สุดยอดร้านยากินิกุปิ้งย่างคุณภาพพรีเมียมเหมือนได้กินเนื้อวากิวในประเทศญี่ปุ่น ที่อยู่ในกระแสความนิยมอินเทรนด์เสมอมา ก็คือร้าน Ginzado(กินซาโดะ) มากี่ครั้งก็ยังเห็นมีลูกค้าแวะเวียนมาเต็มร้านไม่ขาดสาย จุดเด่นของร้าน Ginzado อยู่ที่มีเจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่น รู้ซึ้งถึงเรื่องการเลี้ยงวัวและการคัดเนื้อคุณภาพ มีฟาร์มเลี้ยงวัวไทยวากิวในไทยที่ทำสัญญากันไว้ เลี้ยงอย่างดีไม่มีการใช้สารเร่งหรือฮอร์โมนใด ๆ จึงได้เนื้อดีเหมือนเนื้อวากิวญี่ปุ่น อีกทั้งที่ร้านทำบริษัทส่งเนื้อเองจึงคัดแต่ของดีมีคุณภาพในราคาเหมาะสมไม่แพงจนเกินไป และเนื้อที่ใช้จะไม่ใช่เนื้อแช่แข็ง แต่เป็นเนื้อแช่เย็น(Chilled) ซึ่งมีผลดีต่อรสชาติและคุณภาพของเนื้ออย่างมาก
ตอนนี้ Ginzado มีทั้งหมด 3 สาขา ที่แรกอยู่ในซอยสุขุมวิท 26 เข้าไป 400 เมตรจากปากซอยด้านสุขุมวิท ทางเข้าร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ สาขานี้มีร้านขายเนื้อให้ซื้อกลับบ้านด้วย ส่วนอีก 2 แห่งจะอยู่ที่ในซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55 คือที่ปานจิตต์ทาวเวอร์ ระหว่างทองหล่อซอย 5 และซอย 7(ติดโรงแรม Somerset) ส่วนอีกแห่งอยู่ใกล้ปากซอยทองหล่อ เพิ่งเปิดมาไม่นานมากใช้ชื่อว่า Grand Ginzado อยู่ที่ชั้นล่างของ Hotel Verve จอดรถได้ที่ โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพ (Hotel Nikko Bangkok) ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกัน แค่เดินข้ามตึกมาก็ถึงแล้ว สาขานี้มีห้องส่วนตัวถึง 5 ห้อง เมนูของทุกสาขานั้นจะเหมือนกันหมด มาร้านนี้แค่กินเนื้อในเมนูปกติก็อร่อยเลิศเลอแล้ว มีสูตรสำเร็จที่ชอบสั่งกัน คือเมนูเนื้อเบอร์ A1 ซี่โครงเนื้อคัดพิเศษอย่างดี(Tokujyou Karubi)(590 บาท++) เบอร์ A5 เนื้อสันนอกคัดพิเศษอย่างดี((Tokujyou Rousu)(550 บาท++) และเบอร์ A14 เนื้อใบพาย(Misuji) (350 บาท++) ยิ่งชิมยิ่งถูกใจว่าเนื้อร้านนี้มีมันแทรกทุกอณูอร่อยเหมือนกินเนื้อวากิวในญี่ปุ่นจริง ๆ
ด้วยความนิยมในเนื้อเหล่านี้จึงทำให้บางเมนูอาจจะหมดก่อนเป็นบางครั้ง แต่ขอบอกว่าเมนูอื่นหรือเบอร์อื่น ๆ ก็อร่อยมีคาแรคเตอร์โดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น เนื้อกระบังลมคัดพิเศษ(Jyou Harami)(350 บาท++) ที่มีกลิ่นรสเข้มข้นเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีเนื้อพิเศษที่แยกอยู่ในเมนูเป็นแผ่น ๆ(Special Menu) ก็คุณภาพยิ่งดีขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับผู้ที่อยากไปให้ถึงที่สุด เช่น Tokujyo Misuji หรือเนื้อใบพายคัดพิเศษอย่างดี(580 บาท++)(ในเมนูพิเศษมีแต่ภาษาอังกฤษ) ก็นุ่มหอมมันเพิ่มไปอีกขั้น ส่วนเมนูพิเศษอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่าวากิว(Wagyu)ก็สุดยอดทุกรายการ แน่นอนว่าราคาย่อมสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ยังไม่แพงมากเมื่อเทียบกับบางร้านที่ขายเนื้อพิเศษ สำหรับคนชอบกินเนื้อ ควรจะสั่งลิ้นวัว(A17 250 บาท++ A16 คัดพิเศษ 480 บาท++)มาเพิ่มอีก มีทั้งหมักเกลือและหมักซอส ถ้าอยากได้รสชาติหอมแท้ ๆ ของลิ้นวัวก็ให้สั่งชนิดหมักเกลือ พอย่างเสร็จให้บีบมะนาวเหลืองเพิ่มลงไปด้วย ใครไม่กินเนื้อ เมนูหมูของ Ginzado ก็ใช้ได้เช่นกัน มีคำยืนยันมาจากสมาชิกที่ไม่กินเนื้อ เลือกสั่งได้ตั้งแต่เนื้อหมู(Buta)(160 บาท++) สำหรับคนที่ไม่ชอบมันมาก หรืออยากกินที่หอมมันไปเลยก็ให้สั่ง หมูสามชั้นเกรด A(Buta Bara)(180 บาท++) และคอหมูย่างคัดพิเศษ(Ton Toro)(220 บาท++)
พวกอาหารทะเลก็ดีเช่นกัน มีทั้งกุ้งทะเล(300 บาท++) หอยเชลล์(450 บาท++) และปลาหมึกหรือจะเลือกเป็นหนวดปลาหมึก(180 บาท++)อย่างเดียวก็ได้ ส่วนเครื่องเคียง ซุป ข้าว และเมนูอื่น ๆ มีให้เลือกชิมหลากหลาย กินให้ครบเครื่องต้องสั่งกิมจิ มีทั้งที่สั่งแยกแต่ละชนิด และกิมจิรวมมิตร(220 บาท++) และให้สั่งยำผักรวมมิตร(Namuru) ใส่น้ำมันงา (150 บาท++) ซุปหางวัว(ถ้ากินเนื้อ)(250 บาท++) หรือซุปไข่กับซุปสาหร่าย(120 บาท++) ถ้าใครมาช่วงกลางวันจะมีเซ็ตมื้อกลางวัน(Lunch set) ซึ่งราคาย่อมเยาและคุณภาพดีเป็นที่นิยมในหมู่ลูกค้าชาวญี่ปุ่น
นี่คือร้านยากินิกุ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อวากิวในประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 - 23.00 น. (ส่วนที่ปานจิตต์ทาวเวอร์ วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเฉพาะมื้อค่ำ 17.00 - 23.00 น.) คำเตือนอย่าปล่อยให้หิวโซและไปที่ร้านช่วงตอนเย็น เพราะคนจะแน่นอย่าบอกใคร