VIP ส้มตำ CLUB ร้านส้มตำที่เปิดมาเพียง 8-9 ปี แต่มีสาขามากมายทั่วประเทศถึงประมาณ 30 แห่งในตอนนี้ เจ้าของมีพื้นเพเป็นคนขอนแก่น คุณแคท ฑีฎานันท์ โชคสวัสดิ์ (ในวัย 40 ปี) เป็นคนชอบทำอาหาร เปิดร้านกาแฟที่ขอนแก่นขึ้นก่อน ชื่อ VIP Coffee Club ซึ่งลูกค้าชอบขอนำอาหารมากินที่ร้านกาแฟด้วย คุณแคทเลยเพิ่มเมนูส้มตำและอาหารอีสานด้วยเลย จึงเป็นที่มาของ VIP ส้มตำ Club เริ่มจากที่แถวม. ขอนแก่นนั่นเอง ส่วนร้านในกรุงเทพฯ มาเปิดได้นาน 6 ปีแล้ว

   ด้วยน้ำปลาร้าสูตรเด็ดสุดแซ่บนัวของคุณแคท ทำให้มีคนขอแฟรนไชล์ไปเปิดสาขาอยู่ตลอด โดยมีสาขาที่คุณแคททำเองอยู่เพียง 2 แห่งคือที่ในซอยนาคนิวาส 34 เข้าซอยไปเพียง 50 เมตรอยู่ทางขวามือ ปากทางเข้าบ้านกลางเมือง มีที่จอดรถสะดวกสบาย กับที่ขอนแก่นอีกสาขาหนึ่ง

    ไปแต่ละที่จะได้ลิ้มลองอาหารอีสานรสมือเดียวกัน เพราะใช้น้ำยำ น้ำปลาร้าตำ (ใส่ส้มตำ) และน้ำปลาร้าแกงจากครัวกลางเหมือนกัน ซึ่งน้ำปลาร้าใช้ยี่ห้อ VIP ส้มตำ Club เหมือนชื่อร้าน มีตราอ.ย. ถ้าติดใจก็ซื้อเป็นขวดได้เลย  รสนัวแต่ไม่โหน่งคือกลิ่นไม่แรงมาก เผ็ดกลางๆกำลังดี โดยรับปลาร้าปลารวมมาจากเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ แล้วมาต้มปรุงรสเพิ่มที่อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น มีทั้งที่ขายเป็นแกลลอนและเป็นขวด

    ร้านที่ซอยนาคนิวาส 34 นี้ เป็นห้องปรับอากาศทั้งร้านชั้นเดียว แต่ไม่เน้นตกแต่งอะไรมากนัก ผู้ที่มาอุดหนุนคือคนที่ชอบในรสชาติแซ่บนัวของที่ร้านไม่เน้นบรรยากาศ มีเมนูอลังการอยู่หลายอย่าง แนะนำว่าควรมากันเป็นหมู่คณะจะได้สั่งมาแย่งชิมกันได้ 

    เมนูอีสานห้ามพลาดคือยำน้ำนัว(199-299(คนสั่งเยอะ)-499 บาท) ที่เห็นนี้คือไซส์จัดเต็ม 499 บาท ใส่เครื่องสารพัด ทั้งหอยแมลงภู่ ปูม้า กุ้งดอง กุ้งสด กุ้งสะดุ้งที่สุกเพียงเล็กน้อย ปลาเหมึก หอยแครง ถ้ามีหอยนาก็ใส่ด้วย ปรุงน้ำยำโดยใส่น้ำปลาร้าตำเหมือนทำส้มตำ ใส่มะเขือเทศ พริกสด พริกแห้งคั่ว จานใหญ่ให้เยอะ ถือเป็นเมนูยอดนิยม

    ส่วนเมนูส้มตำมีให้เลือกมากมาย ขอแนะนำตำโคตรมั่วโดนตีน (129 บาท) ที่ชิมแล้วโดนใจมาก ชื่อมีที่มาจากตีนไก่ตุ๋นที่ใส่ในตำจานนี้ อีกทั้งยังมีหมูยอ ปลาหมึก หน่อไม้ แคบหมู ผักลวก ขนมจีน ปรุงด้วยน้ำปลาร้าตำเช่นกัน คุณแคทบอกว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่มาจากภาคอีสาน

    ตอนที่ไปชิมเป็นหน้าไข่มดแดงกับเห็ดเผาะ เมนูเด็ดที่เราสั่งจึงเป็นแกงผักหวานไข่มดแดงเห็ดเผาะ(250 บาท)หอมนัวรสชาติอีสานแท้ คุณแคทบอกว่าไข่มดแดงเม็ดใหญ่สวยต้องมาจากชุมพรทางใต้ พอหมดหน้าร้อนก็จะแช่แข็งเก็บไว้ ส่วนเห็ดเผาะมาจากกาฬสินธุ์ ใส่น้ำปลาร้า ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระชาย น้ำใบย่านาง ใบแมงลัก ข้าวเบือ ถ้าใครอยากให้ใส่ชะอมเพิ่มก็บอกที่ร้านได้

    ยังมีของดีถิ่นอีสานอีกมากมาย เช่นอ่อมขาลาย(120 บาท) ใส่น้ำปลาร้า เนื้อลายรับจากเจ้าประจำที่บางกะปิ ปลาส้มทอด(ตัวละ 199 บาท) ไม่เปรี้ยวจนเกินไป เป็นปลาส้มปลาตะเพียนจากยโสธร แกล้มหอมแดง กระเทียม พริกขี้หนู ผักกาดขาว ของแก้เผ็ดให้สั่งคอหมูย่างมากินแกล้ม

    ซึ่งเมนูมีครบทั้งยำ ส้มตำ(เกือบ 40 ชนิด) ต้ม แกง เกาเหลาใส่ปลาร้า ของย่าง เมนูผัด และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งคุณแคทแนะว่าต้องสั่งผัดกะเพราเนื้อสับหน่อไม้ส้ม(120 บาท) หรือหน่อไม้ดองฝานเป็นเส้นเล็กๆเหมือนมะละกอด้วย