ร้านอาหารอร่อย ต่อให้อยู่ในซอกลึกลับ ก็ยังมีคนดั้นด้นค้นหา บุกป่าฝ่าดงไปชิมให้จงได้ ร้านปลา 3 น้ำก็เช่นกัน ขายอยู่ในบ้าน ทางไปหลายเลี้ยวซับซ้อน แต่ใคร ๆ ก็นิยมชมชอบ รวมทั้งแต่ก่อนคุณชายถนัดศรีก็เคยไปลิ้มลองมาแล้วหลายครั้งตั้งแต่เขาเปิดร้านใหม่เมื่อพ.ศ. 2545 ความจริงทางไปไม่ยากหรอก เพียงแต่ว่าเมื่อเข้าซอยไปแล้วต้องเลี้ยวเยอะหน่อย ให้ตั้งต้นที่ถนนแจ้งวัฒนะ วิ่งผ่านเมืองทองธานีและเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ มาที่ไฟแดงห้าแยกปากเกร็ด (ห้ามขึ้นสะพานพระราม 4 เป็นอันขาด) แล้วเลี้ยวขวาลอดใต้สะพานเข้าถนนติวานนท์ เพียง 200 เมตรจากห้าแยก ให้ชิดซ้ายเข้าซอยติวานนท์-ปากเกร็ด 15 (ซอยที่ 2 นับจากแยกไฟแดง) ปากซอยมีป้ายการเคหะแห่งชาติ โครงการเคหะชุมชนและบ้านเอื้ออาทร นนทบุรี เป็นจุดสังเกต และปากซอยนี้อยู่ข้างปากอุโมงค์ทางลอดของถนนติวานนท์เลย
เข้าซอยไปแล้ว เลี้ยวขวาซ้ายขวาซ้ายไปตามทางหลักประมาณ 800 เมตร จนเห็นตู้เอทีเอ็มของธ.กรุงไทยทางขวามือ (ถัดจาก 7-11) ให้เลี้ยวขวาซอยที่ 2 นับจากตู้เอทีเอ็ม(ซอยถัดไปจากซอยที่ติดตู้) วิ่งมาอีก 250 เมตรจนถึงสี่แยกเล็ก ๆ ของหมู่บ้านในซอยนี้ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที จากนั้นอีกไม่กี่เมตรก็เลี้ยวขวา วิ่งผ่านแฟลตการเคหะทางซ้ายมือ (มี 4 ตึก) จนสุดตึกที่ 4 แล้วเลี้ยวซ้ายอีกครั้ง เข้าไปนิดเดียวก็จะเห็นป้ายร้านปลา 3 น้ำอยู่ทางขวามือ ส่วนที่จอดรถนั้นจอดริมซอยหน้าร้านได้เลย แต่ถ้าเต็มให้ถามที่ร้านเพื่อบอกทางอ้อมไปด้านหลังร้าน แล้วจอดในซอยตันข้างๆร้าน ร้านปลา 3 น้ำตั้งอยู่ในทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หลังแฟลต 4 การเคหะ ซึ่งย้ายมาจากที่เก่าด้านหน้าสมัยที่คุณชายถนัดศรีมาชิมได้ 10 กว่าปีแล้ว ซึ่งที่นี่เมื่อ 4 ปีก่อนเพิ่งปรับปรุงร้านใหม่ยกฝ้าเพดานสูงขึ้น จึงนั่งสบายไม่อึดอัด เป็นห้องปรับอากาศจุลูกค้าได้ประมาณ 60 คน เจ้าของร้านคือ คุณสนั่น สมควร ในวัยเกือบ 70 ปี พื้นเพเป็นคนอุบลราชธานี (ตอนนี้คือจังหวัดอำนาจเจริญ) ประกอบอาชีพซื้อขายปลาสดและกุ้งแม่น้ำ มาตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งวันที่เรากลับมาทบทวนความอร่อยนั้นคุณสนั่นก็ออกไปส่งกุ้งแม่น้ำกับลูกชายคนเล็ก ด้วยเหตุนี้คุณสนั่นจึงรู้ทะลุปรุโปร่งว่า เดือนไหน หน้าไหน แหล่งไหนมีปลา ปู กุ้ง หอยอะไรดี จึงกล้ารับประกันเรื่องความสดของปลาได้เลย
ชื่อปลา 3 น้ำ นั้น ต้องการสื่อให้รู้ว่า ที่ร้านมีอาหารจานปลา ทั้งปลาน้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเค็ม ครบทุกน้ำ มาแล้วจะสั่งอะไรดีล่ะ ขอตอบกำปั้นทุบดินว่า วันนั้นเขาได้อะไรมาสด ๆ ก็ให้กินอย่างนั้น สอบถามได้เลยว่ามีอะไรบ้าง และขนาดใหญ่แค่ไหน ซึ่งร้านนี้ลูกค้านิยมมาเป็นหมู่คณะเพื่อเลี้ยงฉลองสั่งแต่ของดี ๆ สด ๆ ตัวโต ๆ อย่างเช่นวันนั้นที่ร้านมีปลาเนื้ออ่อนขนาดตัวละ 3 ขีด (ราคาคิดตามน้ำหนัก ขีดละ 65 บาท) บางครั้งก็มีตัวใหญ่ไซส์บิ๊กเบิ้ม ขนาด 1-2 กิโลทีเดียว ตัวใหญ่อย่างนี้ให้เอามาทำปลาเนื้ออ่อนย่างเตาถ่านหอม ๆ โดยจะคลุกโชยุหรือซีอิ๊วญี่ปุ่น เกลือ พริกไทย แล้วนำไปย่าง จิ้มน้ำจิ้มแซ่บ ๆ แกล้มกับผักต้ม และวันนั้นยังสั่งฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนหอมเครื่องแกงมาเพิ่มอีกด้วย อีกอย่างที่ห้ามพลาดเลยคือ ปลาคังลวกหนังหนึบอร่อย (จานละ 220 บาท) จิ้มกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ตัวนี้ยาวเกือบเมตร หนักถึง 10 กิโล บางครั้งก็ได้ตัวใหญ่มหึมา 20 กิโลก็มี ถ้าชอบเผ็ดหอมก็ให้สั่งปลาคังผัดฉ่า
และที่สุดยอดมาก ๆ คือกุ้งแม่น้ำเผาตัวเบ้อเริ่ม ขนาด 2 ตัวหนักกิโลกว่าก็มี เราสั่งขนาด 3 ตัว/กิโล (กิโลละ 1,600 บาททั้ง 2 ขนาด) อีกทั้งขนาด 4 ตัว/กิโล (กิโลละ 1,300 บาท) มาอย่างละ 1 กิโลกรัมเลย สดอร่อยขนาดนี้ก็เพราะว่าคุณสนั่นส่งกุ้งแม่น้ำให้ร้านอาหารต่าง ๆ อยู่แล้ว กุ้งแม่น้ำผ่าครึ่งซีก มันกุ้งเยิ้ม ๆ เต็มหัว ย่างเตาถ่าน ปิดฝาให้สุกระอุ อร่อยหอมมัน คลุกข้าวราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดเข้มข้น ส่วนก้ามกุ้งที่เหลือ เอาไปทำก้ามกุ้งผัดยอดคะน้าอ่อน ๆกรอบ ๆ และก้ามกุ้งผัดบร็อคโคลี่ (จานละ 120 บาททั้งคู่ แต่ถ้าสั่งเพิ่มต่างหาก คิดจานละ 140 บาท) กุ้งแม่น้ำนี้ยังมีขนาดย่อมลงมา 5 ตัว/กิโล กิโลละ 1,100 บาทด้วย ซึ่งเมนูกุ้งแม่น้ำอื่นๆ ที่ร้านจะขายเป็นจาน ใช้กุ้งแม่น้ำขนาด 6 ตัว/กิโล ให้จานละ 2 ตัว(300 บาททุกเมนู) มีตั้งแต่กุ้งเต้นแซ่บจี๊ดจ๊าด กุ้งพล่าใส่พริกเผา กุ้งทอดกระเทียม กุ้งทอดเกลือ ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (ถ้วย 200 บาท หม้อไฟ 300 บาท) น้ำข้นคลั่กรสจัด ถ้าสั่งเป็นกุ้งใหญ่ต่างหาก แล้วให้ทำ 2 อย่าง เช่นกุ้งแม่น้ำเผากับต้มยำกุ้ง จะคิดค่าปรุงเพิ่ม 80 บาทเท่านั้น
วันไหนมีปูทะเล ต้องลองปูทะเลนึ่งเนื้อสดหวาน ก้ามโตมโหฬาร เน้นปูเนื้อทั้งปูขาวและปูดำ ไซส์ใหญ่หนัก 7 ขีด - 1 กิโล (กิโลละ 1,600 บาท ส่วนตัวเล็ก 5-6 ขีด ขายกิโลละ 1,300 บาท) นอกจากนี้ก็มีปูทะเลผัดผงกะหรี่ ผัดพริกไทยดำ ผัดพริกสด ถ้าไม่สั่งเป็นตัว ก็มีเนื้อปูไซส์จัมโบ้ ขายจานละ 480 บาท ยังมีเชิงปลากรายทอด (160 บาท หนัก 3 ขีด จะผ่าครึ่งซีกให้แล้วทอด ) ซึ่งเนื้อเยอะสุดเท่าที่เคยกินมา เพราะใช้ปลากรายหนัก 5-6 กิโลขึ้นไป เชิงปลากรายจึงมีเนื้อเช่นนี้ และมีปลาเนื้ออ่อนตัวเล็กทอดกรอบ ๆ กินได้ทั้งตัว ที่นี่เรียกว่าปลาปีกอินทรีทอด (160 บาท) จิ้มซอสพริกเข้ากันดี นี่ก็ห้ามพลาด เมนูปลาทุกชนิดที่ทำเป็นจานจะคิดจานละ 220 บาทเท่ากัน ถ้าทำเป็นต้มยำปลาหม้อไฟ 220 บาท และเป็นถ้วย 180 บาทเท่ากันหมด ปลาม้าก็สดมาก ไม่มีกลิ่นโคลนเลยแม้แต่นิดเดียว ทำต้มยำปลาม้า ใส่ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย พริกขี้หนูสวนและพริกจินดาแดง รสจัดสุดยอด และปลาม้านึ่งมะนาวเปรี้ยวหอมแกล้มมะระสดก็ใช้ได้เช่นกัน ที่ร้านยังมีปลาบึก ปลายี่สก ปลากะพงขาว ปลาช่อนนา และปลากระบอกขายอีกด้วย
ปลาชนิดที่ขายเป็นตัว ๆ ก็มีด้วย เช่นปลาเต๋าเต้ย วันนี้ได้ตัวหนัก 9 ขีด (กิโลละ 1,200 บาท) ทำเต๋าเต้ยต้มบ๊วยเปรี้ยว ๆ หอม ๆ เนื้อมัน ๆ อร่อยมาก คนชอบกินปลาทอดให้สั่งปลาใบขนุนทอดกรอบ ๆ (ขนาด 4-7 ขีด กิโลละ 850 บาท) ส่วนปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว เมนูดั้งเดิมก็ยังมีขายอยู่ วันนี้ได้ปลาบู่ขนาด 6 ขีด (ขีดละ 100 บาท) นึ่งกับซีอิ๊วญี่ปุ่นผสมน้ำมันงาและเหล้าจีน นอกจากเมนูปลาแล้ว หอยแครงลวก (130 บาท) ร้านนี้ก็สดอร่อย จนต้องสั่งเพิ่มอีกจาน
สรุปได้ว่าปลา 3 น้ำนั้นมีกุ้งหอยปูปลาสด ๆ หลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล เหมาะสำหรับมาเลี้ยงเป็นหมู่คณะ ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง แต่ปิดเร็วหน่อยแค่ 3 ทุ่ม (ครัวปิด 2 ทุ่มครึ่ง) หยุดทุกวันพุธที่ 2 ของเดือน ควรโทรมาจองโต๊ะและกุ้งปูปลาก่อนล่วงหน้าที่เบอร์ 0-2964-2414 และ 08-1278-0273 อย่าลืมว่าร้านปลา 3 น้ำนี้รับแต่เงินสดกับโอนเงินเท่านั้นนะจ๊ะ
