ริมคลองหลอดวัดราชบพิธ มีร้านอาหารสตรีทฟู้ดน่าลิ้มลองอยู่ตามแนวทางเดินริมคลองหลายเจ้า หนึ่งในนั้นคือร้านข้าวแกงที่ไม่ธรรมดา เพราะใช้ของดีๆมีราคารวมทั้งของทะเลไซส์ใหญ่มาทำกับข้าวในแต่ละวัน บางอย่างสนนราคาหลายร้อยบาทก็มีด้วย จนใครๆพากันตั้งฉายาให้ว่า ข้าวแกงไฮโซป้าแอ๋ว หรือข้าวแกงไฮโซคุณแอ๋ว

มาร้านนี้ให้จอดที่ดิโอลด์สยาม หรือจะใช้บริการรถไฟฟ้ามหานคร MRT มาลงที่สถานีสามยอด ทางออกที่ 3 ข้ามถนนที่สี่แยกเฉลิมกรุง เดินมาตามถนนตีทองฝั่งที่รถวิ่งสวนกันได้ เพียงไม่ถึง 100 เมตรให้เลี้ยวซ้ายเข้าตรอกวิสูตร ริมคลองหลอดวัดราชบพิธ จากนั้นเดินเลียบคลองเพียงไม่กี่สิบก้าวก็ถึงร้านข้าวแกงไฮโซป้าแอ๋ว อยู่ในตึกแถวซ้ายมือ เลขที่ 242 ซึ่งไม่มีป้ายชื่อร้าน สังเกตง่ายๆวันไหนที่เปิดขาย ช่วงสายๆป้าแอ๋วจะยืนทำอาหารอยู่หน้าร้านกลิ่นหอมฟุ้งทีเดียว

ซึ่งไม่ไกลจากสี่แยกเฉลิมกรุง  เพียงไม่กี่สิบเมตรทางซ้ายมือริมถนนตีทอง ยังมีอาคารจอดรถด้านหลังร้าน Premium Gems (มีค่าจอดรายชั่วโมง) อีกแห่งด้วย

ร้านข้าวแกงไฮโซป้าแอ๋วเปิดมานานกว่า 42 ปี ช่วงเริ่มแรกจะอยู่ที่บ้านในตรอกวิสูตร ต้องข้ามคลองหลอดไปอีกฝั่ง จากนั้นย้ายมาขายอยู่ที่ตรงนี้นาน 22 ปีแล้ว

ป้าแอ๋ว(ในวัย 63 ปี)จะทำกับข้าววันละ 14-15 อย่าง ใช้แต่ของดีๆชิ้นโตๆตามที่บอกไปแล้ว ใครอยากตามมาลิ้มลองหรือซื้อกลับบ้าน สิ่งสำคัญคือให้โทรมาถามเมนูและสั่งจองใส่ถุงกลับบ้านก่อนตั้งแต่ช่วง 10 โมงกว่า ได้ที่เบอร์ 08-6003-4884 และ 0-2221-9952 และร้านจะเปิดให้นั่งกินหรือซื้อกลับตั้งแต่11.45 น. เป็นต้นไปนะจ๊ะ ส่วนใครอยากจะกินที่ร้านก็นั่งกินได้ 2 โต๊ะ โดยส่วนใหญ่จะซื้อกลับบ้านมากกว่า 

แต่ละวันป้าแอ๋วจะเขียนเมนูกับข้าวประจำวันขึ้นกระดานไว้ว่าวันนี้มีอะไรบ้าง และอีกป้ายจะบอกราคาไว้อย่างชัดเจนทั้งข้าวราดแกงและสั่งกับข้าวใส่จานต่างหาก หรือใส่ถุงกลับบ้าน มีคำเตือนอีกอย่างคือร้านนี้รับแต่เงินสด ไม่รับโอนเงินนะจ๊ะ

น่าเสียดายวันที่เราไปชิมนั้นเป็นวันนักขัตฤกษ์ที่สะพานปลาหยุดทำการ จึงไม่มีปลาชั้นดีให้ชิม ซึ่งตามปกติจะมีทั้งเนื้อปลาอินทรีเป็นชิ้นๆ เนื้อปลาเก๋า ปลาจะละเม็ดและปลาเต๋าเต้ยทั้งตัว หมุนเวียนเปลี่ยนไป ซึ่งราคานั้นจะคิดตามขนาดของปลา

แต่ไม่เป็นไรยังมีเมนูชั้นดีซิกเนเจอร์อีกหลายอย่าง ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดที่ผมชื่นชอบมากๆมี 4 อย่างคือ หมูหวาน(ใส่จาน 100 บาท) หมูสามชั้นชิ้นกำลังดีหนาๆผัดจนน้ำตาลรัดตัวรสชาติหอมหวานเข้าเนื้อ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากรายใส่ฟัก รสชาติเข้มข้นหอมกะทิ เครื่องแกงไม่เผ็ดมากตามแบบฉบับไทยจีน เนื้อปลากรายนวดเองชิ้นโตเหนียวหนึบถูกใจ(100 บาท) บางวันก็จะแกงใส่มะเขือเปราะ ใส่ยอดมะพร้าวด้วย 

และก็มีผัดกะเพราที่หอมมาก ซึ่งวันนี้ทำเมนูผัดกะเพราไก่บ้าน(100 บาท) บางชิ้นสับติดกระดูกแทะเพลิน ใส่เครื่องในเช่นกึ๋นด้วย เนื้อไก่บ้านติดหนังหนึบแต่นุ่มหอมอร่อย

อีกเมนูซิกเนเจอร์คือเนื้อปูผัดพริก(300 บาท) ผัดใส่พริกเหลืองและต้นหอม ใช้เนื้อกรรเชียงปูค่อนข้างโตต่อนใหญ่ๆเคี้ยวได้สดอร่อยเต็มคำ เนื้อปูเป็นกับข้าวขายจานละ 300 บาท ถ้าราดข้าวก็คิด 120 บาท ซึ่งน้องอาท สมาชิกที่ทำร้านอาหาร บอกว่าคุ้มค่าเกินราคาที่จ่ายไป นอกจากนี้ก็มีเนื้อปูผัดผงกะหรี่รสชาตินุ่มนวล ถ้าสั่งเป็นข้าวราดเนื้อปูผัดผงกะหรี่+เนื้อปูผัดพริกรวมกันจะคิดจานละ 150 บาท ขอบอกย้ำว่ากับข้าวป้าแอ๋วไฮโซอร่อยจนเห็นสวรรค์รำไร

นอกจากนี้เมนูในวันนั้นก็มีกุ้งกระเทียม(จานละ 200 บาท)รสนุ่มนวล ใช้กุ้งแชบ๊วยสดๆตัวค่อนข้างโตอีกแล้ว อีกทั้งผัดเผ็ดกบ(100 บาท) น่องอวบๆเนื้อเยอะๆ แทะอร่อย ต้มยำขาหมู(100 บาท)ใส่ผักชีฝรั่งหอมๆ ผัดหน่อไม้เปรี้ยวหรือผัดหน่อไม้ดองใส่ไก่(100 บาท) ข้าวผัดกุ้งและกรรเชียงปูผสมกันใส่มะเขือเทศ(200 บาท) ทอดมันกุ้งชิ้นโตๆ(ชิ้นละ 10 บาท) ส่วนของหวานวันนั้นคือ ถั่วเขียวต้มน้ำขิง

วันอื่นๆป้าแอ๋วยังมีเมนูเปลี่ยนไปอีกหลากหลายเช่นปลาทอด ปลาราดพริก ผัดฉ่า ผัดขิง และมีของดีที่ต้องโทรสั่งล่วงหน้าถึงจะทำ คือปูทะลนึ่งเป็นตัวๆ ซึ่งนานๆทีจะมีขาย ได้มีตลอด