ร้านไฟน์ไดน์นิ่งคอนเซปต์แบ่งกันชิม
ถึงแม้ว่าปี 2020 จะเป็นปีที่โลกเกิดสถานการณ์ไม่ปกติมากมาย แต่เป็นที่น่ายินดีว่าช่วงปลายปีนี้มีร้านอาหารกลับมาเปิดตัวใหม่ในกรุงเทพฯ อยู่หลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือร้านอาหารไฟน์ไดน์นิ่งที่มีคอนเซปต์สนุกสนานไม่เหมือนใคร
ชื่อว่า อิกนีฟ แบงคอก (IGNIV BANGKOK) หรือมีชื่อเต็ม ๆ ว่า อิกนีฟ แบงคอก บาย แอนเดรียส คามินาดา (IGNIV Bangkok by Andreas Caminada) อยู่ที่โรงแรมเดอะเซนต์ รีจิส กรุงเทพฯ (The St. Regis Bangkok) ถนนราชดำริ คำว่า IGNIV ในภาษาโรมานซ์ (Romansh)
หนึ่งในภาษาหลักของสวิตเซอร์แลนด์ แปลว่ารังนก บ่งบอกเป็นนัยว่าการมาชิมอาหารที่ร้านนี้จะให้ความรู้สึกอบอุ่นและเป็นกันเอง เข้ากับโทนการตกแต่งร้านในสไตล์โมเดิร์นด้วยไม้และผ้า ผสมผสานกับงานศิลปะเก๋ ๆ และเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใสมีชีวิตชีวา
อิกนีฟคือรังนกลำดับที่
4 ซึ่งเป็นสาขาแรกนอกประเทศสวิตเซอร์แลนด์ของเชฟแอนเดรียส คามินาดา เชฟชาวสวิสผู้มีชื่อเสียงระดับโลก ขึ้นชื่อเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ความทันสมัยและความอร่อย อีกทั้งร้านของเขา Schloss Schauenstein ซึ่งตั้งอยู่ในปราสาทโบราณ ได้รับรางวัลสูงสุดระดับมิชลินสตาร์
3 ดาว
โดยร้านอิกนีฟ แบงคอก อยู่ในการดูแลของหัวหน้าเชฟ เดวิด ฮาร์ดวิก(David Hartwig)ผู้มีประสบการณ์การทำงานกับเชฟแอนเดรียสมายาวนาน และมีเชฟอาเน่ รีน (Arne Riehn) เชฟหนุ่มชาวเยอรมัน เป็นผู้ช่วยหัวหน้าเชฟและเชฟขนมหวานคอนเซ็ปต์ของอิกนีฟ แบงคอกในเมืองไทยคือการ Sharing ซึ่งตรงกับอุปนิสัยและวัฒนธรรมการกินของคนไทยที่นิยมสั่งกับข้าวมาเป็นกองกลางแล้วแบ่งกันกินหนุบหนับ โดยมื้อเย็นนั้นจะเสิร์ฟเต็มรูปแบบจำนวน 4 คอร์สใช้ชื่อว่า IGNIV 4 Course Dinner Sharing Experience (3,800++ บาทต่อท่าน) แบ่งเป็นเมนู 4 ประเภทคือของกินเล่นหรือ Snacks อาหารเรียกน้ำย่อยหรือ Starters จานหลักหรือ Mains และของหวานหรือ Desserts (มีมื้อกลางวัน 3 คอร์สด้วย) ฟังดูเหมือนน้อย ซึ่งความจริงเมนูแต่ละประเภทนั้นมีให้เราชิมหลากหลายถึงหมวดละ 4-5 จาน ในวันนั้นพวกเราโดนปรนเปรอไปถึง 19 จาน ไม่นับเมนูเซอร์ไพรส์และเมนูซิกเนเจอร์ที่ต้องสั่งเพิ่มเป็นพิเศษต่างหาก(สุดยอด ห้ามพลาด) มาแล้วรับรองว่าจะตื่นตาตื่นใจได้แย่งกันชิมเมนูโมเดิร์นอร่อยแปลกใหม่ คำเล็ก ๆ สวยเก๋ นำเสนอในรูปแบบยุโรปพบเอเชีย ตะวันออกพบตะวันตก เชฟที่นี่ขยันมาก ออกเมนูใหม่ ๆ มาเรื่อย ๆ ดังนั้นเมนูที่ผมสาธยายไปอาจจะไม่ตรงกับในวันที่ไปชิมจริง(มีเพื่อนซึ่งไปคนละวัน ยังได้ชิมบางเมนูไม่ซ้ำกันพวกเราเลย)
ก่อนอื่นแค่เสิร์ฟขนมปังมาให้ 3 ชนิด กับเนยที่ตีกับโยเกิร์ตทำเป็นรูปยอดเขาหิมะ ก็หอมมันกินเพลินจนหยุดไม่ได้ เริ่มกันด้วยของกินเล่นมีถึง 4 จาน ทำเป็นคำเล็ก ๆ ที่ชื่นชอบประทับใจมาก ๆ คือ Mushroom - Olive Oil - Truffle แป้งด้านล่างทำจากเห็ด ด้านบนเป็นพิวเรเห็ดครีม ๆ หอม ๆ โรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลชิ้นฝอย ๆ เต็มหน้า และมีเมนูเก๋มาก Mango - Cornetto - Chilli โคนจิ๋วทำจากแป้งข้าวโพดและมะม่วง ไส้ในเป็นไอศกรีมมะม่วงและซัลซ่ามะม่วง โรยหน้าด้วยพริก ได้รสจัด ๆคล้ายฝรั่งจิ้มเกลือ จานนี้ต้องรีบถ่ายรูปไว ๆ เพราะจะละลายและแป้งเหนียวเร็ว ต่อด้วย Daikon - Mackerel - Green Pea หัวไชเท้าฝานม้วนสอดไส้ปลาแมคเคอเรลกับวาซาบิและผงถั่วลันเตา กินกับเจลส้มจี๊ด ซึ่งจานที่ใช้สั่งพิเศษเป็นลายนกเข้ากับชื่อร้านอิกนีฟ ปิดท้ายด้วย Kohlrabi - Herb โคลราบิหรือหัวเทอร์นิปเยอรมันกรอบ ๆ ม้วนสอดไส้อาโวคาโดกับเครมเฟรชครีม ๆ หอมมัน คอร์สถัดมาเป็นอาหารเรียกน้ำย่อย ซึ่งในคืนนั้นมีถึง 6 เมนู ที่อร่อยถูกใจมาก ๆ คือ Beef Tartare - Radish - Truffle บี๊ฟทาทาร์เนื้อสดกับทรัฟเฟิลมาโย มีสลัดหัวแรดิชคลุมอยู่ด้านบน กับน้ำสลัดทรัฟเฟิลวินิเกรตต์ เมนูนี้กินคู่มันฝรั่งทอดอิกนีฟอันลือชื่อ แผ่นโต ๆ กรอบเหมือนข้าวเกรียบ สำหรับคนไม่กินเนื้อสามารถบอกล่วงหน้าตอนจองโต๊ะได้เลย รวมทั้งให้แจ้งว่าแพ้อาหารอะไรบ้าง อย่างเช่นวันนั้นทางร้านเสิร์ฟปลาฮามาจิให้แทนเนื้อวัว
เมนูเรียกน้ำย่อยอื่น ๆ ก็มีความโดดเด่นรสชาติหลากหลาย ทั้ง Sea bass - Mulberry - Chompoo ปลากะพงขาวสด ๆ ทำเป็นเซวิเช่(หรือยำของฝรั่ง) กินกับชมพู่และลูกหม่อน และ Duck Liver - Mandarin - Brioche มูสตับเป็ดเนียนหอมมันกินกับเจลส้มแมนดารินเปรี้ยวหอม มีขนมปังบริยอชมาคู่กัน
Lettuce - Red Cabbage - Mustard - Lardo ผักกาดกรอบ ๆ ราดซอสกะหล่ำแดงกับมัสตาร์ด คลุมด้านบนด้วยมันหมูบาง ๆ มีเจลส้มจี๊ดเปรี้ยว ๆ ด้วย Langoustine - Cucumber - Ponzu กุ้งมีก้ามตัวเล็ก ๆ เนื้อสดหวานของยุโรป กินกับแตงกวาราดน้ำพอนสึเปรี้ยว ๆ ของญี่ปุ่น
รวมทั้งมีพอนสึแบบเข้มข้น และ Tomatoes - Chive - Dill จานนี้สุดยอดมาก ทำจากมะเขือเทศ 3 อย่างทั้งชนิด Sun-dried หรือตากแห้ง Semi-dried หรือกึ่งแห้ง และมะเขือเทศสด ราดน้ำสลัดมะเขือเทศวินิเกรตต์ กับ Chive Oil(ต้นหอมฝรั่ง) ได้รสสัมผัสอร่อยแตกต่างทั้ง
3 ชนิด
ก่อนจะถึงจานหลัก ยังมีคั่นด้วยรายการเมนูเซอร์ไพรส์ 1 อย่าง(เพิ่ม 400 บาท++ ต่อคน) ซึ่งสามารถแจ้งสั่งเพิ่มได้ตอนจองโต๊ะล่วงหน้า แล้วมาลุ้นวันชิมว่าจะได้เมนูอะไร อีกทั้งมีเมนูซิกเนเจอร์ของอิกนีฟ (จ่ายเพิ่มแต่ละเมนู) ที่ยกมือเชียร์ให้สั่งจองล่วงหน้า
อร่อยคุ้มค่าทีเดียว เมนูเซอร์ไพรส์วันนั้นคือ เนื้อปลาเก๋านึ่งราดซอสแอสพารากัสเบอร์บลองค์ และโฟมบราวน์บัตเตอร์ ใส่คาเวียร์ และมีโคราบิประกบ 2 ชั้นด้านบน ส่วน IGNIV Signature Dish มีถึง 3 เมนู ที่ห้ามพลาดเลยคือ อิกนีฟนักเก็ตไก่(400 บาท++ ต่อคน)
เป็นนักเก็ตที่ดูดีและอร่อยที่สุดเท่าที่เคยกินมา ซึ่งต้องหมักไก่ก่อน 48 ชั่วโมง จากนั้นนำมาทำให้สุกอย่างช้า ๆ(ซูวี้ด) กับเครื่องเทศ นาน 6 ชั่วโมง และชุบแป้งทอดหนา ๆ หอม ๆ ตอนเสิร์ฟจะรมควันในครอบแก้วด้วย เมนูซิกเนเจอร์อีก 2 อย่างคือ ดอกกะหล่ำ(400
บาท++ ต่อคน)ที่เคลือบด้วยซอสทรัฟเฟิลหนึบเหมือนกินแคนดี้ มีโฟมทรัฟเฟิลและทรัฟเฟิลขูดด้วย และทาร์ตคาเวียร์ชิ้นเล็ก ๆ(800 บาท++ ต่อคน)จากร้านของตระกูลดังเรื่องคาเวียร์นานร้อยปีที่ปารีส กินกับปลารมควัน
แค่นี้ก็หนังท้องตึงแล้ว แต่ยังมาแค่ครึ่งทางเท่านั้น ต่อด้วยจานหลักอีก 4 อย่าง มีทั้งจานผัก บรอกโคลีกับพิวเรเมล็ดสนและเมล็ดผักโขม และเมนูเมล็ดข้าวโพดกับข้าวโพดคั่ว ส่วนจานเนื้อ มีซี่โครงหมูบาร์บิคิวรมควันย่างอุ่นร้อนมาบนเตาเล็ก ๆ กินกับครีมหอมแดง
ปิดท้ายด้วยเนื้อสันนอก(Striploin)ชิ้นเล็ก ๆ กับซอสกระเทียมดำและ Salsa Verde เขียว ๆ อิ่มแค่ไหนก็ยังมีขนมหวานรอให้ลิ้มลองอีก 5 อย่าง ทั้งไอศกรีมซอร์เบต์รสเบซิลหรือโหระพาฝรั่ง และช็อกโกแลตซูเฟล่ อบจนขึ้นฟูสวย อีกทั้งแตงโมและแคนตาลูปดองอยู่ในน้ำซุปแตงโมเย็น
และคาเคานิบส์(Cacao Nibs) หรือเนื้อในของเมล็ดโกโก้ กินกับโฟมเชอร์รีเนื้อครีมเบา ๆ และ IGNIV Shaved Ice หรือน้ำแข็งใสรสชามะลิกับคัสตาร์ดอัลมอนด์น้ำผึ้งและโฟมเลมอน ความเก๋ความน่ารักยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ก่อนกลับเรายังสามารถเติมความสุขได้อีก ด้วยการเลือกหยิบขนมหวานหลากหลาย
ใส่กล่องที่เตรียมไว้ให้กลับบ้านได้ตามใจชอบ ที่มุมอิกนีฟ แคนดี้ สโตร์(IGNIV Candy Store) ห้ามพลาดเยลลี่รสผลไม้รสต่าง ๆ นอกจากนี้ก็มีมาการอง คาเนเล่(canelé) ช็อกโกแลตต่าง ๆ มาดแลน(Madeleine) และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง
อิกนีฟ แบงคอก เปิดให้บริการวันพุธถึงวันอาทิตย์ ช่วงมื้อกลางวัน 12.00 - 15.00 น. คนละ 1,900บาท ++(3 คอร์ส) และช่วงมื้อเย็น 18.00 - 23.00 น. คนละ 3,800 บาท ++(4 คอร์ส) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองโต๊ะได้ที่ igniv.bangkok@stregis.com หรือ 0-2207-7822