วาโซ สแปนิช ทาปาสบาร์ (Vaso Spanish Tapas Bar)

ชาวสเปนมีวัฒนธรรมการกินดื่มที่สนุกสนานมาก พอเลิกงานพวกเขาจะแวะไปที่ทาปาสบาร์(Tapas Bar) เพื่อกินทาปาส(คนสเปนอ่านว่าตาปาส)อันหมายถึงอาหารว่างซึ่งเป็นของกินเล่นนานาชนิดแกล้มกับเครื่องดื่ม มีทั้งชนิดเป็นคำเล็ก ๆ และเป็นจาน ๆ ไม่จำเป็นต้องไปถึงสเปน แค่มาที่โครงการเวลา สินธร วิลเลจ(Velaa Sindhorn Village ) ถนนหลังสวน ก็จะได้เพลิดเพลินไปกับเมนูทาปาสทันสมัยอร่อยถูกปาก ในบรรยากาศสุดแสนคึกคัก ที่วาโซ สแปนิช ทาปาสบาร์(Vaso Spanish Tapas Bar) เรียกสั้น ๆ ว่า วาโซ(Vaso) สำหรับผมแล้วถือว่าเป็นทาปาสบาร์ที่ดีที่สุดและมาแรงที่สุดในกรุงเทพฯ ณ ตอนนี้ แค่รูปแบบร้านก็กินขาดมาก ผนังห้องกรุกระจกใสโดยรอบ มีเคาน์เตอร์บาร์วงรีสำหรับให้ลูกค้านั่งล้อมวงได้รอบละ 30 กว่าคน ใจกลางวงเป็นครัวเปิด มีเชฟคอยปรุงอาหารและพนักงานคอยเติมเครื่องดื่มให้กับพวกเรา เพดานตกแต่งด้วยซุ้มโค้งกลิ่นอายสเปน ติดเครื่องเสียงชั้นเยี่ยมเปิดเพลงสนุกสนานบรรยากาศสุดแสนคึกคัก เมื่อลูกค้าย่างเท้าเข้าร้าน พนักงานทุกคนก็จะเปล่งเสียงทักทายว่า โอล่า(Hola) จึงไม่เป็นที่น่าแปลกใจ ถ้าเป็นรอบทุ่มนึงจะมีคิวจอง 2-3 สัปดาห์เลยทีเดียว (ไม่นับห้องส่วนตัวที่มีคิวนานถึง 2 เดือน) ขอแนะนำว่าให้มากันวันจันทร์-พฤหัสช่วงมื้อเที่ยง(ส่วนศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ คิวยาว 1 สัปดาห์) หรือวอล์คอินรอบแรกช่วง 5 โมงครึ่งถึง 1 ทุ่ม และรอบดึกหลัง 3 ทุ่ม ก็มีโอกาสสูงที่จะได้ที่นั่ง(ศุกร์-เสาร์หมดสิทธิ์) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 09-8914-4664

ใครจะเชี่ยวชาญเรื่องทาปาสมากไปกว่าเชฟชาวสเปนได้ล่ะ ที่วาโซได้เชฟอัลวาโร่(หรืออัลบาโร่) รามอส (Alvaro Ramos) มาสร้างสรรค์ทาปาสทันสมัยและเติมสีสันและความสนุกสนานให้กับลูกค้าทุกคน เชฟอัลวาโร่เป็นชาวกรุงมาดริด(ขอให้เขาถลกแขนซ้ายดูรอยสัก Madrid ตัวเบ้อเริ่มได้เลย) ในวัยเด็กมีคุณยายเป็นแรงบันดาลใจในการทำอาหาร พอเติบใหญ่เชฟมีประสบการณ์กับเชฟชื่อดังมากมาย ทั้งกับร้าน 1 ดาวมิชลินในบาร์เซโลนา และร้าน 2 ดาวมิชลิน เคยไปอยู่เซี่ยงไฮ้ ฮ่องกงมาแล้วด้วย จึงผสมผสานกลิ่นอายเอเชียได้อย่างลงตัว ที่วาโซเน้นเมนูทาปาสหลากหลายประเภทประมาณ 30 กว่าอย่าง ไม่นับเมนูพิเศษอีกเป็นสิบชนิด อยากสั่งน้อยอยากสั่งมากเชิญตามใจชอบ ขอให้มาแล้วสนุกเป็นพอ ตามธรรมเนียมดั้งเดิมจะมีการวางทาปาสชิ้นเล็ก ๆ มาบนแก้วเครื่องดื่ม ที่นี่จึงมีเมนูในหมวด Vasos 5 ชนิด จับคู่มากับเครื่องดื่มเรียบร้อย ขอแนะนำ El Vaso Trufado (390 บาท++) ขนมปังปิ้งหน้าทรัฟเฟิลหอม ๆ วางมาบนแก้วแซงเกรีย เครื่องดื่มผสมน้ำผลไม้ของสเปน หรือจะสั่งทาปาสคลาสสิกดั้งเดิม(Classic Tapas) แต่หน้าตาทันสมัยอย่าง El Matrimonio (2 ชิ้น 320 ++) ขนมปังปิ้งหรือโทสต์โปะหน้าด้วยปลาแอนโชวี(Anchovy)สีขาวและดำเค็ม ๆ หอม ๆ ซึ่งเป็นปลาร้าสเปนดองเค็มแช่ในน้ำมันมะกอกจากเกาะเมนอร์กา(Menorca)

ในหมวดนี้มีเมนูน่าลิ้มลองอีกเพียบ ที่ชอบมาก ๆ คือลาส โครเกตาส(Las Croquetas)(2 ชิ้น 260++)โครเกตสเปนไส้มันบดชุ่มฉ่ำหอมมัน โปะหน้าด้วยแฮมอิเบริโก้ของโฆเซลิโต้(Joselito Iberian Ham) จากหมูดำไอบีเรียนเลี้ยงปล่อยในป่ากินผลโอ๊กธรรมชาติจึงมีไขมันแทรกหอม ๆ ถ้าติดใจแฮมชนิดนี้จะสั่งเป็นจานต่างหากก็ได้ และตอนนี้มีเมนูใหม่ ลาบอมบ้า(La Bomba de la Barceloneta) (260++) มีทบอลเนื้อสับผสมมันบดปั้นก้อนแล้วทอด ราดซอสเผ็ดกับซอสเอโอลี่(Aioli) สเปนเรียกว่า เอลิโอลี่(Alioli) ทำจากมายองเนส น้ำมันมะกอกและกระเทียมเมดิเตอร์เรเนียน จุดเด่นอีกอย่างคือแต่ละวันจะมีเมนูพิเศษขึ้นกระดานดำไว้ ซึ่งมีมุมซีฟู้ดสด ๆ โชว์ของดีประจำวันให้เห็นกันจะ ๆ ของอร่อยห้ามพลาด คือ กุ้งแดงสีแดงสดของสเปน คาราบิเนรอส(Carabineros) วันนั้นได้กุ้งไซส์ใหญ่พิเศษ XXXL (ตัวละ 1,350 ++) ย่างมาไม่สุกมากเนื้อยังใส ๆ อยู่ สดหวานอร่อยอย่าบอกใคร และมีปลาจอห์นดอรี(John Dory) จากทะเลของแท้(ตัวละ 1,350 ++)ด้วย คนละเรื่องกับปลาดอรีน้ำจืดบ้านเราเลย อีกเมนูพิเศษห้ามพลาดคือชูโรส(Churros) โดนัทสเปนแท่งทรงกระบอกเล็ก ๆ โรยผงอบเชยกับน้ำตาล ทำเป็นของคาวสำหรับกินเล่น มีทั้งชูโรสหน้าอูนิหรือไข่หอยเม่น(590++) และมีชูโรสหน้าคาเวียร์กับทรัฟเฟิล(790++)ฝานชิ้นบาง ๆ หรือจะสั่งชูโรสจิ้มซอส(320 บาท++) ช็อกโกแลต ซึ่งเป็นเมนูของหวานตามปกติก็สุดยอดเช่นกัน

ต่อกันด้วย Bikini Con Sobrasada (240 ++) แซนด์วิชชิ้นเล็ก ๆ สอดไส้ชีสและโซบราซาดา(Sobrasada)หรือไส้กรอกหมูรสเผ็ด สตรีทฟู้ดของชาวคาตาลัน ส่วนบิกินีนั้นเป็นชื่อของคลับดังในบาร์เซโลนา ซึ่งคิดค้นเมนูนี้ขึ้นมา ยังมีของอร่อยอีกเยอะแยะ เช่นในหมวด Greens ผักพริกต่าง ๆ นั้นมีพริกสเปน ปา-ดร้อนทอดในน้ำมันมะกอก(Los Padrones)(240 ++) รสเผ็ดนิด ๆ หอม ๆ พริกชนิดนี้คนญี่ปุ่นเรียกว่าชิชิโตะ(Shishito) และมีสลัดที่ถูกใจมากคือสลัดใจ(ส่วนตรงกลาง)ผักคอสย่าง(280++)กับชีสนมแพะที่ด้านบนเคลือบเป็นแผ่นกรอบหอมหวาน กินกับวอลนัทหอมคาราเมล และมีเมนูของสด Crudos สั่งได้ทั้งหอยนางรมสด(ตัวละ 160++) กินกับชีสบูราต้าหอมมันและซอสมะนาว และหอยเชลล์เซวิเช่ (320++)ราดซุปเย็นสเปน Ajoblanco ปรุงด้วยตะไคร้ เสิร์ฟมาบนเปลือกหอยทั้งตัว ห้ามอิ่มเป็นอันขาดเพราะมีเมนูสุดยอดห้ามพลาดในหมวดซีฟู้ด อาร์โรซเนโกร(El Arroz Negro) (480 บาท++) คือปาเอยา(Paella) ข้าวผัดสเปนใส่ปุ่มดูดตรงหนวดปลาหมึกหนึบๆและดีหมึกสดๆรสชาติเข้มข้นหอมหวาน เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน เวลากินให้บีบมะนาวเหลืองเพิ่มความสดชื่น อยากรู้ว่าปาเอยาของแท้ต้องมีความกรุบอร่อยอย่างไรให้มาลองชิมได้ เมนูหมวด Meat หรือเนื้อสัตว์ก็ไม่เบา มีของดีหากินได้ยาก นกกระทา(Quail)ย่างกินกับซอสเอลิโอลี(Alioli)(420++) และซี่โครงเนื้อส่วนปลายหรือ Short Rib (850++) ปรุงให้สุกอย่างช้า ๆ นุ่มหอมอร่อยมาก นับเป็นสวรรค์ของมีทเลิฟเวอร์ คนไม่กินเนื้อก็มีคอหมูดำอิเบริโก้(La Pluma Iberica)ย่าง(990++) นอกจากนี้เชฟอัลวาโรพาเราเข้าไปในครัวเพื่ออวดเนื้อดรายเอจ(บ่มแห้ง) 100 วันจากอาร์เจนตินาที่ขายดีมาก ๆ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบกินเนื้อ