การแจ้งเตือน ()
  01/02/2020

ลาบอ้ายแดง ลำพูน

ที่เมืองลำพูนก็เช่นกัน ได้เจอร้านลาบอาหารเมืองขึ้นชื่อแห่งเมืองหละปูนสุดแสนประทับใจ เปิดมานาน 11 ปีแล้ว ตอนกลางวันมีขาประจำทั้งคนทำงานข้าราชการมาอุดหนุนกันตรึม ถึงขนาดต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีแย่งกันชิม ร้านนี้มีชื่อว่าลาบอ้ายแดง
ลาบอ้ายแดง ลำพูน

จากประสบการณ์ที่ได้ตระเวนชิมทั่วทุกทิศทั่วไทยมานาน จึงค้นพบว่าร้านอร่อยชื่อดังประจำแต่ละจังหวัด จะเล็กใหญ่เก่าใหม่ไม่เป็นไร แต่สำคัญต้องเป็นร้านที่เจ้าของลงมือปรุงอาหารด้วยตัวเอง เห็นได้ชัดว่าร้านไหนเจ้าของใส่ใจทำเอง ร้านนั้นอร่อยผิดหูผิดตา ที่เมืองลำพูนก็เช่นกัน ได้เจอร้านลาบอาหารเมืองขึ้นชื่อแห่งเมืองหละปูนสุดแสนประทับใจ เปิดมานาน 11 ปีแล้ว ตอนกลางวันมีขาประจำทั้งคนทำงานข้าราชการมาอุดหนุนกันตรึม ถึงขนาดต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีแย่งกันชิม ร้านนี้มีชื่อว่าลาบอ้ายแดง

image description

ทางไปร้านให้ตั้งต้นที่แจ่มฟ้าช้อปปิ้งมอลล์ แล้วเลี้ยวขวาที่สามแยกป่าสัก มาตามถนนเลี่ยงเมืองลำพูน สาย 116 เพียง 1 กิโล แล้วเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกถัดไป ซึ่งคนลำพูนเรียกว่าสี่แยกโรงแรมเอทีเอ็ม จากนั้นเลี้ยวซ้ายอีกครั้งเข้าซอยแรกทันที เข้ามานิดเดียวก็จะเห็นร้านลาบอ้ายแดงอยู่ข้างหน้า เป็นบ้านชั้นเดียว มีที่จอดรถหลายจุดโดยรอบ คุณนงลักษณ์ ภรรยาของอ้ายแดง (คุณชัชวาล) พื้นเพเป็นคนเชียงราย เคยขายอาหารอยู่หน้าเครือสหพัฒน์ลำพูน จากนั้นจึงออกมาเป็นแม่ครัวว่าการเรื่องอาหารเองที่ร้านนี้ ฝีมือเด็ดขาดจนคนติดกันงอมแงม มาร้านนี้ควรรีบมาตอนสาย ๆ ประมาณ 10 โมงเช้า ซึ่งตอนนี้จะมีของทุกอย่างทำเสร็จครบถ้วนแล้ว ก่อนที่คนจะแน่นตอน 11 โมงเช้าถึงบ่ายโมง อยากกินอะไรให้ทำเครื่องหมายจดจำนวนที่ต้องการในเมนูกระดาษแผ่นยาว ๆ ซึ่งมีให้ตามโต๊ะ มีทั้งหมดประมาณ 20 อย่าง

image description

ของดีที่มีจำนวนจำกัดห้ามพลาดเป็นอันขาดคือ หางหมูกรอบ (50 บาท) ซึ่งเขาจะเอาหางหมูมาคลุกเกลือแล้วลงทอด จนหนังกรอบฟู เนื้อในนุ่ม ๆ หอม ๆ แทะมัน อร่อยกว่ากินหมูกรอบ ซึ่งวันที่ไปชิมมีแค่ 10 กิโล 30 จานเท่านั้น หมดแล้วหมดเลย ควรโทรจองนะจ๊ะ มาร้านลาบแน่นอนว่าต้องมีลาบขึ้นชื่อประจำร้าน ทั้งลาบหมูใส่เครื่องใน (50 บาท) และลาบควาย ทั้งดิบและสุก (50 บาท) ซึ่งคนเหนือจะชอบกินลาบดิบสีแดงสด ส่วนผมชอบกินลาบคั่ว หอมพริกลาบซึ่งที่ร้านซื้อมาปรุงเพิ่มเอง ลำแต๊ ๆ นัวอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา คนกินเนื้อได้ให้สั่งลาบควายยิ่งอร่อย นอกจากนี้ยังมีส้าเนื้อทั้งดิบและสุก (50 บาท) ใส่ผ้าขี้ริ้วและตับ ปรุงด้วยน้ำดี หอมแดง ตะไคร้ซอย และต้นหอม เมนูเนื้ออาหารเมืองอีกอย่างคือ แกงอ่อมเนื้อ (50 บาท) ใส่เนื้อติดมันสามชั้นและเครื่องในอย่างเช่นปอดนุ่ม ๆ เครื่องแกงอ่อมแสนอร่อยนั้น ทางร้านทำเอง เก็บใส่หม้อไว้ใช้ได้ทีละ 1 อาทิตย์

image description

และที่ห้ามพลาดเช่นกันคือต้มแซ่บเนื้อ (50 บาท) ใส่เนื้อสามชั้นหอมมัน รสแซ่บหอมพริกขี้หนูทุบ ปรุงด้วยขึ้นฉ่าย อีกอย่างที่เด็ดมากคือจิ้นนึ่ง (60 บาท) หรือเนื้อน่องลายนึ่งนุ่ม ๆหนึบ ๆ จิ้มกับน้ำพริกข่า ส่วนคนไม่กินเนื้อก็มีเมนูหมูสารพัดอย่างสุดยอดทั้งนั้น ให้สั่งต้มซี่โครงหมู (50 บาท) ใส่ซี่โครงหมูอ่อนต้มนานครึ่งชั่วโมงจนได้ที่ เปรี้ยวหอมจัดจ้านถึงเครื่อง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมใหญ่ และขมิ้น ใส่ทั้งพริกแห้งและพริกขี้หนูสด อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือยำตับหวาน (หมู) (50 บาท) ชิ้นโต ๆ หนานุ่มสดอร่อย ปรุงด้วยข้าวคั่ว อร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านอีสาน ต่อด้วยแกงฮังเล (50 บาท) ใส่เนื้อสันคอหมูติดมันนุ่มอร่อย ปรุงพริกแกงเพิ่มใส่น้ำมะขามเล็กน้อยไม่เปรี้ยวจนเกินไป รสกลมกล่อมนัวมาก เมนูพื้นบ้านซึ่งเป็นของหายากในกรุงเทพฯ น้อยร้านที่จะมี ได้แก่แป้งนมย่าง (60 บาท)หรือนมหมูย่าง ร้านนี้ย่างได้นุ่มหอมมากที่สุดเท่าที่เคยกินมาทีเดียว หรือจะสั่งหมูย่าง (50 บาท)แทนก็ได้

image description

เมาเมืองเหนือต้องกินแหนมหรือจิ้นส้ม (2 ห่อ 30 บาท) ซึ่งจะซื้อมาหมกเองจนสุกนุ่มหอมเปรี้ยว ๆ แคบหมู (50 บาท) ก็ทอดเอง รีดมันออกแล้วทอดจนกรอบอร่อยชิ้นยาว ๆ และก็มีต้มยำไส้ตัน (50 บาท) ใส่ผักไผ่หรือผักแพวหอม ๆ ด้วย ไส้ตันนุ่มกรอบเด้ง สนนราคาอาหารทุกอย่างคือ 50 บาทเท่านั้น ยกเว้นแป้งนมย่างกับจิ้นนึ่งที่คิด 60 บาท สรุปว่ามาร้านอ้ายแดง สั่งอะไรมาชิมก็ถูกใจไปหมด คุณนงลักษณ์เพิ่งบอกว่ายังขาดอีก 1 อย่างที่ยังไม่ได้ลิ้มลองคือ อบปลาดุก หน้าตาคล้ายฉู่ฉี่แต่ไม่มีกะทิ ปรุงด้วยพริกแห้ง ตะไคร้ หอมแดง หอมใหญ่ ใบมะกรูด ขมิ้น กระเทียม ไม่เป็นไรคราวหน้าต้องแวะมาชิมใหม่อีกแน่นอน

image description

ใครมาเที่ยวเชียงใหม่ ขอให้ตั้งใจมาเที่ยวลำพูนด้วย แค่ครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ขอเชียร์ให้มาชิมร้านลาบอ้ายแดงให้จงได้ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึง 4 โมงเย็น (ถึงแม้จะบอกว่าเปิดถึง 6 โมงเย็น แต่ส่วนใหญ่อาหารหมดก่อนตั้งแต่บ่าย 4 โมงตลอด) มาไม่ถูกโทรถามทางได้ที่ 08-1300-0921 นะจ๊ะ