ย่านถนนจันทน์เป็นแหล่งชุมชนที่อยู่อาศัยเก่าแก่ ซึ่งเต็มไปด้วยร้านอาหารเล็ก ๆ อยู่ในตึกแถวทุกตรอกซอกซอย ส่วนใหญ่ทำกันในครอบครัวโดยคนไทยเชื้อสายจีน แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีอยู่ร้านหนึ่งเพิ่งเปิดให้บริการมาเพียง 3 ปี(ปลายปี 2561) โดดเด่นไม่เหมือนใครในบ้านไม้สักสีขาวบรรยากาศย้อนยุคเกือบศตวรรษในสมัยรัชกาลที่ 7 เปรียบเสมือนโอเอซิสให้ความผ่อนคลาย ตกแต่งใหม่ในสไตล์คลาสสิกไทยประยุกต์ ของกินมีทั้งเมนูอาหารผสมผสานกับเบเกอรี ร้านนี้มีชื่อเหมือนนางเอกละครพีเรียดว่า วนิดา
ความจริงแล้ววนิดาคือชื่อคุณแม่ของคุณอร กนกกัญจน์ มธุรพร คนส่วนใหญ่คงจะไม่รู้จักชื่อเสียงเรียงนาม แต่ถ้าบอกว่าคือเจ้าของสูตรพายหมูแดงฮ่องกง(และขนมเปี๊ยะหมูแดง) เอพริล เบเกอรี (ซึ่งเปิดมา 11 ปี)แล้วล่ะก็ คงจะร้องอ๋อไปตาม ๆ กัน
วนิดาตั้งอยู่ริมถนนจันทน์ก่อนถึงแยกตรอกจันทน์ ตรงข้ามกับซอยจันทน์ 44 ข้าง ๆ มีลานจอดรถซึ่งสามารถขอคูปองค่าจอดฟรีจากที่ร้านได้
ร้านนี้เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญ น้องอรสะดุดตาบ้านเก่าหลังนี้ในระหว่างที่ไปส่งลูกที่โรงเรียนนานาชาติใกล้ ๆ กัน จึงขอเช่าทันทีและเปิดเป็นร้านอาหารรสมือแม่ เพราะคุณแม่เป็นคนชอบทำอาหาร ส่วนตัวเองชอบทำขนม ที่นี่จึงมีเมนูหลากหลายให้เลือกลิ้มลอง
ในยามปกติร้านวนิดาจะเปิดบริการตั้งแต่ 8 โมงเช้า เพื่อให้ผู้ปกครองได้มาแฮงเอาท์กับเพื่อน ๆ ดื่มด่ำอาหารเช้านานาชนิด มีทั้งข้าวต้มกุ๊ย สปาเก็ตตี้ ข้าวผัด และวนิดาเบรคฟาสต์
แต่ในช่วงสถานการณ์แบบนี้จึงเปลี่ยนมาเริ่มขายตอน 10 โมงเช้าไปก่อน โดยมีเมนูอาหารไทยรสชาติจัด ๆ เข้มข้น โดดเด่นด้วยเมนูยำและส้มตำ แน่นอนว่าต้องมีเค้กและขนมหวานรวมอยู่ด้วย ไม่นับเครื่องดื่มเก๋ ๆ อีกมากมาย กลายเป็นทั้งร้านอาหารและคาเฟ่ไปในตัว
น้องอรไม่ได้มีฝีมือแค่ในการทำพายเท่านั้น แต่ที่วนิดายังมีขนมอร่อยอีกหลายชนิด ที่ไม่ควรพลาดคือบราวนีรสชาติต่าง ๆ เค้กมะพร้าว ส่งมาจากโรงงานผลิตที่สุขสวัสดิ์ ซึ่งทำพายและขนมเปี๊ยะ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ส่งร้านเบเกอรีของตัวเองและร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ
โดยขนมที่ร้านวนิดาจะมีความเป็นพรีเมียม ถ้าใครชอบกินบราวนี ขอแนะนำบราวนี โอวัลติน ครันชี(Crunchy) ซึ่งเป็นตัวที่ขายดีที่สุดในบราวนีทั้ง 3 ชนิด(150 บาททุกตัว) ฐานด้านล่างเป็นบราวนีทำจากช็อกโกแลต 60-70 % ของอิตาลี หน้าโอวัลตินครันชีหนึบปนกรอบ นอกจากนี้บราวนีนัตตี้ใส่เนยถั่วก็เข้มข้นสะใจด้วยเนยถั่วตรา Jif และมีบราวนี นูเทลลา สำหรับผู้ที่ชื่นชอบนูเทลลาและช็อคโกแลต
เค้กมะพร้าวก็เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านวนิดา ใช้น้ำมะพร้าวและเนื้อมะพร้าวสด ๆ จึงเก็บได้ไม่นาน มีทั้งมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวเผา เนื้อเค้กชิฟฟอนผสมน้ำมะพร้าวใส่เนื้อมะพร้าวลงไปด้วย ด้านบนเป็นวิปครีมผสมน้ำมะพร้าว (150 บาท)
อีกตัวที่น่าลิ้มลองคือบานอฟฟี่(150 บาท) ทำไซส์ใหญ่กว่าร้านทั่วไป ชั้นล่างเป็นโอรีโอผสมอัลมอนด์และช็อกโกแลต มีซอสคาราเมลหอม ๆ และกล้วยหอม ท็อปด้วยวิปครีม โรยผงช็อกโกแลตด้านบน ทำขายแค่วันต่อวัน ชั้นล่างของบานอฟฟี่จึงกรอบตลอด
ซึ่งช่วงนี้มีโปรโมชันดี ๆ ซึ่งจะทำไปเรื่อย ๆ ซื้อเค้กและขนมต่าง ๆ 2 ชิ้นแถม 1 ชิ้น โดยสามารถสั่งคละกันได้ (ยกเว้นบลูเบอรีชีสเค้กที่ราคาสูงกว่าอย่างอื่น 180 บาท)
ส่วนอาหารมีทั้งกับข้าวแบบไทย ๆ สปาเก็ตตี้ และอาหารจานเดียวอื่น ๆ เมนูซิกเนเจอร์คือ อาหารจำพวกยำต่าง ๆ เพราะน้องอรเปิดร้านยำชื่อว่าอรซอน อยู่แล้ว
ยำที่ผมชื่นชอบคือยำวุ้นเส้นทะเลรวมมิตร(250 บาท) รสจัดเปรี้ยวเค็มหอมน้ำปลาครบทุกรส แต่ไม่จัดมากเกินไป และไม่หวานมาก ซึ่งจะใช้น้ำตาลโตนดจากเพชรบุรีในการปรุงอาหาร น้ำยำจะรสชาติเหมือนกันทุกจานรวมทั้งผ่านการพาสเจอไรซ์ฆ่าเชื้อจากครัวกลางที่โรงงานแล้ว
อีกอย่างซึ่งรสชาติเหมือนที่เคยกินตอนเด็กคือ ยำเนื้อออสเตรเลียย่างมะเขือเปราะ (350 บาท) ใช้น้ำยำเดียวกับยำวุ้นเส้น ใส่เครื่องพล่าเช่นมะเขือเปราะและตะไคร้ซอย เนื้อออสเตรเลียติดมันนุ่มหอมอร่อย
นอกนั้นก็มียำใส่ปลาร้าต่าง ๆ เช่น ยำมาม่ารวมมิตรยอดนิยม ยำหมูยอไข่เค็มใส่ไข่แดงเค็ม ยำคอหมูทอด ยำกุ้งสด ยำหอยแครง ยำปลาหมึก ใช้ปลาร้าต้มเอง เป็นปลาร้าปลากระดี่จากร้านประจำเก่าแก่ที่อำเภอชุมแสง(บ้านเกิดน้องอร) ซึ่งก่อนอื่นพนักงานจะถามว่าลูกค้าชอบปลาร้าหรือไม่ และก็มีส้มตำต่าง ๆ เส้นมะละกอกรอบมาก ทำจานต่อจาน สับมะละกอเป็นเส้น ๆ แล้วแช่น้ำแข็งก่อนให้กรอบ ค่อยนำมาทำส้มตำ
ต่อไปร้านวนิดาจะเพิ่มสวนด้านนอกเพื่อให้เป็นโอเอซิสกลางกรุงจริง ๆ ซึ่งตอนนี้ช่วงเคอร์ฟิวเปลี่ยนเวลาเปิดเป็น 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม ส่วนในช่วงปกติจะเปิดขายอาหารเช้าด้วยตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึง 4 ทุ่มทุกวัน จองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่ 08-2826-6696 และ 0-2077-8968 สั่งดิลิเวอรีได้ทาง Line @vanidanabangkok
