แปลกแต่จริง ข้าวต้มปลาคือของอร่อยหากินยากในกรุงเทพฯ ที่มักจะมีให้ลิ้มลองเฉพาะในยามค่ำคืนเท่านั้น ร้านดัง ๆ แทบทุกเจ้าจะเปิดขายในช่วงแดดร่มลมตกไปจนถึงยามดึก คงเป็นเพราะว่าสภาพอากาศในเมืองกรุงตอนกลางวันนั้นอบอ้าวเสียจนไม่สามารถกินข้าวต้มปลาให้สดชื่นได้ ครั้นจะทำเป็นห้องปรับอากาศ เคยสอบถามเจ้าของร้านก็ได้คำตอบว่าจะทำให้ข้าวต้มปลาเย็นชืดอย่างรวดเร็วจนหมดอร่อย
และข้าวต้มปลาชื่อดังติดอันดับท็อปในเมืองกรุง ร้านโปรดตลอดกาลในดวงใจต้องยกให้ร้านนี้เลย ข้าวต้มปลากิมโป้ ปากตรอกจันทน์ เรียกกันติดปากว่าข้าวต้มปลากิมโป้ เปิดมาเกือบ 70 ปีแล้ว ขึ้นชื่อเรื่องความสดอร่อย มีเครื่องเคราให้เลือกหลากหลาย ราคาสมเหตุสมผล เมื่อเทียบกับคุณภาพปลาถือว่าไม่แพงเลย ไปชิมทีไรไม่เคยผิดหวัง
นี่เป็นสาเหตุที่ว่าในช่วงศุกร์-วันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์จะมีลูกค้าไปยืนออรอหน้าร้านและจับจองโต๊ะกันเต็มไปหมด ตั้งแต่บ่าย 4 โมงครึ่งก่อนร้านเปิดด้วยซ้ำ(ร้านเปิด 5 โมงเย็น แต่อากงอาม่าจะมาจับกลุ่มคุยกันก่อนแล้ว) และจะหนาแน่นไปจนถึง 4 ทุ่ม จนเดี๋ยวนี้ต้องใช้วิธีการให้มาลงคิวหน้าร้านก่อน
เจ้าของร้านข้าวต้มปลากิมโป้ คือเฮียฮ้อ เถ้าแก่ผู้มีอารมณ์ดี คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง มีลีลาการพูดแพรวพราว เรื่องบริการแสนจะดีเลิศไม่เป็นรองใคร ทำเอาลูกค้าติดใจไปตาม ๆกัน ต้องกลับมาแวะเวียนชิมแล้วชิมอีก
เฮียฮ้อเล่าว่าเตี่ยของเฮียฮ้อชื่อกิมโป้เป็นผู้เริ่มทำร้าน ซึ่งเถ้าแก่ร้านข้าวต้มปลาในสมัยนั้นมีอยู่เพียง 7 ราย ทุก ๆ เช้ามืดจะมารวมตัวนั่งจิบน้ำชากันเพื่อรอเวลาไปประมูลปลาที่สะพานปลา เฮียฮ้อบอกว่าตอนนั้นเตี่ยไม่ได้ประมูลเป็นตัว ๆ นะ แต่เล่นกันเป็นเข่งเลย ทุกวันนี้เฮียฮ้อก็ยังประพฤติปฏิบัติเช่นบรรพบุรุษ ไปซื้อปลาที่สะพานปลายานนาวาตอนเที่ยงคืนเพื่อรอของเข้า และคัดปลาด้วยตัวเอง ไม่เคยขาด นี่แหละคือเคล็ดลับความอร่อย ว่าทำไมปลาเจ้านี้ถึงเนื้อสดหวานเสียจริง ๆ
ตอนนี้โชคดีมากมีลูกชายรุ่นที่สามชื่อหนุ่ย หรือปองพล ปัญญาวิสุทธิกุล มาสานต่อกิจการ ไปซื้อปลาด้วยกันกับพ่อ(บ้านนี้มีลูก 9 คน มาช่วยจริง ๆ 3 คน) ทำให้มั่นใจได้ว่าพวกเราจะได้กินข้าวต้มปลาดี ๆ ไปอีกนาน
ทางไปร้านนั้นไม่ยากเลย อยู่หัวมุมสามแยกตรอกจันทน์ ริมถนนเจริญกรุง เยื้อง ๆ กันกับโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี ช่วงหัวค่ำจอดรถได้ริมถนนจันทน์ ที่หน้าร้านเฮียฮ้อติดป้ายกล่องไฟสว่างไสว เขียนว่าข้าวต้มปลาเจ้าเก่า ปากตรอกจันทน์(กิมโป้) สูตรดั้งเดิมขนานแท้(สูตรเตี่ยผมเอง)
อยากกินอะไรเชิญมายืนดูของทะเลสด ๆ หน้าร้านตรงที่เขาทำข้าวต้ม แล้วเปิดเมนูตามโต๊ะเลือกสั่งได้เลย แต่ละวันจะมีชนิดปลาไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าช่วงนั้นที่ตลาดสะพานปลาได้ของอะไรมาบ้าง ดังนั้นจึงควรสอบถามโดยตรงจากพนักงานก่อนสั่ง
มาที่นี่แล้วไม่ได้ชิมยำรวมมิตร(200 บาท) ถือว่ามาไม่ถึง จัดอยู่ในระดับยำขั้นเทพ นี่แหละคือรสชาติยำที่ผมชื่นชอบคุ้นเคยตั้งแต่เด็ก ๆ รสจัดจ้านหอมมะนาว รสเค็มอมเปรี้ยวและเผ็ดพริกขี้หนูสะใจ ใส่กุ้งแชบ๊วยตัวโต ๆ ปลาหมึกหอมสด ๆ และปลาเก๋าเนื้อแน่น ๆ สดหวาน และมีเครื่องเคราอีกมากมายทั้งหมูบะเต็ง กุ้งแห้ง ขึ้นฉ่าย ตั้งฉ่าย และข่าป่น อยากใส่ของทะเลแปลก ๆ อื่น ๆ ก็มีให้เลือกเพียบสั่งเพิ่มได้ ทั้งกระเพาะปลาสด พุงปลา ไข่ปลา หัวปลา หนังปลา ตับปลา เรียกได้ว่าครบเครื่องเรื่องทะเลจริง ๆ
ส่วนข้าวต้มปลานั้นมีให้เลือกหลายชนิด ที่ขายดีมาก ๆ และมียืนพื้นคือข้าวต้มปลาเก๋า (150 บาท)เนื้อแน่นเด้ง ๆ ดึ๋ง ๆ เคี้ยวได้เต็มคำ น้ำซุปทำจากน้ำต้มกระดูกปลาก้างปลาไม่มีกลิ่นคาวแม้แต่น้อยนิด ใครไม่อยากกินข้าว สั่งเกาเหลาปลาเก๋าแทนก็ได้(200 บาท) และก็มีข้าวต้มปลากะพง(100 บาท) ซึ่งมีประจำเช่นกัน ใครชอบรสจัด ๆ แบบผม ให้ปรุงเพิ่มด้วยเต้าเจี้ยวที่ทางร้านปรุงเองกับมีน้ำส้มพริกตำผสมเต้าเจี้ยวที่เด็ดมาก ได้รสเผ็ดเปรี้ยวหอมสะใจ
ถ้าโชคดีบางวันจะได้ปลาเก๋าแดงมาด้วยเป็นพิเศษ ให้รีบสั่งทันที ถึงแม้จะแพงกว่าปลาเก๋าปกติถึงเท่าตัว(ชามละ 300 บาท) แต่ก็อร่อยคุ้มค่าน่าลิ้มลอง
ยังมีทีเด็ดสุด ๆ คือข้าวต้มปลาเต๋าเต้ยซึ่งเป็นญาติกับปลาจะละเม็ด(400 บาท) ให้เต๋าเต้ยชิ้นโต ๆ มาเต็มชาม เจ้าประคุณเอ๋ย เนื้อนุ่มมันรสละมุนนุ่มนวลเสียจริง เดี๋ยวนี้เต๋าเต้ยกลายเป็นปลาหายาก เพราะอยู่ในน้ำลึก ถ้ามีให้รีบตะครุบเลยนะจ๊ะ และวันไหนถ้ามีปลาเต๋าเต้ยให้ถามหาก้างปลาเต๋าเต้ยทอดกรอบ(150 บาท) รับรองว่ากรอบ ๆ เคี้ยวเพลิน หยุดไม่ได้จริง ๆ ทางที่ดีควรโทรมาสอบถามและจองล่วงหน้าตอนบ่าย 3 โมงจะดีที่สุด
นานทีปีหนถ้ามีปลากุเลาก็ให้รีบสั่งเลย เนื้ออร่อยเช่นกัน(ข้าวต้ม 150 เกาเหลากับยำ 200 บาท) บางครั้งฟลุก ๆ ก็ได้ปลาหมอทะเลขนาดยักษ์มากำนัลลูกค้า(ข้าวต้ม 150 เกาเหลากับยำ 200 บาท) เชิญไปดูรูปข้างฝา ปลาหมอทะเลตัวใหญ่กว่าคน หนัก 150 กก. และปลากุเลาหนวดยาว ขนาด 170 ซม. หนัก 59 กก.
ความเร้าใจเวลามาร้านนี้อยู่ที่การลุ้นว่าวันนี้ได้ปลาอะไรพิเศษมาบ้าง เขาไม่ใช้ปลาแช่แข็งให้เสียชื่อ วันไหนคลื่นลมแรง อาจไม่มีปลาเลยก็ได้
และตอนนี้ที่ร้านเพิ่มเมนูหอยแมลงภู่และหอยนางรมทอดมาอีกด้วย อร่อยใช้ได้เช่นกัน(หอยแมลงภู่ทอด 50 บาท หอยนางรม 100 บาท หอยทอดทะเลรวม 120 บาท)
ร้านข้าวต้มปลากิมโป้ ปากตรอกจันทน์ เปิดขายเฉพาะตอนเย็นย่ำค่ำคืน ตอนนี้ปรับเวลาใหม่เป็นตั้งแต่ 5 โมงเย็นถึง 5 ทุ่มครึ่ง ทุกวัน โทรสอบถามว่าคืนนี้มีปลาอะไรบ้างได้ที่เบอร์ 06-1789-4665 นะจ๊ะ
ตอนนี้พี่สาวและน้องสาวเฮียฮ้อไปเปิดร้านสาขาที่ 2 ใช้ชื่อว่า ข้าวต้มปลากิมโป้ เฮียฮ้อ ตรอกจันทน์ อยู่ในตึกแถวริมถนนพระราม 2 เลยทางเข้าหมู่บ้านชิชาไปเพียง 50 เมตร โทร 095-229-4490 และน้องหนุ่ยลูกชายก็เพิ่งเปิดสาขาที่ 3 ในตึกแถวริมถนนบรรทัดทอง ระหว่างจุฬาฯซอย 12 และ 14 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2563 นี้เอง โทร 081-659-2499 โดยจอดรถได้ที่อาคารมั่นคง เข้าทางจุฬาฯซอย 10 ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นได้เลย