ร้านภรณี(Bharani) เจ้าตำรับโฮมคุกกิ้ง มีเมนูเด็ดเป็นเอกลักษณ์ ทำกันมา 3 ชั่วอายุคนตั้งแต่ปี 2492 คนเก่าคนแก่ย่านสุขุมวิทรวมทั้งลูกหลานที่ถูกหิ้วกระเตงไปชิม รวมทั้งชาวต่างชาติทั้งเอเชียและฝรั่งตะวันตก (มีแนะนำในคู่มือ Lonely Planet ด้วย) ต่างรู้จักคุ้นเคยเป็นอย่างดี
ในสมัยแรกร้านภรณีอยู่ที่ย่านประสานมิตร ริมถนนสุขุมวิท ซึ่งปัจจุบันนี้ได้ย้ายร้านมาอยู่ที่ข้างในซอยสุขุมวิท 23 ช่วงที่จะลัดไปซอยสวัสดีได้ ตกแต่งด้วยไม้ในสไตล์บ้าน ๆ เจ้าของตอนนี้คือน้องแอ (ปณิธิ วสุรัตน์) หลานชายรุ่นที่ 3
คำว่าภรณีแปลว่าดวงดาว เป็นชื่อของคุณแม่น้องแอ ซึ่งคุณตาได้นำชื่อคุณเอ๊ะ ภรณีมาตั้งเป็นชื่อร้านตั้งแต่แรกเริ่ม (เริ่มจากการทำไส้กรอกกับแฮมโฮมเมดขาย) โดยแม่ครัวยังเป็นคนเดิม มาช่วยคุณตาตั้งแต่อายุ 16 ปี จนตอนนี้ 80 ปีเข้าไปแล้ว
ภรณีได้ปิดปรับปรุงร้านไปนานถึง 8 เดือน เพิ่งได้ฤกษ์เปิดใหม่เมื่อกลางเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้เอง ความรู้สึกเหมือนอยู่ในร้านโบราณสไตล์อังกฤษ ประดับด้วยรูปภาพครอบครัวสมัยก่อนมากมาย
เดี๋ยวนี้ร้านภรณีเน้นเฉพาะเมนูในตำนานที่ขายดี มีทั้งหมดประมาณ 30 อย่าง เมนูโฮมเมด ที่เป็นซิกเนเจอร์ดิชขึ้นชื่อประจำร้านใครมาต้องสั่ง มีตั้งแต่พล่าแฮม (250 บาท) ทำเอง รมควันกาบมะพร้าวจากเขาใหญ่ จนหอมนุ่มเป็นพิเศษ ม้วนมาเป็นคำ ๆ รสจัดจี๊ดจ๊าด ปรุงด้วยเกลือ (แทนน้ำปลา) มะนาวและน้ำตาลทรายเล็กน้อย แกล้มด้วยพริก ถั่วลิสง และผักสด
ทาโก้เนื้อ (หรือหมูและไก่) (320 บาท)ดัดแปลงมาจากอาหารเม็กซิกัน กลายเป็นเมนูเอกลักษณ์ที่ใคร ๆ ก็โหยหา ถาดหนึ่งมี 8 ชิ้นเล็ก ๆ แป้งกรอบพอดีคำ มีหน้าให้เลือกทั้งเนื้อสับ หมูสับ และไก่สับ โรยหน้าด้วยชีสและกะหล่ำปลีฝอย ราดซอส (ซัลซ่า) ซึ่งเข้มข้นถูกใจมาก ทำจากมะเขือเทศ หอมใหญ่ ใส่กระเทียมสับหนัก ๆ เคี่ยวปรงุรสเติมพริกป่นให้มีรสเผ็ดนิด ๆ นี่ก็เป็นเมนูที่อยู่คู่ร้านมาโดยตลอด
เมนูข้าวขึ้นชื่อที่ห้ามพลาดอีกอย่างคือข้าวผัดเนื้อเค็ม (150 บาท) หอม ๆ ซึ่งสไตล์ของภรณีจะใส่เนื้อเค็มซึ่งมีเนื้อมาก ๆ หน่อย แต่ยังกรอบอยู่ (ตามความชอบของเจ้าของร้าน) ชิมแล้วจะติดใจ ใครไม่กินเนื้อก็มีข้าวผัดหมูเค็ม (150 บาท) ส่วนข้าวผัดภรณี (150 บาท) นั้นจะผัดกับแฮมโฮมเมดของภรณี
วิธีการทำเนื้อเค็มและหมูเค็มนั้น จะนำไปตากแดด 1 ครั้ง แล้วเอาไปทอดทั้งชิ้นใหญ่ ๆจากนั้นใช้มีดสับให้เนื้อฟู ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปทอดซ้ำอีกครั้ง ซึ่งจะผัดข้าวกับน้ำมันเนื้อหอม ๆ ปรุงด้วยซอสปรุงรส
ไส้กรอกเวียนนาทอด (195 บาท) ของกินเล่นที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่แย่งกันคนละหนุบคนละหนับ เป็นไส้กรอกโฮมเมดหอม ๆ กรอบ ๆ กินเพลินหยุดไม่ได้จนต้องสั่งซ้ำจานที่สอง
ทีเด็ดอีกอย่างของภรณีคือสตูลิ้นวัว (350 บาท) ใช้ลิ้นวัวทั้งชิ้นใหญ่ นำมาเคี่ยวนาน 4-5 ชั่วโมงจนนุ่ม ราดน้ำเกรวี่จนท่วม (หนักมะเขือเทศเข้มข้น) นอกจากนี้มีสตูลิ้นหมูด้วย (350 บาท)
เมนูลิ้นวัวกึ่งฝรั่งกึ่งไทยที่อร่อยสุด ๆ อีกอย่าง คือ ลิ้นวัวทอด (350 บาท) เค็มหอมมัน เป็นของอร่อยที่หากินได้ยาก ห้ามพลาดเลยนะจ๊ะ สั่งเป็นข้าวผัดลิ้นวัว (250 บาท) ก็ได้ มีลิ้นหมูทอดด้วยเช่นกัน (250 บาท)
ไก่ทอดภรณี (160 บาท) ไก่เนื้อสะโพกหมักซอสปรุงรสกับพริกไทย ทอดมาร้อน ๆ หอม ๆ แกล้มด้วยกะหล่ำปลีคลุกน้ำจิ้มไก่ เข้ากันดีอย่างไม่น่าเชื้อ คืออีกหนึ่งเมนูในตำนาน
อาหารจานซุปดั้งเดิม ซุปบุยยาเบส (250-350 บาท) ที่เป็นซุปรวมญาติของทะเล ใส่ทั้งหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์และเนื้อปู สูตรนี้คุณตาของน้องแอดัดแปลงมาจากเมนูฝรั่งเศสตอนใต้ ปรุงด้วยมะเขือเทศเข้มข้น ใบกระวาน กานพลู หญ้าฝรั่น เคี่ยวและปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูกับเกลือ ขนมปังกระเทียมที่เสิร์ฟคู่กันหอมอร่อยมาก ทาด้วยพาสลีย์ เนยและกระเทียม อบร้อน ๆ เมื่อมีคนสั่ง
นอกจากนี้ยังมีก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกในชื่อก๋วยเตี๋ยวเรือแสนแสบ ใส่ลูกชิ้นและเนื้อสด (ช่วงแรกที่เปิดใหม่นี้ยังไม่มีตับ) เลือกได้ทั้งเนื้อสดปกติ (95-110 บาท) หมูออร์แกนิก (130-150 บาท) อีกทั้งเนื้อไทย-เฟรนช์ (140-160 บาท แนะนำตัวนี้) มีเส้นให้เลือกหลากหลายทั้งเส้นเล็ก เส้นหมี่ เส้นใหญ่ บะหมี่ วุ้นเส้น และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป
เมนูไทยอื่น ๆ ยังมีครบถ้วน ทั้งโรตีแกงเผ็ดเนื้อ/หมู พริกขี้หนูสวน (195 บาท) แกงเขียวหวานไก่ (150 บาท) มัสมันเนื้อ (250 บาท) มัสมั่นไก่ (180 บาท) ต้มยำกุ้ง (180 บาท) และต้มยำกุ้งแม่น้ำ (350 บาท) สั่งได้ทั้งน้ำข้นและน้ำใส ส่วนของหวานมีบัวลอยเผือกกับกล้วยบวชชี (70 บาท) (ช่วงนี้ยังไม่มีไอศกรีมกะทิทรงเครื่อง)
ขอเชิญมาระลึกความหลังกันได้ทั้งครอบครัว ร้านภรณีเปิดบริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 3ทุ่ม หยุดทุกวันจันทร์ โทรสอบถามได้ที่เบอร์ 09-1732-0763 และ 0-2664-4454 พาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย ลูกเด็กเล็กแดง มาด้วย รับรองมีเมนูถูกใจทุกเพศทุกวัย