ตั้งแต่มีการล็อกดาวน์ครั้งแรกในบ้านเรา ทำให้ใคร ๆ หลายคนได้แสดงศักยภาพอันซ่อนเร้นออกมาอย่างน่าดูชม ได้ทำตามความฝันทำอาหารขายออนไลน์ มีหลายรายที่ฝีมือดีจนต้องนำมาบอกต่อ หนึ่งในนั้นก็คือร้านออนไลน์ของหนุ่มใหญ่ในสายงานครีเอทีฟโฆษณา ผู้ตั้งชื่อได้เก๋ไก๋ว่า ครัวกะโหลกกะลา
ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครัวกะโหลกกะลานั้นมีชื่อว่าวสันต์ มูลเชื้อ หรือคุณติ่ง พื้นเพเป็นคนเชียงใหม่ ชอบทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ สมัยเรียนชั้นประถมศึกษาเคยรับลูกชิ้นมาทอดขาย และที่โรงเรียนมีวิชาสอนทำอาหาร ให้ตำพริกแกงเอง พอปิดเทอมเลยอาสาทำอาหารใส่กล่องมื้อกลางวันให้แม่นำไปที่ทำงาน อีกทั้งยังช่วยเพื่อน ๆ พ่อซึ่งมาจากภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย ทำกับข้าวและกับแกล้มอยู่ตลอด แถมยังได้ไปเป็นลูกศิษย์วัด ได้เข้าครัวเป็นลูกมือช่วยญาติโยมทำอาหารถวายพระอีกด้วย
Tเจ้าตัวมีพรสวรรค์ทำอาหารอร่อยแบบบ้าน ๆ ถึงเครื่อง มีการประยุกต์เล็กน้อยให้เป็นสไตล์เฉพาะตัว ในช่วงกักตัวล็อกดาวน์ปีที่แล้ว จึงสบโอกาสทำอาหารไทยขาย โดยมีคลิปสนุก ๆ โปรโมทเมนูสัปดาห์ละครั้ง ประกาศไปก่อนว่าจะทำเมนูอะไร ครั้งละ 1-2 อย่างเท่านั้น
เริ่มแรกได้เพื่อนฝูงคนรู้จักลองสั่งมาชิม จากนั้นมีการแนะนำปากต่อปากบอกต่อ ๆ กันไป จนตอนนี้กลายเป็นงานอดิเรกประจำที่ต้องเข้าครัวเกือบทุกอาทิตย์ และมีเมนูเด็ดรวมเกือบ 20 อย่างแล้ว แต่ละเมนูให้ปริมาณเพียงพอสำหรับกิน 2 คนได้สบาย ๆ
คุณติ่งกับลูกทีมรวม 3 คนซึ่งเป็นชายล้วน ถือคติที่ว่าเวลาทำอาหารต้องทำให้สุดฝีมือและหัวใจ ตั้งแต่เรื่องคัดสรรเลือกวัตถุดิบ ไกลแค่ไหนก็ต้องไปเอามาให้ได้
ของอร่อยที่ทำให้รู้ซึ้งถึงความเข้มข้นถึงเครื่องของครัวกะโหลกกะลาในครั้งแรกก็คือ ซี่โครงหมูผัดพริกแกงใต้(259 บาท) ซี่โครงหมูซึ่งบางครั้งได้ส่วนกระดูกอ่อนมาด้วย ปรุงจนเข้มข้นรสจัด พริกแกงใต้ซึมเข้าเนื้อทุกอณู แกล้มด้วยข่าอ่อนชิ้นบาง ๆ ผัดกับเครื่องแกงหอม ๆ เรียกเหงื่อได้ตั้งแต่คำแรก แต่ถึงจะเผ็ดก็อร่อยจนหยุดกินไม่ได้
ทีเด็ดอยู่ที่การผสมพริกแกงใต้จากพัทลุง 1 ส่วน กับพริกแกงเผ็ดภาคกลางทำเอง 2 ส่วน ใส่ทั้งพริกแห้งและพริกขี้หนูสด เคี่ยวกระดูกหมูกับหัวกะทิและพริกแกงจนเปื่อย จากนั้นโรยใบมะกรูดลงไป
มีของดีอีกอย่างที่ห้ามพลาด ครัวกะโหลกกะลาทำเมื่อไหร่ ต้องสั่งมาลองให้จงได้ นั่นก็คือ แกงเผ็ดเนื้อโคขุนเสือร้องไห้(219 บาท มีผักสดให้ด้วย) ซึ่งใช้พริกแกงตัวเดียวกันกับซี่โครงหมูผัดพริกแกง ใช้เนื้อส่วนเสือร้องไห้ติดมันกับเนื้อซี่โครง โดยไปรับเนื้อโคขุนมาเองจากคลองหลวง ปทุมธานี เคี่ยวนาน 2-3 ชั่วโมงจนนุ่มหอมเข้าเนื้ออร่อยเป็นที่สุด กินคู่กับขนมจีนที่ให้มาด้วย
อีกอย่างได้ยินชื่อนึกว่าเป็นแค่ของธรรมดาบ้าน ๆ แต่พอได้ชิมคำแรกจะรู้สึกประทับใจในรสชาติเข้มข้นอย่างไม่น่าเชื่อ เมนูนี้ก็คือต้มข่าไก่ที่ไม่เหมือนต้มข่าไก่ทั่วไป เพราะปรุงได้ถึงเครื่อง ไม่ใสโจ๋งเจ๋ง เข้มข้นด้วยกะทิกำลังดี รสจัดครบทุกรส หอมพริกขี้หนูสวน ซึ่งสูตรนี้จะใส่ขมิ้นเพิ่มความหอมอีกด้วย เมนูต้มข่าไก่จะมาคู่กับหมูคั่วเค็มหวานรสกลมกล่อม(369 บาท) กลายเป็นเมนูคู่หูสุดอร่อย
ที่ห้ามพลาดอีกเมนูคือ ปลากะพง(ยักษ์)ราดพริก(1 ชิ้นใหญ่ 249 บาท พร้อมข้าวสวย) พิถีพิถันคัดสรรวัตถุดิบ ไปซื้อปลากะพงน้ำกร่อยสด ๆ เองถึงแหล่งดังที่ฉะเชิงเทรา ต้องเป็นปลากะพงขนาด 4 กิโลกรัมขึ้นไปเท่านั้น หั่นเป็นชิ้นยักษ์แล้วทอดจนกรอบนอกนุ่มใน ราดด้วยพริกที่ทำจาก พริกแห้ง พริกขี้หนูสวนสด พริกไทยเม็ด และกระเทียม ผัดจนเข้ากันดี นี่แหละคือรสชาติปลาราดพริกหอมเข้มสุดเด็ดแบบดั้งเดิม ไม่ใช่ปลาสามรสเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ตามร้านทั่ว ๆ ไปในยุคนี้ ขอย้ำว่าปลาชิ้นโตมาก
เมนูที่มีการใส่ลูกเล่นทำให้เกิดความโดดเด่นก็คือ ลาบฟัวกราส์(ชุดละ 759 บาท)ถึงเครื่องแซ่บหอมมัน ปรุงแบบลาบอีสานใส่ข้าวคั่ว สะระแหน่ หมูสับ หนังหมู แถมยังใส่ผักแพว กระเทียมเจียว และกากหมู เพิ่มกลิ่นอายลาบเหนือ ส่วนตับห่านนั้น(ของดีกิโลละ 3,000 กว่าบาท)ทำเป็นชิ้น ๆ จะได้เคี้ยวหอมมันเต็มคำ และตัวลาบยังคั่วกับน้ำมันตับห่านเพิ่มความหอมชุ่มฉ่ำ กินคู่กับขนมปังฝรั่งเศสทาเนยที่ให้มาพร้อมกัน(ในรูปนั้นทำซอสกระเทียมเพิ่มเอง ไม่มีขาย) คุณติ่งบอกว่านี่คือลาบหมอลำอีสานโมเดิร์นแดนซ์ฝรั่งเศสสลับด้วยการฟ้อนเล็บ
ด้วยความที่เป็นคนเชียงใหม่ ครัวกะโหลกกะลาจึงมีน้ำพริกอ่องขายด้วย ซึ่งมาพร้อมกับผัดขนมจีนใส่หมูสับสไตล์ล้านนาและแคบหมู(ทั้งชุด 179 บาท) เป็นอาหารเหนือแท้ ๆ แบบบ้าน ๆ เพิ่มความมันและเนื้อสัมผัสด้วยสามชั้นซอย มีเคล็ดลับอยู่ที่การโขลกน้ำพริกกับหมูสับและมะเขือเทศให้เข้ากัน แล้วแช่เย็นทิ้งไว้ 1 คืน จึงจะนำมาผัดกับน้ำพริกอีกทีเพื่อให้รสชาติเข้าเนื้อ
นอกจากนี้มีของกินที่ตั้งชื่อได้เก๋มาก ข้าวหมูอบสวรรค์บันดาล น้ำจิ้มแจ่ว(229 บาท ให้หมู 2 ชิ้นใหญ่ ๆ) ทำจากสันคอหมูหมักรากผักชี กระเทียม พริกไทยเม็ด ลูกผักชี(จึงมีกลิ่นคล้ายหมูสวรรค์ด้วย) หมักทิ้งไว้ 1 คืนจนรสชาติเข้มข้นแบบบ้าน ๆ หอมเครื่องเทศ อย่าลืมราดน้ำจิ้มแจ่วเข้ากันดี ช่วยเพิ่มรสให้จัดยิ่งขึ้น
ยังมีเมนูประจำแต่ละอาทิตย์ สลับกันไปครั้งละ 1-2 เมนู อีกหลายอย่าง เช่น ก๋วยเตี๋ยวหลอด(179 บาท)ราดเครื่องหมูสับ หมูสามชั้นและกุ้งแห้ง ที่ใช้แต่เส้นก๋วยเตี๋ยวหนึบอร่อยของตระกูลจึงจากโรงงานที่เจริญกรุงเท่านั้น และก็มีเมนูแกงเผ็ดหมู สามชั้นทอดน้ำปลา หมูคั่วกะปิ หมูทอดรวมมิตร หมูกับไข่พะโล้ ต้มจืดหัวไชเท้ากระดูกหมู เป็นต้น
วิธีการขายนั้นจะโพสต์หรือทำคลิปโปรโมทล่วงหน้าทุกวันอาทิตย์เป็นส่วนใหญ่(มีหยุดบ้างบางสัปดาห์) ลงในเฟซบุ๊ก ครัวกะโหลกกะลา อินสตาแกรม kalockala_kitchen และ LINE @kalockala_kitchen ซึ่งสามารถสั่งได้ทั้ง 3 ช่องทาง โดยมีจำนวนจำกัดไม่กี่สิบชุดต่อครั้ง เพราะทำเป็นงานอดิเรกอย่างศิลปินจริง ๆ ส่วนใหญ่จะส่งอาหารในวันพฤหัสบดีช่วงกลางวัน คิดค่าส่งตามระยะทาง ใครชอบอาหารรสจัดถึงเครื่องรสชาติดั้งเดิม ลองสั่งมาชิมรับรองไม่ผิดหวัง