การแจ้งเตือน ()
  01/03/2021

8 ร้านเนื้อเน้น ๆ ที่คอชาบู-ปิ้งย่าง-สุกี้ ต้องเตรียมปักหมุด!

กว่าจะได้หยุด กว่าได้พัก ก็คือต้องปาดเหงื่อแล้วปาดเหงื่ออีก! เหนื่อยขนาดนี้ แต่อย่าเพิ่งวีน! มาฮีลลิงกันให้หนำใจกับเนื้อฉ่ำ ๆ ที่บอกเลยว่าแค่คำแรกก็แสงออกปาก
8 ร้านเนื้อเน้น ๆ ที่คอชาบู-ปิ้งย่าง-สุกี้ ต้องเตรียมปักหมุด!
thumbnail

1. Yuu
“ปิ้งย่างสุดปัง เนื้ออร่อยอลังไม่แพ้ใคร!”


ร้าน Yuu ปังเรื่องเนื้อเกรดดีสุดพรีเมียม มีตั้งแต่สุดยอดเนื้อวากิวญี่ปุ่นไปจนถึงเนื้อไทยเฟรนช์ที่ไม่ธรรมดา นุ่มอร่อยจนตะลึง จนไม่เชื่อว่านี่คือเนื้อไทย ดีงามจริงไม่แกง มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากเนื้อพรีเมียมญี่ปุ่น เกรดสูงสุด A5 ซึ่งในหมวดนี้มีเนื้อในตำนานของร้าน Yuu คือเนื้อ 997 เมนูซิกเนเจอร์ที่ครองมงตลอดกาลของร้าน มีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อนสวยกรุบ ข่าวดีคือที่ร้านจัด #โปรโมชัน อยู่บ่อย ๆ ส่วนเนื้อเซนได กิว มิซึจิ ส่วนต้นขาหน้า และเนื้อมัตสึซากะ ก็ดีงามไม่แพ้กัน แถมช่วงนี้เขายังมีเนื้อตัวใหม่มาเพิ่ม คือเนื้อคุโรเกะกิว ริบโรสึ นุ่มหอมอร่อยฟินกินเพลิน ๆ ซึ่งถ้าใครเป็นสายเนื้อมือสมัครเล่น ที่อยากลองกินเล่น ๆ ชิมรางก่อน จะลองหมวดเนื้อญี่ปุ่น เกรด A4 ที่ได้คุณภาพดีเยี่ยมในราคาย่อมเยาลงมาก็ได้น้า

เนื้อนอกที่ว่าแน่ ใครจะรู้ว่าเนื้อไทยก็ปังไม่แพ้กัน! ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด คือ “ถกคุเซน หรือเนื้อใบพาย” นุ่มหอมอร่อยสุด ๆ ดีเกินต้านจนต้องหันไปถามคนข้าง ๆ ว่าเนื้อไทยจริงหรอ คัดเนื้อมาดีมากจนชิมคำแรกก็หลงมโนไปว่าเป็นเนื้อญี่ปุ่นเลย! และเนื้อติดกระดูก ซึ่งมีทั้งเนื้อติดกระดูกอย่างดีพิเศษและเนื้อติดกระดูกอย่างดี งานนี้ได้หมดถ้าสดชื่น ทุกเมนูดีต่อใจหมด! ไม่เพียงแค่เนื้อวัวที่ดีเลิศเท่านั้น ร้าน Yuu ยังมีเนื้อวากิวแกะ ริบอาย นุ่มหอม จากแกะ Mottainai ในออสเตรเลียตะวันตกให้เลือกชิมด้วย ส่วนเนื้อหมูก็มีให้เลือกหลายเมนู ทั้งหมูตันโตะ หมูติดมันหมักซอสกระเทียมสด หมูโชกุน หมูหมักเกลือ หมูหมักน้ำจิ้ม หมูติดมัน ซี่โครงหมู และอาหารทะเล มีเยอะมากจนกลุ้มใจ มากินทีไรคือเลือกไม่ถูกเลยจริง ๆ ร้าน Yuu เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม ยกเว้นที่สาขา Int Intersect มีเวลาเปิด 2 ช่วง คือเปิด 11 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมง และ 5 โมงเย็นถึง 4 ทุ่ม ก่อนไปอย่าลืมดูโปรโมชันดี ๆ ประจำเดือนในเฟซบุ๊ก YUU ด้วยน้า

📍 พิกัด : Yuu & Wine (ยู&ไวน์) สาขา Int Intersect - พระราม 3
Yuu สาขา ลาวิลล่า อารีย์ - BTS อารีย์
Yuu สาขา The Crystal - เอกมัย-รามอินทรา

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ Yuu

thumbnail
thumbnail

2. กินซาโดะ (Ginzado)
“เนื้อไทยวากิว อร่อยได้ฟิลเหมือนเนื้อญี่ปุ่นมาเอง!”


ร้านนี้มีความเริ่ดอยู่ที่มีเจ้าของร้านเป็นชาวญี่ปุ่น เลยรู้ซึ้งถึงเรื่องการเลี้ยงวัวและการคัดเนื้อคุณภาพอย่างดี แถมยังมีฟาร์มเลี้ยงวัวไทยวากิวในไทยที่ทำสัญญากันไว้ เลี้ยงอย่างดีไม่มีการใช้สารเร่งหรือฮอร์โมนใด ๆ เลยได้เนื้อดี ๆ ปัง ๆ เหมือนเนื้อวากิวญี่ปุ่นเลยทีเดียว ตอนนี้ Ginzado มีทั้งหมด 3 สาขา โดยเมนูของทุกสาขาจะเหมือนกันหมด มาร้านนี้อยากให้ลอง เมนูเนื้อเบอร์ A1 ซี่โครงเนื้อคัดพิเศษอย่างดี (Tokujyou Karubi) เนื้อเบอร์ A5 เนื้อสันนอกคัดพิเศษอย่างดี (Tokujyou Rousu) และเบอร์ A14 เนื้อใบพาย (Misuji) ยิ่งชิมยิ่งใจบางในความที่ว่าเนื้อร้านนี้มีมันแทรกทุกอณู อร่อยเหมือนกินเนื้อวากิวในญี่ปุ่นจริง ๆ (ปาดน้ำตา) ส่วนเมนูพิเศษอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นด้วยคำว่าวากิว (Wagyu) ก็สุดยอดทุกรายการ และใช่จ้ะ ราคาจะสูงขึ้นตามไปด้วย แต่ก็ยังไม่แพงมากเมื่อเทียบกับบางร้านที่ขายเนื้อพิเศษ ใครใคร่ลอง ลองเลย ดีคุ้มกระชุ่มกระชวยมาก เชื่อเถอะ!

นอกจากนี้ยังมีเนื้อพิเศษที่แยกอยู่ในเมนูเป็นแผ่น ๆ หรือเมนูเบอร์อื่นก็จะอร่อยมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกันไป คุณภาพยิ่งดีขึ้นไปอีก เหมาะสำหรับทีมสายเนื้อตัวจริงที่อยากลุยให้สุด เช่น เนื้อใบพายคัดพิเศษอย่างดี (Tokujyo Misuji) ก็นุ่มหอมมันเพิ่มไปอีกขั้น ใครไม่กินเนื้อ เมนูอาหารทะเลกับเมนูหมูของเขาก็ปังน้า โดยเฉพาะเนื้อหมู ชูป้ายไฟเชียร์สุดใจ เลือกสั่งได้ตั้งแต่เนื้อหมู (Buta) สำหรับคนที่ไม่ชอบมันมาก หรืออยากกินที่หอมมันไปเลยก็ให้สั่ง หมูสามชั้นเกรด A (Buta Bara) และคอหมูย่างคัดพิเศษ (Ton Toro) ดีเว่อร์วังรสชาติอลังเกินเบอร์อยู่นะ! นี่คือร้านยากินิกุ ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นที่ให้ความรู้สึกเหมือนกินเนื้อวากิวในประเทศญี่ปุ่นจริง ๆ ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11.30 - 23.00 น. (ส่วนที่ปานจิตต์ทาวเวอร์ วันจันทร์-ศุกร์ เปิดเฉพาะมื้อค่ำ 17.00 - 23.00 น.) ถ้าใครมาช่วงกลางวันจะมีเซ็ตมื้อกลางวัน (Lunch set) ราคาย่อมเยาและคุณภาพดีให้สั่งด้วย คำเตือนใครไปที่ร้านช่วงตอนเย็นทำใจรอวนไปเลยจ้ะ เพราะคนจะแน่นมาก มาให้เร็ว มาให้ไว ถ้าอยากฟินก่อนใคร โอเคนะ! ตามไปส่องเรียกนำย่อยกันก่อนได้เล้ยยย ที่เฟซบุ๊ก Ginzado

📍 พิกัด : สาขาซอยสุขุมวิท 26 เข้าไป 400 เมตรจากปากซอย
สาขาปานจิตต์ทาวเวอร์ - ซอยทองหล่อ สุขุมวิท 55
สาขา Grand Ginzado - ชั้นล่าง Hotel Verve

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ กินซาโดะ (Ginzado)

thumbnail
thumbnail

3. เก็นปุคัง (Genpukan)
“ปิ้งย่างเจ้าดังจากฟุกุโอกะ ที่สาวกปิ้งย่างควรไปปะทะความฟิน”


ถ้าได้มีโอกาสโฉบมาทองหล่อ อยากให้แวะมาลองยากินิกุปิ้งย่างระดับตำนาน กว่า 75 ปี จากเมืองฮากาตะ จังหวัดฟุกุโอกะบนเกาะคิวชู มาเปิดสาขาในเมืองไทย อยู่ในตึกแถวเล็ก ๆ ริมถนนทางซ้ายมือ ได้นาน 14 ปีแล้ว ร้านนี้มีชื่อว่า เก็นปุคัง (Genpukan) ร้านญี่ปุ่นก็ต้องมีทีเด็ดเป็นเนื้อวากิวสิจ๊ะ ที่เก็นปุคังจะใช้เนื้อคุโรเกะ วากิว จากฮอกไกโด ราคาดีจับต้องได้ ไม่แพงจนเกินไป ที่ต้องลองเลยคือ “โทคุโจ คารุบิ” หรือเนื้อซี่โครงพิเศษ นุ่มหอมมันชุ่มฉ่ำอร่อยสุด ๆ อีกตัวสายติดมันต้องร้องกรี้ด นั่นคือ “เนื้อสไลซ์ส่วนท้องติดมัน” นุ่ม หอม ฟินละลาย คล้ายอาการหลงรัก ใครชอบลิ้นวัว ยิ่งต้องมาที่นี่ เพราะเขามีเครื่องในและลิ้นวัวชิ้นโต ๆ ให้เลือกสั่งด้วย ทั้งลิ้นวัวหมักต้นหอม และลิ้นวัวปกติ เวลาย่างสุกแค่บีบมะนาวก็อร่อยแล้ว!

คนไม่กินเนื้ออย่าเพิ่งน้อยใจ ที่ร้านมีเมนูหมู ๆ ด้วยน้า ทั้ง คอหมู ซี่โครงหมู เนื้อหมูสไลซ์ และหมูสามชั้น ไส้กรอกหมู อีกทั้งอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น กุ้งกุลาดำ หอยเชลล์ ปลาหมึก หูยยย เยอะแยะยุ่บยั่บ กินคู่กับ “ข้าวผัดกระเทียม” จานโตให้อุ่นท้อง อร่อยฟิน ดีงามขั้นสุด ร้านนี้โด่งดังขึ้นชื่อเรื่องซอสจิ้มเนื้อย่างสูตรเด็ดของตระกูลจากเมืองฮากาตะ สีแดงเข้ม หอม ๆ มีรสเผ็ดเบา ๆ และซอสของที่ร้านในไทยปรุงเองอีกชนิดเพิ่มมา มีรสเปรี้ยว ๆ หอมฟิน กินตัดเลี่ยนได้ดี นอกจากซอสปรุงเองแล้ว กิมจิของที่ร้านยังหมักเองนาน 1-2 วัน ที่ห้ามพลาดเลย คือ “เมนไทโกะกิมจิ” มีชื่อเรียกในเมนูว่า ไข่ปลาญี่ปุ่นยำน้ำกิมจิ หรือไข่ปลาเมนไทโกะปรุงรส อร่อยเริ่ด เปรี้ยวมันกลมกล่อมมาก เวลาไปให้สอบถามว่าช่วงนั้นมีอะไร อย่างเช่น โปรโมชัน โคตรคารุบิด้ง (Karubi Don) ข้าวหน้าเนื้อออสเตรเลียคารุบิ กับไข่ไก่สดโมริทามะชั้นดีของญี่ปุ่น ราดซอสเด็ดสูตรประจำตระกูล หนักรวมกันถึง 1 กิโลกรัมชามใหญ่มหึมา กินคนเดียวไม่มีทางหมด ในเมืองไทยมี 2 สาขา คือ สาขาทองหล่อ เปิดวันธรรมดาเฉพาะช่วงบ่ายแก่ ๆ ถึงตอนดึก ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ จะเปิดตั้งแต่ตอนเที่ยง ๆ และสาขานิฮอนมาชิ วันจันทร์-เสาร์เปิดบ่าย 4 โมงถึงเที่ยงคืน ส่วนวันอาทิตย์เปิดบ่าย 3 โมงถึง 5 ทุ่ม ที่สาขานี้มีบุฟเฟต์ยากินิกุด้วยจ้า

📍 พิกัด : สาขาทองหล่อ - ถนนสุขุมวิท55 ทองหล่อ
สาขานิฮอนมาชิ – โครงการนิฮอนมาชิ (Nihonmachi) สุขุมวิท 26

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ เก็นปุคัง (Genpukan)

thumbnail
thumbnail

4. มิสซิสวู ฮ็อตพ็อต (Mrs. Wu Hot Pot)
“หม้อไฟเจ้าเด็ด สูตรสำเร็จแห่งความอร่อย”


อยากจัดเต็มกับสุดยอดร้านบุฟเฟต์ฮ็อตพ็อต (Hot Pot) หรือหม้อไฟสไตล์จีนโมเดิร์น คุณภาพพรีเมียมคุ้มค่าเกินราคา มีให้เลือกกินไม่อั้นหลากหลายในเวลา 90 นาที ต้องมาที่ร้านมิสซิสวู เลย! ในช่วงนิวนอร์มอล มิสซิสวูได้ปรับรูปแบบของบุฟเฟต์เหลือเพียง 2 ระดับราคา นั่นคือ บุฟเฟต์ซีรีส์เนื้อไทย (699 บาท++) และบุฟเฟต์เนื้อพรีเมียมนำเข้า (1,400++) บุฟเฟต์ซีรีส์เนื้อไทย จะมีเนื้อไทยวากิวจากสุรินทร์ เนื้อโคขุนจากสกลนครและมุกดาหาร ทั้งส่วนเนื้อและเครื่องใน นอกจากเนื้อก็จะเป็นพวกอาหารทะเล และมีเมนูกินเล่นกินจริงทำจากแซลมอนนอร์เวย์มากถึง 6 เมนู รวมกันแล้วถึง 70 กว่าอย่าง ส่วนคนไม่กินเนื้อก็มีหมูด้วย ทั้งส่วนเนื้อและเครื่องใน มีแม้กระทั่งเนื้อแพะสะโพกและไหล่แพะมาเสริมทัพ ต่อให้ยับด้วยลูกชิ้นต่าง ๆ 11 ชนิดกับเกี๊ยวปลา แล้วปิดท้ายด้วยไอศกรีม 3 รสชาติ ซึ่งเป็นไอศกรีมโฮมเมดของชาวต่างชาติในเมืองไทย ส่วนเครื่องดื่มก็จัดให้แล้วไม่จำเป็นต้องสั่งเพิ่ม! คุ้มจบ ครบเกินต้าน

ถ้าอยากลิ้มลองทั้งเนื้อไทยและเนื้อนอก ให้สั่งบุฟเฟต์เนื้อพรีเมียมนำเข้า ที่เพิ่มเนื้อวากิวออสเตรเลีย ส่วนริบอาย สันนอก และสันคอนุ่มหอมอร่อย อีกทั้งมีลิ้นวัวจากอเมริกา มาให้ลวกเองด้วย หรืออยากกินให้สุด ๆ ไปเลย ก็ให้จ่ายเพิ่มต่างหากสั่งเนื้อวากิวของญี่ปุ่นมาเพิ่มได้น้า ตอนนี้มีเนื้อเกรด A3 ราคาดีและนุ่มหอมอร่อยมาก ๆ ทั้ง เนื้อเซนได เซอร์ลอยน์ (Sendai Sirloin) และเนื้อฮอกไกโดริบอาย (Hokkaido Ribeye) เป็นเนื้อโทคาชิ วากิว สัญญาว่าจะไม่พลาดโอกาส ชิมเถอะ ฟินลืมสุด! ส่วนในเมนูประจำจะมีเนื้อวากิวพิเศษเกรดพรีเมียมเป็นเนื้อเซนได เซอร์ลอยน์ (Sendai Sirloin) A4 และเนื้อฮอกไกโดริบอาย (Hokkaido Ribeye) A5 ลายไขมันเป็นปุยหิมะอยู่ทุกอณูของเนื้อ ลายสวยเว่อร์ ส่วนรสชาติไม่ต้องพูดถึง เริ่ดมั่กกก! น้ำซุปมีให้เลือก 4 อย่าง ในหนึ่งหม้อเลือกได้มากสุด 3 ช่อง มีตั้งแต่ซุปกระดูกหมูสไตล์กวางตุ้ง ที่เคี่ยวจากหมูถึง 5 ส่วนนานกว่า 6 ชม. แนะนำให้เลือกน้ำซุปชนิดนี้เพราะเข้มข้นหวานหอมมีรสชาติในตัว และมีซุปปลาแห้งกับโชยุนาเบะใส่ไวน์แดง อีกทั้งซุปหมาล่า และซุปปลาแห้งสไตล์ญี่ปุ่น เรียกว่าซุปโบนิโต้โกลเด้นดาชิ (Bonito Golden Dashi) ที่ร้าน Mrs.Wu ก็มักจะมีเมนูต่าง ๆ เพิ่มเติมอยู่ตลอด ใครจะฝากตัวเป็นลูกค้าประจำรับประกันว่าไม่มีเบื่อแน่นอน ร้านเปิดตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 5 ทุ่ม หยุดทุกวันจันทร์

📍 พิกัด : อาคาร Portico ชั้น 3 ซอยหลังสวน

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ มิสซิสวู ฮ็อตพ็อต (Mrs. Wu Hot Pot)

thumbnail
thumbnail

5. สุกี้ มาสะ (Suki Masa)
“สุกี้ยากี้สไตล์คันไซ ความอร่อยล้นมีผลต่อหัวใจที่ไม่ควรพลาด!”


อีกหนึ่งร้านสุกี้และชาบูที่ขึ้นชื่อเรื่องเนื้อคุโรเกะ วากิวจากเกียวโต โอซาก้า แบบมีไขมันแทรกเป็นลายหินอ่อน นุ่มจนแทบละลายในปาก แหมยังไม่ทันเล่าต่อก็น้ำลายสอแล้ว เซ็ตสุกี้ยากี้และเซ็ตชาบู ชาบู จะแบ่งตามชนิดของเนื้อสัตว์ โดยมักจะสั่งกันเป็นเซ็ต เพราะมีให้ครบทุกอย่าง กินอิ่มกำลังดี คนชอบกินเนื้อมีให้เลือกตั้งแต่ เนื้อวากิว A5 และเนื้อวากิว A4 นุ่มลิ้น ฟิน ๆ ละลายในปาก เนื้อมาสะ นุ่มอร่อยไม่แพ้กัน และเนื้อวากิวพิเศษ ที่พิเศษสมชื่อ ซึ่งเป็นเนื้อนำเข้าจากแถบคันไซ ให้คนละ 150 กรัม และเช่นเดิม ใครไม่กินเนื้อก็มีเซ็ตหมูคุโรบูตะ (Kurobuta Pork) นุ่ม ๆ เซ็ตเนื้อไก่ เซ็ตเนื้อแกะนิวซีแลนด์ และเซ็ตอกเป็ดรอปลอบใจ รับประกันว่าพรีเมียมไม่แพ้กัน พอกินใกล้จะเสร็จ ถ้ายังไม่ได้กินข้าวก็ขอให้พนักงานนำข้าวใส่ลงกระทะผัดให้ อร่อยทิ้งท้าย ก่อนยกป้ายเปลี่ยนเป็นกินของหวานจ้า เมนูยอดนิยมของ SUKI MASA อย่างเซ็ตสุกี้ยากี้จะมีสลัด ข้าว ซุปมิโซะ ผักดอง คอนยากึ ชุดผักกับเห็ดและเต้าหู้ และมีไข่ดิบให้ 1 ฟองสำหรับจิ้มเนื้อ มีพนักงานมาทำให้ เอาเนื้อชิ้นโต ๆ หนา ๆ ลงไปผัดซอสวาริชิตะพอขลุกขลิกกับหอมใหญ่ จนเนื้อพอสุก คีบให้เราชิมทีละชิ้น

ส่วนของเซ็ตชาบู ชาบู จะมีเส้นอูด้งจิ้มซอสงาแทนคอนยากึ และมีน้ำซอสพอนสึรสเปรี้ยวกับซอสงาข้น ๆ ให้เลือกจิ้ม น้ำซุปของชาบู ชาบู จะมีให้เลือก 4 แบบ คือ น้ำซุปดาชิ (Dashi) ทำจากปลาแห้งกับสาหร่ายคอมบุ น้ำซุปยูสึทงคตสึ คอลลาเจน น้ำซุปมิโซะ ทงคตสึ และสุดท้าย แอบแนะนำตัวนี้ คือ น้ำซุปทงคตสึคอลลาเจนหรือน้ำซุปกระดูกหมูเคี่ยวนาน 5-6 ชั่วโมง หวานหอมต้มกระดูกมาก และของหวานปิดท้ายในเซ็ตทั้งสุกี้ยากี้และชาบู ชาบูคือคาราเมล พุดดิ้ง (คัสตาร์ด) ถ้าจะมาที่ SUKI MASA ในช่วงมื้อเย็นของทุกวัน รวมทั้งมื้อกลางวัน วันเสาร์-อาทิตย์ ควรโทรมาจองก่อนล่วงหน้า เพราะดูท่าจะคิวยาว ก็แหม นี่คือสุดยอดร้านสุกี้ยากี้และชาบู ชาบู เนื้อวากิว ไม่แปลกหรอกที่คนจะเต็มร้าน ต้องจัดแล้วล่ะ อะยังไง!

📍 พิกัด : สาขาซอยทองหล่อ 5 และสาขาสยามพารากอน ชั้น G

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ สุกี้ มาสะ (Suki Masa)

thumbnail
thumbnail

6. OK Shabu Shabu

“สุกี้ไต้หวันเจ้าแรกของไทย ชวนใครไปไม่มีหงอย เพราะอร่อยเหาะเหมาะกับทุกวัย!” เมื่อเกือบ 30 ปีก่อน OK Shabu Shabu เป็นร้านแรกที่นำสุกี้ไต้หวันเข้ามาในไทย เริ่มต้นจากร้านเล็ก ๆ ในย่านทองหล่อ ขยับขยายย้ายไปอยู่ใกล้ที่เดิมบนถนนเดียวกัน ในที่สุดได้มาปักหลักอยู่บนชั้น 2 ของตึกเล็ก ๆ ในซอยทองหล่อ 13 มาแล้วแนะนำว่าให้สั่งเมนูที่เป็นชุดก่อน มีเนื้อสัตว์ให้เลือกทั้ง ชุดซีฟู้ด ชุดเนื้อพิเศษ ชุดเนื้อลาย ชุดเนื้อวัว ชุดเนื้อแกะนิวซีแลนด์ ชุดหมู ชุดไก่ ชุดมังสวิรัติ (ให้ซอสเจ เนื้อเจ และของเจอื่น ๆ มาให้ด้วย) และชุดโอเค ให้ทั้งซีฟู้ดและเนื้อวัว (หรือเนื้อหมู) ในชุดมีมาให้ครบทั้งรวมมิตรผัก เต้าหู้ และเส้นบะหมี่ที่เป็นเส้นขาว ๆ อวบ ๆ เหมือนอูด้งของญี่ปุ่น สามารถเปลี่ยนเป็นข้าวหรือวุ้นเส้นแทนได้ ซึ่งในชุดก็มีของหวานที่แถมมาให้อย่าง ข้าวเหนียวถั่วแดงเย็น ครบจบในตัวยันของหวาน เริ่ดมากอยากบอก! แต่ถ้าไม่สั่งเป็นชุดก็สามารถสั่งแยกได้เหมือนกันน้า จะโอเค! นัมเบอร์วัน!

ถ้าถามว่าของเด็ด ๆ ของที่นี่มีอะไร ก็ต้องขอเวลานึกในใจนานนี้สนึง เพราะมีหลายอย่างมว๊ากกกก! เริ่มต้นที่ เนื้อพิเศษ เนื้อสไลด์มีมันแทรกแบบสวย ๆ แล่มาชิ้นบาง ๆ พอได้กินแล้วฟินสุดอะไรสุด กินแล้วใจบางทันที และเนื้อแกะที่มีมันแทรก หอมฟุ้งฟริ้ง อร่อยปิ๊งมีกลิ่นเฉพาะตัว ส่วนกุ้งกุลาดำก็ปัง เนื้อแน่นหวาน สะท้านใจกรุบ ๆ สำหรับเด็ก ๆ หอยตลับ กับเส้นบะหมี่สีขาวอวบหนานุ่มก็เป็นอีกเมนูยอดนิยมของที่นี่! แถมยังมีลูกชิ้นสารพัดชนิด เครื่องในต่าง ๆ อาหารทะเล เกี๊ยวซานตง และเกี๊ยว 4 ชนิด อย่างเกี๊ยวกุ้งไต้หวัน นุ่มหนึบอร่อย เกี๊ยวปลาหมึกไต้หวัน เกี๊ยวหมูไต้หวัน และเกี๊ยวปลาไต้หวันเป็นชิ้นกลม ๆ ปิดท้ายด้วยของหวานแถมฟรี “ข้าวเหนียวถั่วแดงเย็น” เปื่อยนุ่มอร่อยเหลือเชื่อ ดีเด็ดไม่แพ้ของคาวเลย! นี่คือร้านที่เหมาะกับทุกวัย ชวนเพื่อน แฟน หรือคนในครอบครัวไปก็ไม่มีหงอย เพราะความอร่อยคลาสิกชิค ๆ เริ่ด ๆ มาก OK Shabu, Thonglor เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม (ในช่วงนี้) ตอนค่ำ ๆ คนแน่นเหมือนมีมหกรรมสินค้าลดราคา ถ้าไม่รีบมา มัวแต่ต่อนยอน รับรองได้รอคิวนานแสนล้านนาทีแน่จ้า

📍 พิกัด : ซอยทองหล่อ 13 ใกล้โรงพยาบาลสมิติเวช

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ OK Shabu Shabu

thumbnail
thumbnail

7. เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ (สาขาต้นตำรับ)
“ความอร่อยเกินต้าน จากสูตรแต้จิ๋วในตำนานสุดร่วมสมัย”


จากร้านสุกี้โบราณเล็ก ๆ ขายชามละ 5 บาท ในวันนั้น กลายมาเป็นภัตตาคารเอี่ยวไถ่ใหญ่โตโอ้โหอลังการอยู่ที่สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าในทุกวันนี้ รั้งตำแหน่งร้านสุกี้สูตรโบราณในตำนานที่เปิดมายาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2503 ด้วยสูตรแต้จิ๋วที่ถึงเครื่องเข้มข้น ถ้าอยากชิมเมนูแต้จิ๋วเต็มรูปแบบขอให้ตรงมาที่สาขาต้นตำรับ ที่หน้าร้านมีอาหารทะเลสด ๆ และกุ้งแม่น้ำแบบจัดเรียงอยู่ล้น ๆ มีสองเมนูเด็ดหากินยากในยุคปัจจุบัน อย่าง สุกี้ยากี้โบราณใส่น้ำจิ้มผสมเต้าหู้ยี้สีชมพู กับหมูและเนื้อกระทะเจงกิสข่าน สุกี้หม้อไฟเจ้านี้ยังใช้เตาแก๊สอยู่ มีให้เลือกทั้งสุกี้หมู เนื้อ ไก่ และทะเล แต่ถ้ากินให้ครบเครื่องต้องสั่ง “สุกี้ยากี้รวมมิตร” จัดมาแบบจุก ๆ ทั้งเนื้อวัวหมักเหล้าจีนหอม ๆ ชิ้นโตสะใจ เนื้อหมู ไก่ กุ้ง ปลาหมึกแช่กรอบ ๆ ปลาหมึกสด และตับ ทั้งหมดนี้หมักด้วยเครื่องเทศสูตรแต้จิ๋วรวมทั้งเต้าเจี้ยว ตอกไข่ดิบมาด้วย 1 ฟอง เวลาจะกินให้ตีไข่ผสมคลุกเคล้าแล้วเทเครื่องลงในหม้อทั้งชาม ใส่ผักตามลงไป ตักใส่ชามแล้วกินกับน้ำจิ้มผสมเต้าหู้ยี้สีชมพูและกระเทียมดอง ครบทุกรสเปรี้ยวเค็มหวาน จัดจ้านเข้มข้น ยิ่งเนื้อวัวกับเนื้อหมูหมักนี่คือมอบมงให้ นุ่มอร่อยเวอร์ ถ้ายังไหวสั่งเพิ่มไปเถอะ ดีงามสมควรแก่การสั่งเพิ่มมากจ้า!

อีกเมนูสูตรโบราณประจำสาขาใหญ่ คือ “เนื้อและหมูกระทะเจงกิสข่าน” หมักเครื่องอีกสูตรหนึ่งนาน 4-5 ชั่วโมง ใส่งาขาวกับน้ำมันงา สุกแล้วจิ้มกับน้ำจิ้มรสหอมหวาน กระทะนี้รูปร่างเหมือนหมวกทหารมองโกลในสมัยโบราณ เลยได้ชื่อตามจอมทัพเจงกิสข่าน มาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งถ้าใครอยากสั่งเครื่องอื่น ๆ เช่น ตับ และอาหารทะเลต่าง ๆ ก็เปิดเมนูจิ้มเลยจ้ะ สั่งเพิ่มได้เลย! อย่าเพิ่งรีบรับบทนางอิ่ม ถ้ายังไม่ได้ชิม “เนื้อปูก้อนผัดพริกขี้หนูสวน” เผ็ดหอมอร่อย ให้เนื้อปูก้อนไซส์จัมโบ้ตรงส่วนกรรเชียงปูขาหลัง ปังกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! “เนื้อปูก้อนผัดไข่เค็ม” ไข่เค็มเน้น ๆ เคลือบเนื้อปูอวบอ้วนหอมมัน ๆ และ “ก๋วยเตี๋ยวหลอดเนื้อปู” ที่เน้นเนื้อปูล้วนเอาไปผัดแล้วห่อด้วยก๋วยเตี๋ยว ใครไม่สั่งมาลองคือพลาดมาก! ถ้าไปกันเยอะ ๆ แนะนำสั่ง “เป็ดปักกิ่ง” ตัวใหญ่เบ้อเริ่มมาเลย ใช้เป็ดขนาด XXL อบในแคปซูลพิเศษสำหรับย่างเป็ดจนหนังกรอบกรุบ อันนี้เลิฟมาก เปิดตี้เลย อยากให้ลอง! เดี๋ยวนี้ Earw Thai เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ มีสาขามากมายถึง 16 สาขาแล้ว บอกเลยว่าสะดวกสบาย ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น แต่ถ้าอยากกินเมนูให้ครบเครื่องทุกอย่างแล้ว ให้พุ่งที่สาขาดั้งเดิม เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ได้ทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงครึ่งถึง 5 ทุ่มจ้า

📍 พิกัด : ถ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า ก่อนถึงสี่แยกอรุณอมรินทร์

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ

thumbnail
thumbnail

8. เรือนเพชรสุกี้
“สุกี้ยากี้สไตล์ไทย-จีน อร่อยฟินร่วมสมัย เสิร์ฟจานใหญ่แบบจุก ๆ”


ภัตตาคารสุกี้ยากี้ไหหลำเก่าแก่อายุ 53 ปี (เริ่ม พ.ศ. 2511) ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เสิร์ฟมาแบบจานใหญ่เบ้อเร่อ เจอแล้วจะอึ้ง ขายดีสุดอันดับหนึ่งคือ “สุกี้หมูล้วน” ส่วนลูกค้าเก่าแก่ยังนิยม “สุกี้เนื้อล้วน (เนื้อวัว)” และ “สุกี้ไก่ล้วน” นอกจากนี้ก็มีสุกี้รวมมิตรทะเล ประกอบด้วยเครื่องเคราจากทะเลแบบจุก ๆ ทั้งชิกุวะหรือลูกชิ้นปลาหลอด ลูกชิ้นปลาหมึก หอยนางรม กุ้ง แมงกะพรุน เนื้อปลากะพง ปลาหมึกสด และปลาหมึกแช่ การหมักเนื้อต่าง ๆ นั้นจะหมักจนนุ่มแต่ไม่นุ่มจนไม่เหลือความเป็นเนื้อ แต่ละจานมีไข่ดิบโปะมาหนึ่งฟอง รวมทั้งมีเต้าเจี้ยวบดปรุงรสสูตรเรือนเพชรอีกด้วย ทีเด็ดอีกอย่างอยู่ที่น้ำจิ้มใส่เต้าหู้ยี้แบบโบราณ ปรุงรสเปรี้ยวเค็มหวานเผ็ดหอมอร่อย อยากขอพริก กระเทียม และมะนาวมาปรุงเพิ่มก็ได้ตามใจชอบ จะแอบแซ่บ แอบหวานก็ตามใจเลย

ยังมีเครื่องสุกี้อื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งของที่ร้านทำเองนั้น มี 4 อย่าง คือเกี๊ยวปลาหนึบอร่อย ลูกชิ้นกุ้งเห็ดหอม ลูกชิ้นปลาหมึกแน่น ๆ และลูกชิ้นหมู ส่วนอื่น ๆ ก็มี เนื้อปลาแซลมอน หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ปลาสวรรค์ ตับ ไส้อ่อนและเครื่องในต่าง ๆ เต้าหู้ปลาและเต้าหู้ปลาไส้ชีส หมูสาหร่าย เนื้อริบอายสไลซ์ เนื้อน่องลายสไลซ์ มากมายก่ายกองมากจ้า เยอะจริงเยอะจัง ปังสุด! รายการอาหารอื่น ๆ สไตล์ไทย-จีนก็มีอีกเพียบ เหมือนภัตตาคารจีนใหญ่ ๆ เมนูซิกเนเจอร์ประจำร้าน ยกให้ “น่องไก่เรือนเพชร” ให้มาทั้งส่วนน่องและสะโพก เด็กกินได้ผู้ใหญ่กินดี หนังกรอบสีออกแดง ๆ กลมกล่อมหอมอร่อย ออส่วนกระทะร้อน ใส่หอยนางรมมาแบบจุใจ และโหงวก๊วยตะกร้าเผือกใส่เครื่องสารพัดแปดชนิด และเมนูปลากะพงทอดราดซีอิ๊ว ทอดสามรส ทอดราดน้ำปลาปรุงรสจนหอมเข้มข้น กินกับยำมะม่วง แซ่บ ๆ เรือนเพชรสุกี้ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 11 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม อาหารที่นี่จานใหญ่คุ้มค่าราคาดีมาก พากันมาเยอะ ๆ ถึงจะดี เปิดตี้ให้ไว แท็กชวนเพื่อนเลยจ้า!

📍 พิกัด : ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ฝั่งขาออก ก่อนถึงแยกพร้อมพงษ์

อ่านรีวิวจากเชลล์ชวนชิมและการเดินทางได้ที่ เรือนเพชรสุกี้

thumbnail