มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่รายหนึ่งซึ่งเจ้าของร้านคือเหล่าบรรดาลูกพี่ลูกน้องคนรุ่นใหม่จำนวน 7 คน(ถ้าเอ่ยชื่อธุรกิจโรงแรมและเครื่องดื่มของคุณพ่อคุณแม่น้องๆแล้ว ทุกคนจะต้องร้องอ๋อไปตามๆกัน) ได้ปรับปรุงก๋วยเตี๋ยวรสชาติดั้งเดิมในตำนาน นำเสนอในรูปแบบทันสมัย เปลี่ยนมาจับคู่เนื้อลวกในน้ำซุปรสชาติเข้มข้นกับเส้น(หรือข้าว)ที่เสิร์ฟแยกกัน ตั้งชื่อร้านน่าเอ็นดูมากว่า เนื้อคู่
ด้วยความที่พ่อแม่ของน้องๆล้วนแล้วแต่เป็นนักชิมลิ้นทอง พาลูกๆไปสรรหาแต่ของอร่อย จึงจุดประกายให้ลูกๆซึ่งอยู่ชมรมคนชอบกินเนื้อ เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อคู่ใช้เนื้อดีขั้นเทพเมื่อราว 9 ปีก่อน(พ.ศ. 2555)ที่ห้างสยามพารากอนชั้น 4 โซน Food Passage ในโทนเรียบง่ายอบอุ่นทันสมัยตกแต่งด้วยไม้สีอ่อน อีกทั้งยังขยายสาขาไปที่ห้างไอคอนสยาม (ICONSIAM) ชั้น G โซน Veranda ด้วย(สาขานี้จะเล็กกว่าที่สยามพารากอนเกือบเท่าตัว)
เนื้อคู่มีดีที่เมนูสุดยอด เนื้อลวกชั้นดีนุ่มหอมหวานในน้ำซุปรสเข้ม เต็มไปด้วยเศษเนื้อต้มชิ้นเล็กๆทุกอณูเหมือนสไตล์ร้านรสดีเด็ด จับคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยวและข้าวญี่ปุ่น โดยสั่งต่างหากได้ตามใจชอบ เหมือนได้พบเนื้อคู่แท้เลยทีเดียว(ระหว่างเนื้อกับเส้น)
เทคนิคการลวกมีส่วนสำคัญที่ทำให้เนื้อยังคงความนุ่มหอมสดไว้ได้ โดยราดน้ำซุปร้อนๆลงไปที่ขอบชาม เพื่อลวกเนื้อแล้วเทน้ำออก 3 ครั้ง จนได้เนื้อที่ยังมีสีชมพูเรื่อๆปนแดงนุ่มหวานหอมอร่อยอย่าบอกใคร จากนั้นจึงเติมน้ำซุปต้มเนื้อร้อนๆลงไปเพียงครึ่งชาม โดยเนื้อลวกยังลอยหน้าอยู่ด้านบนน้ำซุป แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเข้มสุกอย่างช้าๆ ซึ่งใครอยากให้ลวกเนื้อสุกกว่านั้นก็สั่งได้ แต่เชื่อเถอะว่าเนื้อสีชมพูอมแดงที่ยังไม่สุกมาก(แบบมีเดียมแร)จะคงความนุ่มโอชะของเนื้อไว้ได้ดีที่สุด
ชนิดและคุณภาพของเนื้อที่คัดมาอย่างดีก็เป็นส่วนสำคัญที่สร้างชื่อเสียงด้านความนุ่มความหอมของเนื้อวัวให้กับร้านเนื้อคู่ มีตั้งแต่เนื้อโคขุนโพนยางคำของไทยส่วนต่างๆจากสกลนคร เนื้อวากิวออสเตรเลีย และมีเนื้อโกเบแสนนุ่มจากญี่ปุ่นอีกด้วย
ข้อดีของร้านเนื้อคู่คือสามารถเลือกเนื้อลวกได้ถึง 6 ชิ้นส่วนหรือ 6 ชนิด ขอบอกว่าเนื้อทุกอย่างที่ร้านเนื้อคู่มีกลิ่นหอมของเนื้อช่วยทำให้เจริญอาหารสุดๆ ซึ่งเนื้อลวกที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือเนื้อโคขุนส่วนที่เป็นเนื้อใต้ซี่โครง(Under-Rib)(350 บาท++) เลาะจากกระดูกใต้ซี่โครง ลักษณะเป็นเส้นเรียวๆยาวๆ เนื้อสัมผัสหนึบๆนุ่มๆเด้งๆ เนื้ออีกชนิดที่ก็เด้งๆนุ่มๆใกล้เคียงกัน คือเนื้อสันไหล่(240++)ที่เรียกว่า Shoulder หรือ Chuck
แต่ถ้าชอบประเภทนุ่มๆชุ่มฉ่ำเลยล่ะก็ ต้องสั่งเนื้อโคขุนส่วนริบอาย(Rib-Eye)(450++) หรือบางที่จะเรียกว่าสันกลาง มีมันแทรกเป็นริ้วๆอยู่เต็มไปหมด และที่อร่อยและนุ่มมากๆพอๆกันคือเนื้อวากิวออสเตรเลีย(550++)ที่มีมันแทรกเป็นลายหินอ่อน ควรสั่งมาลองคู่กัน จะได้ไม่เกิดอาการรักพี่เสียดายน้อง แต่แน่นอนเนื้อประเภทที่นุ่มที่สุดจนได้ฉายาว่า ละลายในปาก ก็ย่อมต้องเป็นเนื้อโกเบ(950++)จากวัวขนดำสายพันธุ์ทาจิมะจากเมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น ที่มีมันแทรกเป็นลายหินอ่อนทุกอณู
กลับมาที่เนื้อโคขุนยังมีส่วนเซอร์ลอยน์(Sirloin)(180++)หรือสันสะโพก ที่เนื้อจะละเอียดและนุ่มแต่มันไม่มาก ส่วนใครที่ไม่กินเนื้อ ที่นี่ก็มีหมูดำลวก คุโรบุตะ ไว้คอยบริการด้วย(ในน้ำซุปใสๆ)(140++)
ร่ายยาวเรื่องเนื้อมาตั้งนาน อย่าลืมจับคู่กับเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่มีทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่(25++) และบะหมี่(30++) ส่วนผมนั้นนิยมจับคู่กับข้าวญี่ปุ่น(40++)เมล็ดป้อมๆมียางนุ่มเหนียวนิดๆกินแล้วอร่อย นี่แหละคือเนื้อคู่แท้ของผม เนื้อใต้ซี่โครงกับข้าวญี่ปุ่น จิ้มเนื้อกับน้ำส้มพริกตำรสจัดๆปรุงด้วยน้ำตาลน้ำปลาเพิ่มลงไปในน้ำจิ้ม เข้ากันดีนักแล อีกอย่างขอมาเพิ่มได้ต่างหากคือถั่วงอกลวก ช่วยทำให้ไม่เลี่ยน
สำหรับผู้ที่ชอบก๋วยเตี๋ยวสูตรที่ปรุงด้วยซอสปรุงรสหอมๆแบบเดียวกับร้านเกาเหลาไร้เทียมทาน ขอแนะนำก๋วยเตี๋ยวเนื้อสูตรซุปกระดูกวัว(165++) โรยด้วยกระเทียมเจียว ลักษณะน้ำจะข้นน้อยกว่าสูตรต้นตำรับ และหอมกลิ่นซอสปรุงรส ใส่ลูกชิ้นเนื้อวัว เนื้อเปื่อย เนื้อน่องลายหนึบๆเด้งๆ ริบอาย และขอบกระด้งมาด้วย แนะว่าถ้าจะชิมสูตรนี้ควรกินเป็นชามแรก ก่อนสั่งเนื้อลวกในน้ำซุปต้นตำรับ เพราะรสชาติจะอ่อนกว่ากัน
เดี๋ยวนี้เนื้อคู่เพิ่มเมนูใหม่ในน้ำซุปรสจัดเข้มข้นหลากหลายสไตล์ทั้งเนื้อและหมู สำหรับผู้ที่ไม่กินเนื้อ ขอแนะนำ ซุปเปอร์เล้งแซ่บ(165 บาท++)ซึ่งต้มกระดูกสันหลังหมูหรือเล้งไปด้วยกันจนรสชาติเข้าเนื้อเข้มข้น ปรุงได้แซ่บสะใจเปรี้ยวเค็มหอมพริกขี้หนู โดยจะเสิร์ฟพร้อมกับข้าวญี่ปุ่นให้เลย ส่วนคอเนื้อก็มีต้มแซ่บเนื้อกรอบ(165 บาท++) และริบอายแซ่บ(450 บาท++) ให้ลิ้มลอง
หรือจะสั่งเฝอเนื้อคู่ในน้ำซุปรสเข้มสไตล์เวียดนาม เส้นเฝอเด็ดอย่าบอกใคร มีเนื้อให้เลือก 3 แบบ ทั้งเฝอสันไหล่(280 บาท++) เฝอริบอาย(490 บาท++) และเฝอวากิว(590 บาท++) รวมทั้งยังมีเมนูอื่นอีกเพียบ เช่นก๋วยเตี๋ยวหมูทั้งน้ำใส ต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาภูเก็ต
กลับมาที่ของกินเล่นมีให้ลองชิมหลายอย่าง ขอแนะนำกุยช่ายทอดชิ้นหนาๆโตๆ(80++) กรอบนอกหอมใน และลูกชิ้นปลาภูเก็ตนุ่มๆลูกโตๆ(160++) หรือจะสั่งรวมมิตรลูกชิ้น(165 บาท++) ลวกๆจิ้มๆแซ่บๆ มีทั้งลูกชิ้นปลาภูเก็ต เกี๊ยวปลา ฮื่อก้วย ลูกชิ้นกุ้ง และลูกชิ้นแคะใส่เต้าหู้ เชิญเปิดดูเมนูได้เลย
ใครได้มาชิมแล้วรับรองว่าจะได้พบเนื้อคู่สุดที่รักจริงแท้แน่นอน ช่วงนี้โปรดเช็คเวลาเปิดปิดร้านที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์เสียก่อนที่เบอร์ 0-2610-9773 09-7068-9374(สยามพารากอน และ 0-2288-0766(ไอคอนสยาม) หรือติดต่อทาง Line ID : nuer_koo สำหรับดิลิเวอรีได้