เมนูยอดนิยม คือสุกี้ยากี้กับชาบู ชาบู โดยมักจะสั่งกันเป็นเซ็ต มีให้ครบทุกอย่าง กินอิ่มกำลังดี
ในเซ็ตสุกี้ยากี้จะมีสลัด ข้าว ซุปมิโซะ ผักดอง คอนยากึ ชุดผักกับเห็ดและเต้าหู้ และมีไข่ดิบให้ 1 ฟองสำหรับจิ้มเนื้อ
ส่วนเซ็ทชาบู ชาบู จะมีเส้นอูด้งจิ้มซอสงาแทนคอนยากึ และมีน้ำซอสพอนสึรสเปรี้ยวกับซอสงาข้นๆให้เลือกจิ้มเป็นน้ำจิ้ม ซึ่งจะมีพริกกับกระเทียมให้ปรุงเพิ่มแบบไทยๆได้ด้วย และของหวานในเซ็ตทั้งสุกี้ยากี้และชาบู ชาบูคือคาราเมล พุดดิ้ง(คัสตาร์ด)
Masa Garden วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 11.00 – 22.00 น. ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เปิดเป็นรอบ วันละ 5 รอบ 11.00 – 14.00 น. 14.00 – 16.00 น. 16.00 +18.00 น. 18.00 – 20.00 น. และ 20.00 – 22.00 น .โทร 02-123-8581 / 091-438-9999
Masa Garden มีเมนูกุ้งมังกรภูเก็ต กินเป็นนาเบะ พิเศษกว่าสาขาอื่นๆ(350 บาท++ ต่อ 100 กรัม)
line : @masagroup
Thonglor Soi 5: 02-392-4769 / 082-358-7777
Siam Paragon (G Floor): 02-129-4880 / 061-392-9777
Suki Masa Erawan Bangkok: 092-250-4777 / 092-250-9777
ตอนนี้ Suki Masa มีอยู่ 4 สาขา ที่แรกคือในซอยทองหล่อ 5 เพียง 100 เมตรจากปากซอย ทางขวามือ มีทางเข้าที่จอดรถอยู่ก่อนถึงร้าน มาประทับตราที่ร้านจอดฟรี 2 ชั่วโมง อีกสาขา อยู่ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน ชั้น G และสาขาซอยพร้อมจิต จากซอยสุขุมวิท 39 ฝั่งซ้ายมือ ตรงเส้นวันเวย์ที่จะไปสุขุมวิท 31 ที่เรียกว่า Masa Garden และสาขาน้องใหม่ Erawan Bangkok ราชดำริ
เมนูยอดนิยม คือสุกี้ยากี้กับชาบู ชาบู โดยมักจะสั่งกันเป็นเซ็ต มีให้ครบทุกอย่าง กินอิ่มกำลังดี ในเซ็ตสุกี้ยากี้จะมีสลัด ข้าว ซุปมิโซะ ผักดอง คอนยากึ ชุดผักกับเห็ดและเต้าหู้ และมีไข่ดิบให้ 1 ฟองสำหรับจิ้มเนื้อ
ส่วนเซ็ทชาบู ชาบู จะมีเส้นอูด้งจิ้มซอสงาแทนคอนยากึ และมีน้ำซอสพอนสึรสเปรี้ยวกับซอสงาข้นๆให้เลือกจิ้มเป็นน้ำจิ้ม ซึ่งจะมีพริกกับกระเทียมให้ปรุงเพิ่มแบบไทยๆได้ด้วย และของหวานในเซ็ตทั้งสุกี้ยากี้และชาบู ชาบูคือคาราเมล พุดดิ้ง(คัสตาร์ด)
ซึ่งน้ำซุปของชาบู ชาบู จะมีให้เลือก 8 แบบ มีน้ำซุปดาชิ(Dashi) ทำจากปลาแห้งกับสาหร่ายคอมบุ น้ำซุปทงคตสึคอลลาเจน(Tonkotsu Collagen)หรือน้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวนาน 5-6 ชั่วโมงอย่างต่ำ(แนะนำน้ำซุปชนิดนี้) น้ำซุปยูสึ ทงคตสึ คอลลาเจน น้ำซุปมิโซะ ทงคตสึ น้ำซุปน้ำเต้าหู้ดาชิ(Soy Milk Dachi) ซุปงาทงคตสึ(Goma Tonkotsu) ซุปนาเบะโชยุ(Nabe Shoyu) และซุป Akakara nabe)
โดยทั้งเซ็ตสุกี้ยากี้และเซ็ตชาบูชาบู จะแบ่งตามชนิดของเนื้อสัตว์ คนชอบกินเนื้อมีให้เลือกตั้งแต่ เนื้อตัวใหม่คือ คุโรฮานะ วากิว(Kurohana Wagyu) A5 จากฟาร์ม Sugimoto ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น (1,550 บาท++) เนื้อวากิว A4(Wagyu Beef A4)(1,250 บาท เนื้อมาสะ(Masa Beef)(1,050 บาท++) และเนื้อวากิวพิเศษ (Special Wagyu Beef)(800 บาท++) ซึ่งเป็นเนื้อนำเข้าจากแถบคันไซ ให้คนละ 150 กรัม ซึ่งปริมาณไขมันแทรกและราคาจะลดหลั่นกันลงมาตามที่บอกไป โดยถ้าเป็นสุกี้ยากี้จะแล่ชิ้นหนาๆให้มา 4 ชิ้น ส่วนชาบู ชาบูจะแล่ชิ้นบางกว่าให้มา 5 ชิ้น
สำหรับผมแล้วแค่เซ็ตเนื้อมาสะก็นุ่มอร่อยเหลือหลายคุ้มค่าเกินราคา แต่ถ้าใครอยากรู้ซึ้งถึงคำว่าละลายในปากนั้นเป็นเช่นไรก็สั่งเนื้อวากิว A5 มาได้เลย โดยเราสามารถสั่งเนื้อเป็นจานๆเพิ่มต่างหากมาลิ้มลองได้ด้วย
ตอนนี้มีเนื้อใหม่มาอีกเพียบ ทั้งเนื้อซาบูตง(Zabuton A 4)(1,250 บาท++) เนื้อ Chuck Roll A4(1,150 บาท++) เนื้อ Karubi(Short Ribs)(950 บาท++) เนื้อ Premium A4 Kuroge Wagyu Beef Set(1,150 บาท++) เนื้อ Special Kuroge Wagyu Beef Set(850 บาท++) เนื้อ Low Fat Kuroge Wagyu Beef Set(750 บาท++)
ใครไม่กินเนื้อก็มีเซ็ตหมูคุโรบูตะ(Kurobuta Pork)(480 บาท++)นุ่มๆ เซ็ตเนื้อไก่เลี้ยงปล่อย(450 บาท++) เซ็ตเนื้อแกะนิวซีแลนด์(550 บาท++) และเซ็ตอกเป็ด(700 บาท++) อีกด้วย
ถ้าสั่งสุกี้ยากี้ จะมีพนักงานมาทำให้ เอาเนื้อชิ้นโตๆหนาๆลงไปผัดซอสวาริชิตะพอขลุกขลิกกับหอมใหญ่ จนเนื้อพอสุก คีบให้เราชิมทีละชิ้น ใครสั่งชาบู ชาบู สามารถลวกเนื้อทำเองได้เลย แนะนำว่าอย่าปล่อยให้สุกจนเกินไป แค่ลวกพอสีชมพูเรื่อๆจะกินอร่อยมาก ทั้ง 2 อย่างนี้อร่อยจนเก็บไปฝันถึงอีกนาน
พอกินใกล้จะเสร็จ ถ้ายังไม่ได้กินข้าวก็ขอให้พนักงานนำข้าวใส่ลงกระทะผัดให้ โดยพนักงานจะกะปริมาณน้ำซอสสุกี้ให้พอดีกับข้าว รับรองว่าจะได้ข้าวที่หอมอร่อยมากจริงๆ ส่วนถ้าเป็นชาบูชาบู ให้พนักงานใส่ข้าว ตอกไข่ใส่ลงไป โรยหน้าด้วยต้นหอม กระเทียมกรอบ และสาหร่ายกลายเป็นข้าวต้มญี่ปุ่น โซซุย ก็อร่อยมากๆเช่นกัน
นอกจากนี้ที่ร้านสุกี้ มาสะยังมีเมนูซูชิ(เน้นแฟนซีโรลล์) สลัด ข้าว(ด้ง)หน้าต่างๆให้เลือกมากมายเช่นกัน
ยังมีเซ็ตนาเบะ กิมจิ(Nabe Kimchi) ให้เลือกเนื้อต่างๆลวกในน้ำซุปใส่กิมจิ เซ็ตบัตเตอร์ ยากิ(Butter Yaki) ซึ่งจะย่างเนื้อต่างๆหรือหมูคุโรบูตะกับเนยในกระทะแบน(เทปปัน) แล้วเสิร์ฟมาให้ในกระทะร้อน ซึ่งจะจิ้มกับน้ำจิ้มเหมือนเวลากินเทปปันยากิ ส่วนคนที่ชอบกินอาหารทะเลก็มีซีฟู้ด นาเบะ(ส่วนใหญ่จะเลือกน้ำซุปใส)ใส่ของทะเลต่างๆรวมทั้งมีกุ้งแม่น้ำให้เลือก
ถ้าอยากชิมของหวานอื่นๆนอกเหนือจากในชุด ขอแนะนำคุซุคิริ(Kuzukiri)(180 บาท++)ที่ประกอบด้วยเส้นใสๆเหนียวนุ่มลื่นคอทำจากแป้งรากไม้ Kudzu จิ้มน้ำเชื่อม Kusomitsu ที่ทำจากน้ำตาลทรายแดงเคี่ยวใส่ขิงฝนลงไปเล็กน้อยจนชุ่มโชก จากนั้นนำไปจิ้มผงถั่วเหลืองอีกที และเมนูยูสึกรานิต้า(Yuzu Granita)(95 บาท+)เป็นเกล็ดน้ำแข็งหวานเย็นรสยูสึหอมๆเปรี้ยวๆ กินแล้วเย็นชื่นใจทั้ง 2 เมนู