การแจ้งเตือน ()
  19/12/2019

โตเกียว ยากินิกุ โชไทอัน(Tokyo Yakiniku Shoutaian)

ร้านนี้คัดสรรเนื้อคุโรเกะวากิวเฉพาะเกรดสูงสุด A5 เท่านั้น ซึ่งเชฟฮาระเป็นคนควบคุมการแล่เนื้อ เลือกเฟ้นแต่เนื้อวากิวส่วนดี ๆ มาให้ลิ้มลอง
โตเกียว ยากินิกุ โชไทอัน(Tokyo Yakiniku Shoutaian)

 

ตอนนี้กรุงเทพฯ มีแหล่งรวมร้านอาหารญี่ปุ่น (และชาติอื่น ๆ) แห่งใหม่ รับรองว่าน่าตื่นตาตื่นใจเป็นอันมาก อยู่ที่โครงการกินซ่า ทองหล่อ (Ginza Thonglor) บนชั้น 2-3 ของโรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ (Hotel Nikko Bangkok) ซอยสุขุมวิท 55 (ทองหล่อ) เลี้ยวจากถนนสุขุมวิทเข้ามาเพียง 200 เมตร อยู่ทางซ้ายมือ แต่ละร้านนั้นไม่ธรรมดาเลย มีทั้งร้านที่โด่งดังอยู่แล้วมาเปิดใหม่ที่นี่ และมีร้านดังจากญี่ปุ่นมาเปิดตัวในไทย เป็นร้านที่ห้ามพลาดสุด ๆ มีชื่อว่า โตเกียว ยากินิกุ โชไทอัน (Tokyo Yakiniku Shoutaian) ร้านนี้เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมีนาคม มีถึง 9 สาขาในญี่ปุ่น (เช่น ชิบะ โตเกียว) อยู่บนชั้น 3 ข้างบันไดเลื่อน รับรองว่าต้องสะดุดตาเพราะเขาจำลองเตาถ่านไว้หน้าร้าน ดูเก๋และเหมือนจริงมาก ตัวร้านภายในกะทัดรัด มีไม่กี่โต๊ะ ตกแต่งสุดเนี้ยบในโทนสีแดงและสีทอง และมีห้องส่วนตัว 4 ห้อง (ห้องละ 4 คน) ซึ่งสามารถเปิดต่อกันกลายเป็นห้อง 8-10 คน 2 ห้องได้ด้วย พานพระราม 4 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่วงแยกกันเป็นเอกเทศ ที่จอดแรกสุดมักว่างแต่ต้องเดินไกลหน่อย ส่วนจุดจอดที่ 3 ด้านในสุดริมน้ำมักจะเต็มในตอนกลางวัน หรือใครมาจังหวะดีอาจได้จอดหน้าวัดบ่อที่ไม่มีค่าจอด

thumbnail

เชฟใหญ่คือคุณ Boku Michihiro ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อย่าง ส่วนคุณลิป (ชาเรฟ) เป็นผู้จัดการชาวไทยผู้อยู่ในญี่ปุ่นนานนับ 10 ปี ทั้งสองคนนี้อารมณ์ดีมาก ๆ และบริการลูกค้าเป็นเลิศ ร้านปิ้งย่างยากินิกุนั้นมีอยู่มากมายที่นำเข้าเนื้อดี ๆ จากญี่ปุ่น แต่ร้านนี้มีทีเด็ดหลากหลายไม่เหมือนใครจนต้องร้องว้าว สามารถครองใจลูกค้าได้ในเวลาอันรวดเร็ว จากตอนแรกที่มีลูกค้าญี่ปุ่น 100% ตอนนี้พวกเราชาวไทยแซงหน้าไปแล้วที่นี่เชี่ยวชาญเรื่องการคัดสรรเนื้อคุโรเกะวากิวเฉพาะเกรดสูงสุด A5 เท่านั้น เน้นเนื้อที่มาจากจังหวัดเซนได (Sendai) กุนมะ (Gunma) คุมาโมโตะ (Kumamoto) และฮอกไกโด (Hokkaido) จุดเด่นคือเชฟจะคอยควบคุมการแล่เนื้อ เลือกเฟ้นแต่เนื้อวากิวส่วนดี ๆ มาให้ลิ้มลอง เมนูสุดฮิตโด่งดังข้ามประเทศที่ถือว่าใคร ๆ ก็มาที่โตเกียว ยากินิกุ โชไทอันเพราะสิ่งนี้ คือเมนูแฮมเบิร์กเนื้อวัวคุโรเกะวากิว ทำจากสันคอคุโรเกะวากิวผสมมันเนื้อเซอร์ลอยน์วากิว 20% หน้าตาเหมือนก้อนเนื้อแฮมเบอร์เกอร์ อบและย่างเสิร์ฟมาในจานร้อนควันฉุยที่ปรุงนาน 15 นาที แหวกด้านในมีเนื้อสีชมพูสวย หอมนุ่มชุ่มฉ่ำแทบละลายในปาก

แฮมเบิร์กนี้เน้นเฉพาะมื้อกลางวัน เป็นชุดราคาสบายกระเป๋า มีทั้งออร์เดิร์ฟของกินเล่น สลัด ซุป ข้าว มีซอสให้เลือก 3 แบบ และยังสามารถเลือกเนื้อได้ 3 ขนาด ตั้งแต่ 200, 300 และ 400 กรัม แบบแรกคือซอสดั้งเดิมพอนสึกับหัวไชเท้าฝน รสอมเปรี้ยว (360, 460 และ 560 บาท++) ต่อมาคือซอสเดมิเกลซ (Demi-glace) สีน้ำตาลเข้มหอมกลิ่นเนื้อ (380, 480 และ 580 บาท++) และซอสชีสเดมิเกลซ (400, 500 และ 600 บาท++) ตอนกลางวันนี้ยังมีชุดปิ้งย่างสุดคุ้มอีกด้วย มีเนื้อวากิวส่วนพิเศษให้ด้วย มีตั้งแต่ชุดยากินิกุ (420 บาท++) ชุดคัดพิเศษ (680 บาท++) และไหน ๆ จะกินทั้งทีต้องชุดโชไทอัน (880 บาท++) ไปเลย ให้เนื้อวากิวคัดพิเศษย่างเกลือ 3 ชนิด 6 ชิ้น และย่างซอสอีก 2 ชนิด 4 ชิ้น ที่สุดของที่สุดจริง ๆ

 

ใครอยากอลังการหลากหลายให้มาตอนเย็น ซึ่งตอนนี้ทางร้านยังมีโปรโมชั่นเด็ด แค่ขอแอดไลน์ของร้านก็จะได้ซูชิเนื้อวากิว 3 รสชาติ (แบบกินดิบ) ไปเลยคนละคำ โดยหนึ่งคำจะรวมไปด้วยซูชิเนื้อวากิวสด ๆ โปะหน้าด้วยอูนิหรือไข่หอยเม่นจากฮอกไกโด ไข่ปลาแซลมอนจากอาโอโมริ และคาเวียร์ รับรองว่าอร่อยน้ำตาไหล เมนูของกินเล่นที่ห้ามพลาด คือ ยุกเกะ (Yukke) ราชาเนื้อวากิว A5 ใช้เนื้อสะโพกวากิว (Uchi Momo) ซึ่งแล่สไตล์ใหม่เป็นชิ้นบาง ๆ ทาด้วยไข่สด เป็นเนื้อดิบกินสด ๆ โดยให้ม้วนเนื้อเข้าด้านในจานเพื่อคลุกกับต้นหอมและงาขาว

thumbnail

ต่อกันด้วยเมนูเนื้อปิ้งย่าง ซึ่งจะมีพนักงานมาปิ้งย่างให้ที่โต๊ะ อยากกินให้อร่อยต้องมีความสุกไม่มาก ระดับ Medium Rare เท่านั้น แต่ถ้าชอบสุกกว่านั้นก็บอกเขาได้ ร้านนี้มีเมนูปิ้งย่างอร่อยไม่เหมือนใคร เรียกว่า สุกี้ยากี้เนื้อลายหินอ่อน ความจริงคือเนื้อวากิว A5 ลายไขมันเป็นหินอ่อน ทาซอสทาเระสุกี้ยากี้ ซึ่งจะย่างให้บนเตา แล้วม้วนเนื้อ เสิร์ฟในถ้วยที่มีไข่ดิบกับข้าวญี่ปุ่นพอดีคำ แนะว่าให้จุ่มไข่ดิบกินครึ่งชิ้นเปล่า ๆ ก่อน และที่เหลือกินกับข้าวญี่ปุ่นที่มีปริมาณ 1 คำโตกำลังพอเหมาะ ให้ความรู้สึกเข้มข้นมาก ถ้าสั่งเมนูปิ้งย่างแบบตามสั่งก็เริ่มต้นกันด้วยลิ้นวัวบุปผาย่างเกลือ ซึ่งใช้ส่วนโคนลิ้นจึงชิ้นหนาสะใจมาก และบั้งเป็นแฉก ๆ มาเหมือนดอกไม้ เวลาย่างจะแบ่งเป็นชิ้น ๆ ให้เราได้ชิมกันสะใจ เมนูนี้ให้บีบเลมอนเปรี้ยวสดชื่นและจิ้มกินกับวาซาบิฉุน ๆ เล็กน้อย จะได้รู้ซึ้งถึงความหอมของลิ้นวัวเต็มที

thumbnail

มาต่อกันด้วยเมนูเนื้อคุโรเกะวากิว มีของดีให้สั่งหลายอย่าง ถ้ามากัน 3-4 คนขอแนะนำให้สั่งเนื้อที่เสิร์ฟมาในหีบสมบัติ โชไทอัน โมริอาวาเสะ 4 ชนิด 8 ชิ้น เวลาเปิดฝาจะมีควันน้ำแข็งแห้งพวยพุ่งออกมาดูอลังการมาก ซึ่งจะมีเนื้อส่วนพิเศษที่ไม่เหมือนกันในแต่ละวันด้วย ขึ้นอยู่กับว่าวันนั้นมีอะไรดี เช่น โจคารูบิ เนื้อส่วนซี่โครงพรีเมียม หรือบางวันจะมีส่วนหายากที่เรียกว่า Rib Maki (มากิ) คือส่วนของเนื้อที่หุ้มเนื้อริบอายอีกที หอมและมีมันแทรก รสชาติดีมาก ๆ กินแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์ Kinomi สันในส่วนที่มีแค่ 300 กรัมต่อวัว 1 ตัว อิชิโบะ (Ichibo) เนื้อสะโพกส่วนนอกซึ่งเป็นส่วนที่นุ่มที่สุด และสุดยอดโรสุแห่งประวัติศาสตร์ เนื้อส่วนตรงกลางของเซอร์ลอยน์ ได้กลิ่นรสหอมของเนื้อชัดเจน หั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเคี้ยวได้เต็มคำ ยังมีเมนูเนื้อเลิศ ๆ อีกหลากหลาย เช่น โจโรสุ (Jo Rosu) ย่าง 5 วินาที เนื้อส่วนไหล่และซี่โครงที่อร่อยอีกเหมือนกัน ให้ถามที่ร้านได้เลย

ใครไม่กินเนื้อก็มีเนื้อหมูดำสันนอกคุโรบูตะ (400 บาท++) ปูทาระบะ (ท่อนละ 1,000 บาท++) หอยเป๋าฮื้ออาวาบิ (1,200 บาท++) หอยเชลล์โฮตาเตะ (120 บาท++) ล็อบสเตอร์ (ตัวละ 1,800 บาท++) และกุ้งลายเสือธรรมชาติ (150 บาท++) ลืมบอกไปว่าขนาดข้าวญี่ปุ่นยังใช้ของดีคือข้าวจากจังหวัดนีงาตะอีกด้วย ปิดท้ายด้วยขนมหวานอร่อยจนเก็บไปฝันถึงทั้งคืน คากิโงริสตรอว์เบอร์รี ที่ร้านตั้งชื่อว่าน้ำแข็งไสหิมะขาว สำหรับผู้ที่ต้องการประสบการณ์พิเศษสุดให้สั่งคอร์สเนื้อต่าง ๆ ตอนค่ำ โดยจะทยอยเสิร์ฟเป็นชุด มีของดีที่บอกไปแล้วมากมาย ซึ่งต้องโทร.จองคอร์สล่วงหน้า 2 วัน (คิดเป็นต่อคน หัวละ 2,700 / 3,200 / 3,600 และ 4,200 บาท++) ส่วนใครที่อยากลิ้มลองรสชาติเนื้อคุโรเกะวากิวชั้นเลิศระดับ A5 แบบไม่ต้องบินไกลไปถึงญี่ปุ่น ห้ามพลาดร้านโตเกียว ยากินิกุ โชไทอันด้วยประการทั้งปวง