การแจ้งเตือน ()
  22/01/2020

บะหมี่ปูแปะชุ้น

คนฝั่งธนรุ่นพ่อสมัยเมื่อ 60 ปีก่อนทราบกันดีว่า แต่ก่อนนั้นช่วงตั้งแต่เชิงสะพานพุทธฯไปจนถึงตลาดพญาไม้คือดงบะหมี่ปูทะเลของกินอร่อย หลังจากความเจริญเยื้องกรายเข้ามา มีการสร้างสะพานคู่ ขยายถนนใหม่ ร้านเด็ดเหล่านี้ก็กระจัดกระจายไปอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในเขตฝั่งธนบุรี
บะหมี่ปูแปะชุ้น

 

thumbnail

มีอยู่เจ้าหนึ่ง อากงหรือปู่อพยพมาจากเมืองจีนขายบะหมี่ปูอยู่ที่เชิงสะพานพุทธตั้งแต่ พ.ศ. 2495 จนกระทั่งราวปี 2510 ลูกชายรุ่นที่สองหันไปขายกาแฟแทน เมื่อปี 2557 หลานชายรุ่นที่ 3 อันมีนามกรว่า เฮียเปี๊ยก บรรจบ ซื่อสุทธิกุล กลับมาสร้างตำนานบทใหม่ กับร้านบะหมี่ปูแปะชุ้น (ตั้งตามชื่อของอากง) จึงขอพามาที่สี่แยกบ้านแขกในบัดดล

พ่อของเฮียเปี๊ยกได้ถ่ายทอดวิชาทำบะหมี่ปูไว้ให้ จึงกลับมาทำร้านใหม่ เริ่มจากที่เจริญนครปากซอย 18 จากนั้นย้ายไปแถวเสือป่า ต่อมามีการจัดระเบียบร้านค้าใหม่ เฮียเปี๊ยกจึงได้มาปักหลักขายในร้านทำผมเก่า เป็นตึกแถวคูหาเดียวใกล้สี่แยกบ้านแขกตั้งแต่ปลายปี 2558 เป็นต้นมา

ร้านนี้ไม่มีที่จอดรถ ไม่มีแม้กระทั่งห้องน้ำ ดังนั้นถ้าใครขับรถมาขอให้ไปจอดที่ห้างบิ๊กซี สาขาถนนอิสรภาพ (ไม่เสียค่าจอด) อย่าลืมพกถุงผ้าไปด้วยนะจ๊ะ จะได้อุดหนุนซื้อของที่ห้างเสียก่อน จากนั้นให้แวะเข้าห้องน้ำในห้างให้เสร็จสรรพ ก่อนเดินออกมาข้างหน้าริมถนนแล้วเดินเลี้ยวซ้ายย้อนกลับไปทางสี่แยกบ้านแขก เพียงประมาณ 100 เมตร ก็จะเห็นร้านบะหมี่แปะชุ้นอยู่ฝั่งเดียวกันด้านซ้ายมือ ใกล้ปากซอยอิสรภาพ 18

ที่นี่ทำกันในครอบครัวมีเฮียเปี๊ยก พี่อ๋อยภรรยา และน้องพีทลูกชาย(บางครั้งก็มีลูกสาวคนเล็กที่ยังเรียนอยู่มาช่วย) ด้วยความที่ลูกค้า 70 เปอร์เซ็นต์ คือนักเรียน นักศึกษา จึงมีเมนูสร้างสรรค์นอกเหนือจากบะหมี่ปูขึ้นมาอีกเพียบ นับได้ว่าเป็นร้านขวัญใจวัยรุ่นทีเดียว

ตรงข้างหน้าร้านจะตั้งรถเข็นใส่หม้อน้ำซุปทำจากน้ำต้มโครงไก่และปูม้าทั้งตัวลอยหน้าเต็มหม้อ เพื่อเพิ่มกลิ่นรสความหอมของน้ำซุป ซึ่งเนื้อปูที่โรยหน้าบะหมี่นั้นคือปูทะเล ไม่ใช่เนื้อปูม้า โดยจะออกไปจ่ายตลาดตอนตี 4 - ตี 5 จากเจ้าประจำที่ตลาดวงเวียนใหญ่ หรือไม่ก็ตลาดเก่าเยาวราช

ก่อนเดินผ่านประตูเข้ามา มีบทความของบล็อกเกอร์ดัง ๆ สรรเสริญถึงความอร่อยของบะหมี่ปูแปะชุ้นอยู่เต็มบานกระจก ที่ข้างในตั้งโต๊ะได้ประมาณ 7-8 ตัวเท่านั้น ติดเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ ข้างฝาผนังมีภาพสเก็ตช์ของแปะชุ้น อากงเฮียเปี๊ยก ยืนยกนิ้วโป้งการันตีความอร่อย

thumbnail

เมนูเด็ดซิกเนเจอร์เจ้านี้ย่อมต้องเป็นบะหมี่ปูใส่ไก่และหมูแดง อันประกอบไปด้วยบะหมี่เส้นกลมเล็กเหนียวนุ่ม สั่งทำเพิ่มไข่เป็นพิเศษจากเจ้าประจำที่ท่าดินแดง โรยหน้าด้วยปูทะเล ไก่ต้มฉีกใช้เนื้อสะโพก และหมูแดงทำเองไม่ใส่สี หน้าตาคล้ายหมูอบทำจากเนื้อหมูส่วนใกล้สันคอนุ่ม ๆ ราดกระเทียมเจียว โรยกากหมู ถ้าเป็นอย่างแห้งจะใส่ผักกาดหอม ส่วนบะหมี่น้ำจะใส่ผักกวางตุ้ง ข้อสำคัญคือสนนราคาเพียงชามละ 45 บาทเท่านั้น(พิเศษ 60 บาท) ราคาสบายกระเป๋าแบบนี้ แล้วจะไม่เป็นขวัญใจนักเรียนนักศึกษาได้อย่างไร

แนะนำว่าให้สั่งบะหมี่แห้งใส่เกี๊ยวกุ้งผสมหมูสับ แล้วขอน้ำซุปหอมกลิ่นปูม้ามาอีก 1 ถ้วยเล็ก(ให้จดในใบตอนสั่ง ขอแถมน้ำซุปมาเลย ไม่เสียตังค์เพิ่ม) สูตรบะหมี่ปูแปะชุ้นนี้ให้กินทั้งปู เนื้อไก่ และหมูแดงในคำเดียว จะได้กลิ่นรสและความหอมเข้ากันดีมาก เติมน้ำส้มพริกเหลืองตำเพิ่มรสชาติให้เข้มข้นยิ่งขึ้น

thumbnail

ส่วนใครที่ชอบจัดเต็มบะหมี่ปูใส่ก้ามปูทะเล ต้องมาวันเสาร์-อาทิตย์-จันทร์ 3 วันนี้เท่านั้น ก้ามปูสดเนื้อแน่นสะใจมาก(ชามละ 350 บาท) นอกจากนี้ยังมีเส้นเล็ก เส้นหมี่ให้เลือก อีกทั้งอยากเติมท้อปปิ้งอะไรให้ดูในเมนูได้เลย มีหลายอย่างเช่นไข่อบ(ฟองละ 10 บาท) ซึ่งไม่ใช่ไข่พะโล้ แต่อบกับน้ำหมูแดงจนกลายเป็นสีน้ำตาล

ชอบใจร้านนี้ตรงที่มีเมนูข้าวต่าง ๆ (หรือจะใส่บะหมี่แทนก็ได้)ให้กินหลากหลาย เฮียเปี๊ยกจัดให้ตามเสียงเรียกร้องของน้อง ๆนั กเรียน ที่ห้ามพลาดเลยเป็นอันขาดคือเมนูชื่อเก๋ พริกพสุธา(70-120 บาท) เป็นข้าว(หรือบะหมี่)ราดกุ้งแชบ๊วย หอมเครื่องซอสกระเทียมพริกไทยบดผสมกับพริกขี้หนูสวนและพริกจินดา มีรสเค็มอมหวานเล็กน้อยหอมเข้มข้นมาก จะใส่ปลากะพง(70-120 บาท) ปูม้า(100 บาท)ก็ได้

อีกอย่างที่ตั้งราคาดีมาก กลายเป็นเมนูโปรดของข้าพเจ้าไปแล้วก็คือ ข้าวซี่โครงรสโอชา ข้าวราดกระดูกหมูอ่อน ปรุงรสหวานมันเค็ม ใส่น้ำหมูแดง กากหมู น้ำมันงาและกระเทียมเจียว กินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด อิ่มอร่อยในสนนราคาเพียง 35 บาท(พิเศษ 45 บาท) หรือจะสั่งข้าวไก่อบ(35-45 บาท)ใช่ไก่เนื้อสะโพกนุ่ม ๆ หอมหวาน พอราดน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้วมีครบทุกรส ซึ่งเด็กวัยรุ่นกำลังโตที่กินจุ ๆ นิยมสั่งเมนูข้าวขนาดโคตรพิเศษ 60 บาทอีกด้วย ใส่ในชามกระเบื้องให้ปริมาณมากจุใจ

ต่อด้วยเมนูรสแซ่บ เผ็ดพงไพร(70-120 บาท) เป็นข้าวหรือบะหมี่ราดต้มยำแห้งกุ้งแชบ๊วย ใส่เครื่องต้มยำสมุนไพรบดเป็นซอสสำเร็จไว้เลย มีพริกเผา พริกขี้หนูสวนและพริกจินดาแดงแซ่บ ๆ เมนูนี้มีรสเปรี้ยวแซ่บเพิ่มขึ้นมาด้วย ถ้าชอบต้มยำน้ำข้น ให้สั่งแซ่บพิรุณ(70-120 บาท) บะหมี่หรือข้าวใส่ต้มยำกุ้งแชบ๊วยน้ำข้นผสมนมข้นจืดกับเครื่องต้มยำบด

ยังมีเมนูข้าวอื่น ๆ อีกหลายอย่างให้เลือก ร้านบะหมี่ปูแปะชุ้นเปิดสายหน่อยตั้งแต่ 11 โมงครึ่งไปจนถึง 3 ทุ่มครึ่ง โดยจะมีช่วงพักเปลี่ยนน้ำซุปตอนบ่าย 2 โมงถึง บ่าย 3 โมงครึ่งอีกด้วย(แต่ยังมีเมนูข้าวต่าง ๆ ขายอยู่ในช่วงพัก) ส่วนใหญ่ลูกค้าจะแน่นตอนเย็นตั้งแต่ 6 โมงเย็นไปจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง ร้านหยุดทุกวันอังคาร ขอเชียร์ให้มาชิมลิ้มลอง รับรองว่าต้องถูกใจแน่นอน