1. Shoryu Hotpot Experience
“ชาบูอุ่น ๆ กับความหอมกรุ่นสไตล์ญี่ปุ่นโฮมเมด”
หน้าฝนทั้งทีมันก็ต้องมีความอร่อยแบบอุ่น ๆ มารองท้องกันหน่อยป้ะแม่! กับ Shoryu Hotpot Experience ชาบูสายเอเชี่ยนที่มีให้เลือกทั้งญี่ปุ่น กวางตุ้ง และฮ่องกง ขอบอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักชาบู ความดจีย์ต่อใจที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศศศศ! พูดถึงชาบูก็ต้องชุบชูจิตใจด้วยน้ำซุปกันก่อนแล้วหนึ่ง! ที่ร้านเค้ามีซุปให้เลือกถึง 6 ชนิด ทั้งซุปใสชาบูชาบู ซุปรสชาติอูมามิที่ได้จากปลาแห้ง เห็ดหอม และสาหร่ายคอมบุ, ซุปนาเบะสไปซี่ (Nabe Spicy) ซุปลูกครึ่งญี่ปุ่นฮ่องกงที่เพิ่มความเผ็ชฮอตด้วยพริกเผาคั่วและเครื่องเทศ, ซุปสุกี้ยากี้ฮอกไกโด ซุปน้ำดำที่หอมปลาแห้งและหวานรสผักธรรมชาติแบบสุด ๆ นอกจากนี้ก็ยังมีซุปหม่าล่าเซี่ยงไฮ้ ซึ่งปรับสูตรเพื่อให้กินง่ายขึ้น หอมเผ็ดแต่ไม่ลิ้นชา รวมถึงซุปกระดูกหมูทงคตสึ(Tonkotsu) น้ำซุปสีขาวขุ่นจากกระดูกคาตั๊งและเอียเล้งที่เคี่ยวนานกว่า 12 ชั่วโมง! และขอปิดท้ายด้วย Must Try Item กับซุปเกลือ(Shio) น้ำซุปสไตล์ฮ่องกง ที่ใช้ไก่ดำและไก่บ้านมาเคี่ยวกับเครื่องเทศจีนนานถึง 8 ชั่วโมง ความกลมกล่อมของโลกใบนี้ที่ไม่ลองไม่ได้เล้ยยยย ฮั่นแน่! เล่าไปแค่น้ำซุป ก็มีคนแอบกลืนน้ำลายแล้วหนึ่ง! หิวเบอร์นี้ต้องโทรไปสั่งกันหน่อยแล้วที่ 063-502-6666 หรือเฟซบุ๊ก Shoryu Hotpot Experience สั่งครบ 1,000 ตอนนี้ มีบริการส่งฟรีในรัศมี 10 กิโลเมตรแรกด้วยน้า!
ซุปเดือดปุด ๆ อยู่ตรงหน้า จะไม่ถามหาเนื้อก็คงไม่ไหว! ใครสายเนื้อถ้าเลือกร้านนี้ไม่มีผิดหวัง เพราะที่ Shoryu มีเนื้อให้เลือกกันถึง 3 ระดับ เริ่มจากเนื้อออสเตรเลีย (MBS 3-5) แนะให้สั่งเป็นชุดเรียกว่า Shoryu Premium Beef ที่มีทั้ง เนื้อพื้นท้องหรือเสือร้องไห้ (Brisket) เนื้อสันคอ (Zabuton) และเนื้อส่วนหัวไหล่ (Chuck Eye) ถ้าอยากอัปเกรดความฟินขึ้นมาอีกหน่อย ก็ต้องลองเนื้อวากิวออสเตรเลีย จากชุด Shoryu Special Wagyu (MBS 7-9 มีมันแทรกเยอะ) ที่มีทั้งเนื้อวากิวออสเตรเลียส่วนใบพาย (Paleron) และก็มีเนื้อวากิวออสเตรเลียส่วนสันกลาง (Striploin) กับเนื้อวากิวออสเตรเลียส่วนซี่โครง (Short Rib) หรือใครสนใจรับเป็นความปังระดับตำนานก็จัดไป กับเนื้อวากิวญี่ปุ่นความนุ่มที่ละลายในปาก มีให้เลือกระหว่างเนื้อวากิวส่วนสันกลาง (Striploin) เกรด A4 จากเมืองไซตามะ และเนื้อวากิวส่วนสันกลาง (Striploin) เกรด A5 จากเมืองคาโกชิม่า หรือถ้าหากไม่กินเนื้อก็ยังมีสันคอหมูดำคุโรบุตะไว้คอยบริการด้วยจ้า และนอกจากนี้ที่ Shoryu ก็ยังมีอาหารทะเลสด ๆ จากทั่วทุกมุมโลกให้ได้ลองสั่งมาชิมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นปูทาราบะ ปลาหมอทะเล กุ้งแม่น้ำ กุ้งมังกร 7 สีจากภูเก็ต ล็อบสเตอร์แดงจากออสเตรเลีย และแคนาเดียนล็อบสเตอร์ ที่จะกินแบบ Hot Pot ก็ได้ หรือจะเอาไปปรุงเป็นอาหารสไตล์จีนก็ไม่เสียค่าบริการกันไปอี้กก
📍 พิกัด :
- 769/3 โครงการ Little Walk ถ.บางนา-ตราด กม. 4 บางนา กรุงเทพฯ
- เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.00 – 21.00 น.
อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ Shoryu Hotpot Experience
2. Shichi Japanese Restaurant
“โชว์ ชิม ลิ้มรส ความฟินเหนือระดับที่ให้มากกว่าความอร่อย”
อยู่บ้านนาน ๆ แบบนี้ มาลองเปลี่ยนบรรยากาศด้วยความตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจกับฝีมือการควงตะหลิวของเชฟจากร้าน ‘Shichi Japanese Restaurant’ กันหน่อยป๊ะล่าาาา! ใครชอบความตื่นเต้นท้าทายบอกเลยร้านนี้อะตอบโจทย์! ด้วยสเต็ปการควง การผัด การตอกไข่ หรือจะเป็นจุดไฟให้ลุกโชนกันแบบเบิร์นเบบี้เบิร์น ที่นี่ก็คือมีทั้งหมด!! แถมปรุงสดให้เห็นกันจะ ๆ แบบ HD ชิดซ้าย 4K ชิดขวา เพราะตรงหน้ามีแต่ความสนุกพร้อมเสิร์ฟแบบถึงเครื่อง จากเชฟสายเทปปันยากิล้วน ๆ เท่านั้น! ขอเปิดแบบเนื้อเน้น ๆ กันด้วยคอร์ส Ume คอร์สเนื้อสายแบบฉ่ำ สายแน่น สำหรับคนที่ไม่ชอบมันมาก ซึ่งทางร้านจะใช้เป็นเนื้อคาโกชิมะ ส่วนเทนเดอร์ลอยน์หรือสันใน (120 กรัม) ที่เชฟจะผัดจนกรอบนอกนุ่มใน เลือกความสุกได้ตามชอบ แถมยังมีกุ้งลายเสืออันดามันและปลาหิมะจากฝรั่งเศสเสิร์ฟมาสวย ๆ แบบเรียบหรูดูเริ่ด ยิ่งพอผัดสไตล์เทปปันแล้วบอกเลยว่าทั้งหมดนี้คือสิบ สิบ สิบ!! แต่ถ้าใครอยากฟินกับความมันความหอมของมันเนื้อ ก็เปลี่ยนมาสั่งเป็นคอร์ส Tsubaki จะปังมาก ซึ่งคอร์สนี้เค้าก็มี 3 อย่างรวมซีฟู้ดเหมือนกันกับคอร์ส Ume แต่จะเปลี่ยนจากเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ เป็นเนื้อสันนอก สตริปลอยน์ (Striploin) คาโกชิมะ ที่พอโดนความร้อนบนเตาเทปปันความดิวอี้วิบวับจากเนื้อแทรกมันคือพร้อมดึงสายตา!! อ่านดึก ๆ ยิ่งนึกยิ่งหิวขนาดนี้ ยกหูโทรถามคอร์สใด ๆ ของ Shichi Japanese Restaurant กันได้เลยที่ 02-178-1777 ได้คิวเมื่อไหร่ก่อนไปก็อย่าลืมเช็กสุขภาพกันให้พร้อม และต้องกินร้อน ช้อนกลาง เว้นระยะห่างกันอยู่เสมอด้วยน้า
อัปเกรดความพรีเมียมกันแบบยิ่งกว่าด้วยคอร์ส Shiba Zakura ที่จะได้ลิ้มลองเนื้อโอมิส่วนสันนอก A5 (120 กรัม) มันแทรกเป็นลายหินอ่อนชุ่มฉ่ำ แถมยังมีกุ้งลายเสือ กับแซลมอน อะการัว คิง(Akaroa King) จากนิวซีแลนด์ มาเพิ่มความเริ่ดพลัสความเชิ่ดกันไปอีกสิบระดับ หรือใครที่เป็นบีฟเลิฟเวอร์จะเปลี่ยนเป็นเนื้อสันนอกวากิวออสเตรเลีย WX by Rangers Valley มาร์เบิลสกอร์(Marble Score) หรือลายไขมันแทรกเบอร์ 6 มาคู่กับกุ้งลายเสือ และแซลมอนจากนอร์เวย์ก็ได้เหมียนกันจ้า หรือถ้าไม่ถนัดเนื้อก็ยังมีคอร์ส Yuzu ที่เสิร์ฟมาแน่น ๆ ด้วยซี่โครงพอร์คช็อปหมูดำคุโรบุตะนุ่ม ๆ หอม ๆ กับแซลมอนนอร์เวย์ และสะโพกไก่ออร์แกนิกมาให้เลือกกันด้วยจ้าซิส คอร์สเทปปันยากิร้านนี้เค้าเยอะจริงอะไรจริง เยอะแบบเลือกกันไม่ไหวจองกันไม่ถูก นอกจากนี้ที่นี่ก็ยังมีเนื้อคัดพิเศษอย่างเนื้อสันนอกแองกัสออสเตรเลีย ที่เลี้ยงด้วยธัญพืช 270 วัน มาให้สัมผัสความละมุนตุ้นละมุนใจกันอีกด้วย! อะสั่ง ไม่สั่ง สั่ง ไม่สั่ง แต่ท้องร้องแล้วน้า มาขนาดนี้ก็สั่งเลยย!
📍 พิกัด :
- 29,29/1 หน้าหมู่บ้านเลคไซด์วิลลา 1 ถ.บางนาตราด ก.ม. 5 หมู่ 15 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540
- จันทร์-ศุกร์ เปิดบริการตั้งแต่ 11.00 - 14.00 น. และ 17.00 - 22.00 น.
- เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดบริการตั้งแต่ 11.00 - 22.00 น.
- (หยุดเฉพาะวันหยุดร้านประจำปี 3 วัน)
อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ Shichi Japanese Restaurant
3. Shirokumaya Bakery
“ซึมซับความญี่ปุ่นด้วยเบเกอรี่กรุ่นจากเตา!”
สาวกคนรักแป้งมุงกันเข้ามาาา เพราะวันนี้ ‘Shirokumaya’ เปิดวาร์ปยกความอร่อยของเบเกอรี่สุดฮิตจากญี่ปุ่นมาไว้ที่ทองหล่อแล้วเธอออออ! ไปต่อไม่สะดุดด้วยความหนุบหนับจากขนมปังนามะ โชคุปัง จากร้าน Shirokumaya ร้านขนมปังสูตรคนญี่ปุ่น โดยคนญี่ปุ่น เพื่อคนรักความหอมกรุ่นของขนมปังสไตล์ญี่ปุ่นขนานแท้!! โชคุปัง (Shokupan) คือขนมปังที่มีนมสดเป็นส่วนผสม รสสัมผัสคือยืนหนึ่งในเรื่องความหนา นุ่ม ฟู หวานเล็ก ๆ แถมละมุนแบบใจละลายเวอรรรร์ จะกินเล่นก็ได้ นำไปอบก็ดี บอกเลยว่ากินคำแรกคือเกียมโยนขนมปังที่บ้านทิ้งไปเลยจ้า! เพราะน้องคนนี้ดีงามจนถูกยกให้เป็นเมนู Best Seller ประจำร้าน และเมื่อก่อนคือต้องต่อคิวเพื่อสั่งจองล่วงหน้านานถึง 3 เดือน!! แต่ตอนนี้ชิลล์แล้วแม่ เพราะทางร้านเค้าเพิ่งเปิดสาขา 2 ที่สุขุมวิท 39 ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อว่า ‘Shirokumaya Bakery’ ที่เน้นสำหรับอบขนมปังตัวนี้โดยเฉพาะ ดังนั้นบ่ต้องรอนานอีกต่อไป อบกันใหม่ ๆ แถมสั่งเช้าได้บ่ายแบบเริ่ด ๆ ใครสะดวกสาขาไหนก็แว้บไปรับน้องมาไว้ในอ้อมใจที่สาขานั้นได้เลย เช็กคิว สั่งจอง และนัดรับความหนานุ่มกันได้เลยที่ เฟซบุ๊ก Shirokumaya Bakery หรือทางอินสตาแกรม shirokumayabakery หรือทาง LINE @Shirokumayabakery หรือโทรไปที่ 064-958-5280 กระซิบไว้หน่อยสั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วันยิ่งดีเข้าไปอีกเด้อ!
นามะ โชคุปังของที่นี่มีให้เลือกชิมกันถึง 3 แบบ 3 สไตล์ เริ่มจากสุดฮอตสุดฮิตกันก่อนเลย ด้วยนามะ โชคุปัง ขนมปังขาวแบบออริจิ ที่ทำจากแป้งสาลีที่สั่งจากบริษัทญี่ปุ่น กับครีมสด นมข้นจืด และน้ำผึ้ง แถมทางร้านยังเลือกน้ำอัลคาไลน์ ที่เป็นด่างอ่อน ๆ ซึ่งดีต่อสุขภาพมาใช้ในการทำขนมปังด้วยนะ ส่วนถ้าใครชอบความเปรี้ยวอมหวาน ต้องจัดขนมปังนามะ โชคุปังใส่ลูกเกด(Raisin Shokupan) ลูกเกดคือแน่นจัดเต็มทั้งสีเหลืองและสีดำ อร่อยกระแทกใจกันแบบสุด ๆ กินเปล่า ๆ ก็ได้ แต่ถ้ามีเนยมาทาบาง ๆ อีกนิดคือเริ่ด! เริ่ดแบบไม่ว่าอะไรจะหยุด แต่คำนี้คือเริ่ดไม่หยุด! ตบท้ายด้วยขนมปังสามสี Marble Denish Tomoe ที่ใน 1 แผ่นจะมีสีเขียวของมัทฉะ (ผงชาเขียว) จากชิซุโอกะและเกียวโต สีขาวจากครีม และสีม่วงของมันม่วงญี่ปุ่นจากคุมาโมโตะ เรียกได้ว่ารวมความญี่ปุ่น 3 รูปแบบไว้ในคำเดียว ความปังของ Shirokumaya ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะนอกจากที่จะเลือกรสได้แล้วเราก็ยังสามารถเลือกความหนาในการตัดขนมปังได้อีกต่างหาก เลือกตัดได้ทั้งแบบ 2.2 เซนติเมตร, 2.7 เซนติเมตร, 3.4 และ 4 เซนติเมตร อยากได้ความหนานุ่มเต็มปากเต็มคำแค่ไหนก็จัดเลย! คราฟต์สุดจนหยดสุดท้ายขนาดนี้ไม่ลองไม่ได้แล้ว!!
📍 พิกัด :
- โครงการ No. 88 ซ.ทองหล่อ 5 สุขุมวิท 53 คลองตันเหนือ วัฒนา กรุงเทพฯ 10110
- เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 09.00 - 19.00
อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ Shirokumaya Bakery
4. Yume Omakase
“โอมากาเสะสายคราฟต์ฉบับเอโดะ!”
ขอส่งท้ายทริปทัวร์ญี่ปุ่นทิพย์ด้วยโอมากาเสะจาก ‘Yume Omakase’ ในตำนาน ที่บอกเลยว่าแค่เห็นก็อิ่มทิพย์! คอโอมากาเสะคนไหนยังไม่เคยเช็กอินร้านนี้ต้องกรี๊ดแล้วหนึ่ง กี๊สสส รู้หรือเปล่าว่ากำลังพลาดอีกหนึ่งความอร่อยของซูชิเอโดะมาเอะไปแบบไม่รู้ตัว!! คอร์สโอมากาเสะของที่ร้านจะมีให้เลือกเป็น 2 คอร์ส คือ Ocean Explorer (4,500++) และ Yume Special (6,900++) เปิดให้ฟินกัน 3 รอบต่อวัน คือ 12:30 / 17:30 / 20:15 น. ตั้งแต่วันอังคารถึงวันอาทิตย์ ปิดเฉพาะวันจันทร์เท่านั้นจ้า แว้บไปลองสั่งลองจิ้มคอร์สไว้ในใจกันก่อนได้ที่เพจ Yume Omakase และ อินสตาแกรม yume.omakase หรือใครหิวด่วนตอนนี้ก็ยกหูฮัลโหลโทรสั่งแบบเดลิเวอรีกันได้เลยที่เบอร์ 082-669-1414 หรือจะจองผ่าน Inbox Message ทางหน้าเพจก็ได้เหมือนกันฮะ คิวเป๊ะ คอร์สเป๊ะ แล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพให้แข็งแรงแบบเป๊ะ ๆ ไว้ตลอดด้วยน้า!
จะคราฟต์กันให้ดูตั้งแต่วิธีการปรุงข้าว ปั้นข้าว จนได้เป็นซูชิขนาดพอดีคำ เนื้อข้าวไม่แน่นไป พอเข้าปากเมล็ดข้าวใด ๆ คือพร้อมกระจายความอร่อยไปทั่วปาก สำคัญไปกว่านั้นคือความสดของวัตถุดิบที่ยิ่งสดรสชาติก็ยิ่งปัง การันตีความสดของทุกคำด้วยวัตถุดิบอิมพอร์ตจากตลาดปลาทั่วญี่ปุ่น ที่ทั้งคัด ทั้งประมูลมาให้คุณลูกค้าขาได้เพลินไปกับสารพัดเมนูเฉพาะตัวในคอร์สของทางร้าน! ตัวจี๊ดตัวเด็ดต้องยกให้กับมากูโระ ตัวเล็ก หายาก เนื้อเนียนนุ่ม แล้วก็ยังมีปลาไหลทะเลย่าง หอยปีกนกย่าง หรืออูนิเนื้อเนียนแสนครีมมี่ รวมถึงตับปลาปรุงรสคลุกเคล้ามาแบบเพอร์เฟ็กต์ จนอยากยกทั้งกล่องกลับบ้าน! ใครกินเก่งด้วย ตลกด้วย รับรองว่าถูกใจคอร์สโอมากาเสะจาก Yume Omakase แน่นอน เพราะนอกจากที่เชฟจะมาพร้อมกรุซูชิแบบอลังการแล้ว เชฟยังเกียมมุกโบ๊ะบ๊ะ พร้อมชงเสิร์ฟสร้างบรรยากาศ ให้เราได้รีเควสมุกขายขำกันตลอดคอร์สกันไปเลย!
📍 พิกัด : - Yume Omakase 1st Fl. Park Lane เอกมัย - เปิดอังคาร-อาทิตย์ มี 3 รอบ 12:30 / 17:30 / 20:15 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ Yume Omakase
