บ้านข้าวหนม

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองอุทยานประวัติศาสตร์กรุงเก่าใกล้กรุงเทพฯ เพียง 60- 70 กม.เท่านั้น จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตเที่ยวครบจบในวันเดียว ได้ไหว้พระ ชมเมืองเก่า นั่งร้านเก๋ ชิลริมน้ำ ชิมของอร่อยทั้งคาวและหวาน ซึ่งเมื่อนึกถึงของหวานอยุธยา โรตีสายไหมย่อมมาก่อนเป็นอันดับแรกเสมอ แต่ความจริงในเกาะเมืองอยุธยายังมีคาเฟ่ขนมไทยเก๋ ๆ ในบรรยากาศอบอุ่นย้อนยุค เปิดมานาน 7-8 ปี แล้ว ถือเป็นเจ้าดังผู้นำเทรนด์ร้านขนมไทยพื้นบ้านทันสมัยก่อนใครเพื่อน ร้านนี้ตั้งชื่อได้น่ารักเก๋ไก๋แบบโบราณว่า บ้านข้าวหนม คาเฟ่ขนมไทยบ้านข้าวหนม เป็นของคนอยุธยาแท้ ๆ ชื่อว่า น้องยุ้ย ฐาปกรณ์ สุนทรพฤกษ์ ร่ำเรียนทางด้านโฆษณาการตลาดและทำงานที่กรุงเทพฯ เปลี่ยนใจไม่ไปเรียนต่อเมืองนอกเพราะต้องการกลับมาดูแลคุณพ่อคุณแม่ ย้อนไปในสมัยนั้น คาเฟ่ขนมไทยยังไม่มีเลย ด้วยความที่น้องยุ้ยชอบกินขนมไทย อยากให้คนอยุธยาลุงป้าน้าอาที่มีฝีมือการทำขนม มีช่องทางขายร่วมกันได้ น้องยุ้ยจึงปรับโรงรถของคุณพ่อให้กลายเป็นร้านขนมเล็ก ๆ และเพิ่งขยายร้านเพิ่มไปด้านหลังอีกในช่วงโควิดนี้เอง ปัจจุบันนี้มีขนมไทย ไอศกรีมและเครื่องดื่ม รวมกันมากกว่า 200 อย่างหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกวัน

บ้านข้าวหนมซ่อนตัวอยู่บนถนนอู่ทองฝั่งทิศใต้ของเกาะเมือง ตรงข้ามกับการประปาอยุธยา ไม่ไกลจากดงร้านโรตีประจำเมือง จอดรถตามไหล่ทางได้เลย มาแล้วต้องแชะรูปหน้าร้านกับป้ายเก๋ ๆ บนเสาข้างหน้าเสียก่อน พอเดินเข้าไปยิ่งตาลุกวาว มีมุมน่ารักให้ชมและชักรูปมากมาย ผนังฉาบปูนตั้งใจให้ดูเหมือนปูนกะเทาะ โชว์อิฐสีส้มด้านใน ล้อไปกับบรรยากาศกรุงเก่า ห้องด้านซ้ายมือเป็นมุมขนมไทยใส่ในกระบุงหาบ กระจาด ตะกร้าสานอยู่เต็มไปหมด มีทั้งมุมขนมแห้งและขนมสด อีกทั้งขนมเครื่องไข่ต่าง ๆ เช่น ทองหยิบ ทองหยอด อยู่ในตู้แช่เย็น ซึ่งน้องยุ้ยบอกว่าคอนเซปต์จุดขายของบ้านข้าวหนมคือ การปรับให้ขนมไทยมีความหวานน้อยลงและทำขนมชิ้นเล็กลง เพื่อให้สามารถลองชิมขนมได้หลาย ๆ อย่างในคราวเดียว โดยจะมีกลุ่มชาวบ้านในชุมชนทั้งที่เคยทำขนมมาแต่ดั้งเดิม หรือไม่ก็เกษียณจากงานประจำแล้ว ส่งขนมสดใหม่มาให้ทุกวัน รวมทั้งมีบางส่วนที่ทางร้านทำเอง อย่างเช่น ขนมต้มกับกล้วยเชื่อมสุดแสนอร่อย เป็นสูตรของคุณแม่แฟน(เสียชีวิตไปแล้ว) ซึ่งตอนนี้คนในบ้านทำให้ ส่วนน้องยุ้ยนั้นเคยเรียนทำฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอดมาก่อนด้วย วิธีการสั่งขนมก็ทันสมัยเป็นแบบบริการตัวเอง โดยให้เลือกข้าวหนมต่าง ๆ(น้องยุ้ยจงใจเขียนแบบโบราณ) หยิบใส่ในกระจาดที่เตรียมไว้ให้ จากนั้นจดออร์เดอร์น้ำและไอศกรีมลงกระดาษ จ่ายเงินที่เคาน์เตอร์บาร์เครื่องดื่ม รอสัญญาณบี๊บ ๆ จากเพจเจอร์ก็ไปรับของได้ โดยในช่วงนิวนอร์มอลนี้ช้อนส้อมและจานจะเป็นแบบใช้แล้วทิ้ง

ขอบอกว่าข้าวหนมทั้งหมดนั้น นอกจากหน้าตาจะน่าเอ็นดูแล้ว ยังกินอร่อยหวานน้อยหอมมัน น้องยุ้ยบอกว่าถ้าเป็นขนมที่ทำเอง จะใช้กะทิคั้นจากมะพร้าวเลย โดยไปซื้อวัตถุดิบที่ตลาดใหญ่ในเมืองอ่างทอง ขนมอร่อยมีเยอะมาก ๆ ก.ไก่ล้านตัว ไม่สามารถบรรยายได้หมด ที่ชื่นชอบมาก ๆ คือตะโก้เผือก (30 บาท)กระทงโต ๆ หน่อย ชั้นล่างเป็นตะโก้เผือก หวานกำลังดี ชั้นบนเป็นกะทิหนา ๆ หอมหวานมันเค็ม ใช้ช้อนจ้วงชิมไม่ยั้ง เปียกปูนกะทิสดสีเขียวใบเตยราดน้ำกะทิจนชุ่ม(50 บาท) ดีงามมาก กล้วยเชื่อมสีแดง ๆ(หรือเรียกสั้น ๆ ว่ากล้วยแดง) (40 บาท) เนื้อเหนียวนุ่มหนึบถูกใจมากเหมือนได้กินสมัยเด็ก ๆ น้ำเชื่อมเคี่ยวจนข้นเหนียวหอม นี่คือเมนูซิกเนเจอร์สูตรคุณแม่ตุ๊กตาของบ้านข้าวหนม ตำรับนี้ไม่จำเป็นต้องมีน้ำกะทิราดเลย ชุดขนมมงคล(70 บาท) ไม่ได้ชิมเหมือนมาไม่ถึงร้านบ้านข้าวหนมนะจ๊ะ มีทั้งขนมเสน่จันทร์ ทองเอก และจ่ามงกุฎ(หรือที่ถูกให้เรียกว่าดาราทอง) ทำชิ้นเล็ก ๆ นุ่มหนึบหอมฟุ้งในปาก ขนมชั้นหรือข้าวหนมชั้น(20-40 บาท) นุ่มเหนียวทรงดอกกุหลาบชิ้นเล็ก ๆ มีสีน้ำเงินอัญชัน สีเขียวใบเตย และสีอื่น ๆ เป็นสีผสมอาหาร ขนมห่อใบตอง(ชิ้นละ 7 บาท) จำพวกขนมสอดไส้ ขนมกล้วย ขนมฟักทอง ก็น่าลองทั้งนั้น ส่วนขนมตาลทำมาเป็นชิ้น ๆ เลย และมีข้าวเหนียวสังขยา (20 บาท)ขายเป็นห่อ ๆ อีกด้วย