ้ง และมีขนมงาทอดไส้ลูกบัวอีกด้วย ขอเชิญไปดูเองในเมนูเลยว่ามีอะไรน่ากินอีกบ้าง
อ่านจบแล้ว รีบรวบรวมสมัครพรรคพวกไปชิมกันเยอะ ๆ ก่อนอื่นต้องโทร.จองก่อนที่ 0-2254-0404 ต่อ 7777 โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันอาทิตย์คนจะแน่นมาก อ้อ...ที่ซุยเซียนเขานึ่งติ่มซำกันเข่งต่อเข่ง ฉะนั้นอยากกินของอร่อยต้องอดใจรอกันสักนิด
ขอเพิ่มเติมอีกนิดว่าที่ห้องซุยเซียนนี้มีเชฟจีนฮ่องกงชื่อว่าเชฟโล เวย์ มิง (Chef Lo Wei Ming) เพิ่งมาเป็นเชฟใหญ่อาหารจีนประจำโรงแรมแลนด์มาร์ค คร่ำหวอดในวงการอาหารจีนทั้งที่เมืองไทยและเมืองนอกมานานกว่า 25 ปี เคยทำอยู่ที่โรงแรมชื่อดังก้องโลก เช่น The Peninsula Hong Kong มาแล้ว
เชฟใหญ่ไฟแรงของเรามีเมนูพิเศษมานำเสนอทุกเดือน เช่น เมนูตำรับเสฉวน ให้ลองไก่ต้มโบโบราดซอสเสฉวน (Poached ‘Bo Bo’ chicken with spicy Sichuan Mala sauce & black vinegar) (812.13 บาทสุทธิ) เนื้อไก่นุ่มหอมด้วยซอสหม่าล่าใส่ชวงเจียกับพริกเสฉวนสีเขียวที่หอมกว่าสีแดง และยังมีปูนิ่มสอดไส้กุ้งทอด (447.26 บาทสุทธิ) บะหมี่อบกุ้งมังกรยอดซุป (2,224.53 บาทสุทธิ) เส้นบะหมี่ทำเองนุ่มหนึบ ใส่เนื้อกุ้งมังกรทั้งตัวที่เรียกว่าบอสตันล็อบสเตอร์เนื้อหวานสด อบน้ำซุปหอมหวาน และฟองเต้าหู้ห่อเห็ดรวมมิตรเจเจี๋ยน มีทั้งเห็ดชิเมจิขาวและดำ และเห็ดหอมสด (411.95 บาทสุทธิ)
สรุปว่าห้องซุยเซียนนั้นครบเครื่องเรื่องอาหารจีนจริง ๆ เชิญไปลองชิมด้วยตัวเองแล้วจะรู้ว่าทำไมถึงเป็นร้านโปรดของใครหลายคนมาช้านาน