ฮงเส็งโภชนายังตั้งอยู่ ณ จุดเดิมริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม้ที่ด้านข้างร้านโดนเวนคืนกลายเป็นเสาตอม่อของสะพานพระราม 4 โชคดีที่ไม่ถึงตัวร้าน มิฉะนั้นคงอดกินของอร่อยไปอีกหนึ่ง ร้านฮงเส็งโภชนาอยู่สุดถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งต้นจากถนนแจ้งวัฒนะที่มีศูนย์ราชการกับเมืองทองธานีไปสู่ห้าแยกปากเกร็ด ไม่ต้องข้ามสะพานแต่ให้วิ่งข้างล่างผ่านแยกไฟแดง ตรงไปจนสุดทาง ให้จอดรถตรงที่จอดเทศบาลใต้สะพานพระราม 4 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่วงแยกกันเป็นเอกเทศ ที่จอดแรกสุดมักว่างแต่ต้องเดินไกลหน่อย ส่วนจุดจอดที่ 3 ด้านในสุดริมน้ำมักจะเต็มในตอนกลางวัน หรือใครมาจังหวะดีอาจได้จอดหน้าวัดบ่อที่ไม่มีค่าจอด
จากนั้นให้เดินมุ่งหน้าต่อไปยังริมน้ำ ร้านฮงเส็งโภชนาอยู่สุดทางด้านขวามือของตัวสะพาน ทางเดินเข้าร้านมีแสงส่องสว่างเข้ามาได้เต็มที่ทำให้ดูสดใสกว่าสมัยก่อน ตัวร้านยังเป็นเรือนไม้โบราณเช่นเดิม ทาสีขาว-ฟ้าสว่างสะอาดตา พื้นปูด้วยไม้กระดานแผ่นใหญ่ ๆ ยาว ๆ ใครมาเป็นต้องจับจองโต๊ะด้านริมน้ำ รับลมเย็นสบายเป็นที่สุด ร้านนี้เปิดมาได้ 60 กว่าปีแล้ว ว่าการโดยคุณศรีนวล สิทธิกรวงศ์ หรือคุณหมวย เจ้าของร้านรุ่นที่ 2 ตอนนี้มีหนุ่มสาวรุ่นที่ 3 มาช่วยด้วยอีกต่างหาก ไม่ต้องถามว่าฮงเส็งคือชื่อใคร เดาได้ไม่ยากว่าเป็นคุณพ่อผู้ก่อตั้งร้าน
มาฮงเส็งโภชนาแล้วไม่กินกุ้งแม่น้ำเผาถือว่ายังมาไม่ถึงร้าน กุ้งตัวโต ๆ ขนาด 2 หรือ 3 ตัวต่อกิโลกรัม ที่เห็นในรูปแปะอยู่ที่ร้านนั้นเป็นขนาดเบ้อเริ่มหนักประมาณ 7 ขีดเลยทีเดียว คุณศรีนวลเล่าว่าสมัยก่อนมีลูกจ้างอยู่คู่หนึ่ง ภรรยาบ่นอยากกินแกงส้มกุ้ง สามีได้ฟังก็พุ่งตัวลงแม่น้ำ โผล่ขึ้นมาอีกทีกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ เต็มถัง บ้านไหนก็กินกันทั่วไม่ต่างจากกินไข่เจียว แต่เดี๋ยวนี้ด้วยสภาพแวดล้อมแปรเปลี่ยน กุ้งแม่น้ำหายากแสนยาก และราคาแพงจนกลายเป็นเมนูภัตตาคาร คุณศรีนวลเป็นมือเผากุ้งประจำร้าน ซึ่งยังไม่มีลูกหลานคนไหนรับช่วงตำแหน่งสำคัญนี้ไปได้เพราะยังไม่มีใครเผากุ้งได้ดังใจ ที่ร้านจะผ่าครึ่งตัวกุ้งแล้วนำไปเผาเตาถ่านไฟร้อนแรง 5 นาที ไม่สุกมาก เนื้อยังหนึบหวานสดสุดอร่อยเป็นก้อน ๆ มันเต็มหัวแทบทะลักออกมา และไม่แห้งให้เสียอารมณ์ เอามันกุ้งคลุกข้าวราดน้ำจิ้มซีฟู้ดอร่อยอย่าบอกใคร ขอย้ำว่ากุ้งตัวใหญ่มาก กินเพียง 1 ตัวก็รู้สึกอิ่มเหลือล้น
แต่ยังอิ่มไม่ได้เพราะมีเมนูกุ้งแม่น้ำอื่น ๆ ที่ห้ามพลาด อย่าลืมสั่งกุ้งพล่าที่ใส่เครื่องมาไม่ยั้งทั้งตะไคร้ ใบมะกรูดซอย หอมแดง ปรุงด้วยพริกเผา โรยสะระแหน่หอม ๆ มันจากหัวกุ้งผสมคลุกเคล้ากับเครื่องพล่าหอมหวานมันอร่อยจริง ๆ เมนูนี้จะใช้กุ้งแม่น้ำขนาดย่อมลงมาหน่อย เช่นเดียวกับต้มยำกุ้งที่อุดมไปด้วยมันกุ้งลอยฟ่องจนดูเหมือนเป็นต้มยำน้ำข้น ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วเป็นต้มยำน้ำใส ปรุงรสได้จัดสะใจ หอมน้ำปลา มะนาว สั่งได้ทั้งแบบชามหรือหม้อไฟ
ส่วนเมนูมาแรงที่สั่งกันแทบทุกโต๊ะคือมะระผัดปลาอินทรี (เค็ม) ซึ่งนำมะระไปลวกในน้ำเกลือก่อนจึงไม่ขมมาก แล้วผัดกับปลาอินทรีเค็มที่ช่วยชูรสยิ่งขึ้น ของอร่อยอีก 2 เมนู ได้แก่ ลูกชิ้นปลากรายผัดขี้เมา ปลากรายขูดเอง ตีเองจนเหนียวหนึบ ผัดถึงเครื่อง ใส่ทั้งกระชาย ข่า มะกรูด พริกเหลือง กับยอดมะพร้าว และอีกเมนู ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ใช้ปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กจึงทอดได้กรอบแสนกรอบจนกินได้ทั้งตัว ไม่เหลือทั้งหัวและก้าง
ยังมีของกินตำรับไทยแท้ ๆ อีกมากมาย ทั้งแกงส้มชะอมไข่กุ้งสด สูตรของร้านนี้ใส่กระชายและหอมแดงด้วย เนื้อปูผัดผงกะหรี่นี่ก็จานเด็ด กุ้งทอดกระเทียม ปลาคังลวก ทอดมันปลากราย ไก่คั่วขิงกรอบ และกุ้งเต้นราดน้ำจิ้มซีฟู้ด กลั้วคอด้วยน้ำตะไคร้หวานอ่อน ๆ รสชาติเข้มข้นที่ทางร้านทำเอง
และปิดท้ายกับของหวานอย่างข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ลูกหม่อนลอยแก้ว และสาคูแคนตาลูป ยังมีของกินตำรับไทยแท้ ๆ อีกมากมาย ทั้งแกงส้มชะอมไข่กุ้งสด สูตรของร้านนี้ใส่กระชายและหอมแดงด้วย เนื้อปูผัดผงกะหรี่นี่ก็จานเด็ด กุ้งทอดกระเทียม ปลาคังลวก ทอดมันปลากราย
ไก่คั่วขิงกรอบ และกุ้งเต้นราดน้ำจิ้มซีฟู้ด กลั้วคอด้วยน้ำตะไคร้หวานอ่อน ๆ รสชาติเข้มข้นที่ทางร้านทำเอง และปิดท้ายกับของหวานอย่างข้าวเหนียวน้ำกะทิทุเรียน ลูกหม่อนลอยแก้ว
และสาคูแคนตาลูป