01/06/2020

เชลล์ชวนชิมพาตะลอนกินตามเส้นทาง!

คลายล็อกดาวน์แล้วไปไหนดี.. แบบนี้ต้องแวะมาสูดไอดินกลิ่นไอฝนให้เต็มปอด ที่เมืองสุพรรณ!
เชลล์ชวนชิมพาตะลอนกินตามเส้นทาง!
thumbnail

มาเริ่มกันที่ “ตลาดน้ำสะพานโค้ง” แวะมาเดินเพลิน ๆ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่มีสุ่มปลายักษ์ และทางเดินสะพานไม้ไผ่ในบึงบัวให้ทั้งแวะกิน ช้อป ถ่ายรูป บรรยากาศดี มุมดีถ่ายหลายแชะ ตลาดคนพลุกพล่าน อย่าลืมดูแลตัวเอง ล้างมือบ่อย ๆ ใส่หน้ากากเสมอด้วยนะ ใครหิวแล้วแนะนำให้แค่กินจุ๊บกินจิ๊บที่ตลาดน้ำสะพานโค้งแค่พองาม แล้วเก็บท้องไว้ไปจัดหนักที่ “ร้านแม่บ๊วยบางปลาม้า” ร้านดังประจำอำเภอบางปลาม้าที่อยู่ไม่ไกลตลาดน้ำสะพานโค้งเท่าไหร่ จัดหนักจัดเต็มกับเมนูกุ้งทอดเกลือ กุ้งแม่น้ำเผา ต้มยำปลาม้า สาลี่แม่บ๊วย และไอศกรีมกะทิสดใส่สาลี่ ดีงามสุด ๆ ! ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ที่ร้านมีวันหยุดไม่แน่นอน ให้เช็ควันเวลาร้านเปิดได้ในเฟซบุ๊ก : ร้านแม่บ๊วย MAE BOUY ก่อนมาจะชัวร์สุดจ้า

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ แม่บ๊วย บางปลาม้า

หรือจะเป็นอีกหนึ่งร้านตำนานกุ้งแม่น้ำทอดเกลือเจ้าดังแห่งเมืองสุพรรณอย่าง “กุ่ยหมง” ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลร้านแม่บ๊วยเลย ปรบมือให้กุ้งแม่น้ำทอดเกลือร้านนี้รัว ๆ เพราะกุ้งของที่ร้านใช้กุ้งแม่น้ำธรรมชาติตัวโต ๆ ทอดมาแล้วเนื้อสดหวาน แน่นเต็มสิบ ปริ่มมาก ปลื้มสุด ๆ มาบางปลาม้าแล้ว ก็ต้องกินปลาม้าด้วย! อย่าลืมสั่งเมนูปลาม้านึ่งมะนาวกระเทียมโทน และต้มยำปลาม้า รสจัดแบบพื้นบ้าน จัดจ้านจี้ดจ้าด อีกทั้งเมนูเนื้อปลากรายผัดกะเพรากระเทียมโทน และหมูผัดซีอิ๊ว เนื้อหมูนุ่ม ๆ หอมซีอิ๊วมาก ใครแวะมาแล้วตามเก็บทุกเมนูให้ครบเลย! ที่ร้านเปิดตั้งแต่ 10 โมงครึ่งไปจนถึงบ่าย 3 โมง ใครจัดร้านแม่บ๊วยแล้ว อย่าลืมตามมาร้านกุ่ยหมงด้วยนะจ๊ะพี่จ๋า

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ กุ่ยหมง

กินอิ่มแล้วขับรถเล่นซักหน่อยมาถึงอำเภออู่ทอง แวะสักการะพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ (หลวงพ่ออู่ทอง) พระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหินที่วัดเขาทำเทียม ที่อลังการสุด ๆ ซึ่งหลังองค์พระยังมีถ้ำให้เราเข้าไปสักการะพระพุทธรูปต่าง ๆ ในถ้ำได้ด้วย บอกเลยว่า Unseen และยิ่งใหญ่มาก เป็นอีกสถานที่ที่บอกเลยว่าคุ้มค่าการเดินทาง!

thumbnail
thumbnail

ไหว้พระเสร็จแล้วแต่กุ้งยังย่อยไม่หมด งั้นขับตรงเข้าตัวเมืองสุพรรณบนถนนหมายเลข 322 ไปต่อที่ “นาเฮียใช้ หรือ ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย” ใครที่ชอบเที่ยวไป เก็บความรู้ไป นอกจากได้รู้เรื่องข้าวแล้ว ยังได้รู้เรื่องวิถีชาวนา และได้สัมผัสเรือนไทยแบบโบราณอีกด้วย อิ่มทั้งบุญ อิ่มทั้งใจกันพอแล้ว อาจเริ่มหิว เชลล์ชวนชิมขอพามาอิ่มท้องกันต่อที่ “ร้านขัวะ” ร้านชื่อแปลกสุดลับ ระดับเด็กถิ่นเท่านั้นถึงจะรู้พิกัด เมนูเด็ดพลาดไม่ได้เลยคือ สลัดหมูน้ำใสสไตล์ร้านจีน และเมนูง่าย ๆ แต่อร่อยขั้นเทพอย่างซี่โครงหมูทอด ยำแซ่บเนื้อสันในหรือยำเนื้อลวก แกงป่ากุ้งก้ามกรามสูตรพิเศษใส่หน่อไม้ดอง และของดีหายากอย่าง เห็ดโคนผัดน้ำมันหอยกับกุ้ง ใครอยากลองอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ สไตล์ไทย-จีน แบบไม่ซ้ำใคร ต้องแวะมา เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่มจ้า

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ ขัวะ

ก่อนเดินทางต่อ ขอแวะเพิ่มแต้มบุญกันที่วัดพระนอนกันหน่อย ที่วัดนี้มีรูปปั้นพระพุทธรูปขนาดเท่าคนจริงอยู่ในลักษณะนอนหงาย จากปกติจะนอนตะแคง ซึ่งได้ถูกขุดค้นพบในบริเวณวัดพระนอนนี้ และมีลักษณะคล้ายพระนอนที่เมืองกุสินารา ประเทศอินเดียอยู่ด้วย ชาร์จพลังบุญกันไปเต็ม ๆ กลับขึ้นรถแล้วมุ่งหน้าสู่อำเภอสามชุกกันต่อเลย ขับรถมาเหนื่อย ๆ ต้องแวะเติมพลังกันที่ “ร้านสำราญโอชา” ร้านกับข้าวกับปลาสไตล์ไทยปนจีนเต็มรูปแบบ ขึ้นชื่อเรื่องปลาแม่น้ำและเมนูพื้นบ้านหลากหลาย เมนูหากินยากอย่าง ปลาบู่นึ่งซีอิ๊ว เนื้อแน่นเป็นก้อน ๆ สด ๆ หวาน ๆ และ ต้มยำปลาม้า ของอร่อยพื้นบ้านเมืองสุพรรณ ร้านเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด เปิด 2 ช่วง คือ 11 โมงเช้าถึงบ่าย 2 โมง และ 4 โมงเย็น ถึง 4 ทุ่ม นี่คือร้านเลิศ ๆ ฝีมือเทพ ๆ อีกร้านที่คนต่างถิ่นไม่ค่อยรู้จัก มาแล้วไม่ผิดหวังเลย

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ สำราญโอชา

thumbnail
thumbnail

จัดหนักกับร้านสำราญโอชามาแล้ว มาเดินย่อยกันต่อที่ “ตลาดสามชุก 100 ปี” ที่เที่ยวขึ้นชื่อของสุพรรณบุรีที่แขกไปใครมาต้องไม่ควรพลาด มีทั้งของกิน ของฝากให้เลือกซื้อ ท่ามกลางบรรยากาศเก่า ๆ คลาสสิคสุด ๆ มาตลาดสามชุก ถ้าไม่ได้มานั่งจิบโอเลี้ยงรสเข้มกลิ่นหอมที่ “ร้านกาแฟท่าเรือส่ง” เหมือนทริปนี้จะขาดอะไรไป ตัวร้านสังเกตง่าย ตั้งอยู่ปากทางเข้าตลาดสามชุกเลย ก่อนนั้นตลาดสามชุกเป็นแหล่งชุมชนที่มีความคึกคักมาก เพราะเป็นที่ตั้งของท่าเรือขนส่ง และชื่อร้าน “กาแฟท่าเรือส่ง” ก็มีที่มามาจากท่าเรือที่ชื่อว่า “ท่าเรือส่ง” นั่นเอง กาแฟที่ร้านใช้การคั่วแบบดั้งเดิม ใช้กาแฟโรบัสต้ากับข้าวเหนียวเล็กน้อย คั่วในกระทะใบบัวบนเตาไม้ฟืน เพื่อให้ความร้อนกระจายได้ทั่ว เมนูแนะนำมี เมนูยกล้อ (โอเลี้ยงเติมนมสด) ชา กาแฟ ทั้งร้อนเย็น และเครื่องดื่มสารพัดอย่างก็มีครบ แถมสามารถสั่งอาหารที่ขายอยู่หน้าร้านและข้างร้านเข้ามากินได้ด้วย เพื่อความปลอดภัย ใครมาแล้วสั่งเครื่องดื่มของใครของมันเลย ช่วงนี้งดแชร์กันชิมนะจ๊ะ ร้านกาแฟท่าเรือส่งเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น คนจะเยอะหน่อยช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์นะจ๊ะ

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ กาแฟท่าเรือส่ง

ที่ปากทางเข้าตลาดสามชุก นอกจากมีร้านกาแฟท่าเรือส่งแล้ว ยังมีร้านขนมหวานอยู่เจ้าหนึ่ง ติดป้ายชื่อไว้ว่า “ขนมหวานเจ๊น้อย 100 หม้อ” ร้านขนมหวานขึ้นชื่อที่ขายมานาน 30 กว่าปีแล้ว ร้านเปิดทุกวัน ยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่เที่ยง ถึง 6 โมงเย็น มีขนมขายครบทุกอย่างตอนบ่ายโมง จะทำวันละประมาณ 18 อย่าง มาแล้วควรรีบสั่งปลากริมไข่เต่า หวานและเค็มกลมกล่อมลงตัว และขนมอื่น ๆ ที่เด็ดไม่แพ้กันอย่าง สาคูเผือก เต้าส่วนถั่วทอง กล้วยบวชชี กล้วยไข่บวชชี ข้าวเหนียวเปียกลำไย เผือกแกงบวด บัวลอยไข่หวาน และข้าวฟ่างใบเตย ฯลฯ สั่งเข้ามากินที่ร้านท่าเรือส่งได้เลย แนะนำให้รีบไปตั้งแต่ร้านเปิด ถ้าอยากได้เลือกเมนูที่ชอบก่อนหมด อย่าลืมเว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย เลี่ยงการใกล้ชิด ด้วย ร้านนี้ขายดีมาก จะมีคนมุงแน่นตลอดเวลาจนนึกว่ามากินฟรีเลยละจ้า

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ ขนมหวานเจ๊น้อยร้อยหม้อ

thumbnail
thumbnail

เดินเล่นเพลิน ๆ จนเริ่มย่อยได้ที่แล้ว ให้รีบเดินเข้าตลาดมาที่สะพานพรประชาที่ข้ามแม่น้ำท่าจีน แล้วแวะมาจัดข้าวห่อใบบัวที่ “ร้านหรั่งศรีโรจน์” อีกร้านดังประจำตลาดสามชุกที่บอกเลยว่า ไม่ไปไม่ได้! ข้าวห่อใบบัวร้านนี้ใส่เครื่องสารพัด เยอะ ๆ จุก ๆ ทั้ง ไข่แดงเค็ม กุนเชียง หมูอบ กุ้งแห้ง ถั่วลันเตา เห็ดหอม และแครอท หอมกลิ่นใบบัวอ่อน ๆ ตอนกิน อร่อยฟินเครื่องแน่น ๆ เวลากินให้ราดน้ำอาจาด ซดคู่กับต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อนรสจัด ๆ อร่อยมาก! กลมกล่อมที่สุดในสามโลก! ของกินเล่นอย่างอื่นที่คนชอบสั่งกันคือ ก๋วยเตี๋ยวยำบก ที่ทำจากเส้นใหญ่ ใส่เครื่องล้น ๆ กินกับน้ำยำสูตรเด็ดคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ด 3 รส รสชาติดีไม่แพ้ข้าวห่อใบบัวเลย มาได้ทุกวันยกเว้นวันอังคาร ตั้งแต่ 8 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น จะกินที่ร้านหรือซื้อกลับไปกินก็ได้

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมได้ที่ หรั่งศรีโรจน์


Arrow Page Up